พิจิตร 18 ก.พ. – เกษตรกร จ.พิจิตร หันมาปลูกถั่วลิสง หลังเก็บเกี่ยวข้าวในที่ดิน 18 ไร่ ได้จับเงินแสนใน 3 เดือน แถมไม่ต้องใช้น้ำและลดการเผาตอซัง ต้นเหตุฝุ่น PM2.5
นายสุเทพ สายทอง อายุ 76 ปี ชาวชุมชนปากคลองท่าหลวง ต.ในเมือง อ.เมือง จ.พิจิตร ยึดอาชีพปลูกถั่วลิสงเป็นรายได้เสริม หลังจากการทำนาข้าว โดยปลูกถั่วพันธุ์ขาวพวง 18 ไร่ ลงทุนในการปลูกถั่วลิสง พื้นที่ 1 ไร่ มีต้นทุน คือ ค่าเมล็ดพันธุ์ และปุ๋ยต่างๆ ประมาณ 8,000 บาทต่อไร่
วิธีการปลูก ใช้รถไถพรวนดิน ยกร่อง แล้วใช้เครื่องหยอดเมล็ดถั่วลิสง มีระยะห่างระหว่างแถวประมาณ 30 เซนติเมตร ในพื้นที่ 18 ไร่ จะปลูกแบบไล่รุ่น โดยจะเริ่มปลูกในช่วงเดือนพฤศจิกายน ผลผลิตจะมีเก็บยาวไปจนถึงเดือนเมษายน เคล็ดลับของลุงสุเทพ บอกว่าหากจะปลูกให้ฝักถั่วลิสงใหญ่ ให้ใช้เมล็ดพันธุ์ 3 – 4 กิโลกรัมต่อไร่ หลุมละ 3 – 4 เมล็ด จะได้ผลผลิตที่เยอะ ออกมาเป็นพวงสวย ฝักใหญ่ สำหรับแมลงศัตรูพืช ที่ต้องระมัดระวัง คือ เพลี้ยจักจั่น หนอนชอนใบ เพลี้ยไฟ เพลี้ยอ่อน และหนอนกินใบ ซึ่งเกษตรกรสามารถใช้เชื้อราบิวเวอร์เรียหรือราขาว ซึ่งเป็นเชื้อรากำจัดแมลงศัตรูพืช สามารถลดต้นทุนการผลิตและลดการใช้สารเคมีในแปลงได้
สำหรับอายุการเก็บเกี่ยวถั่วลิสงจะอยู่ที่ 90-100 วัน 1 ไร่ สามารถเก็บผลผลิตได้ประมาณ 80 ถัง ถังละ 8 กิโลกรัม จำหน่ายราคาถังละ 300 บาท การเก็บผลผลิตใช้แรงงานคนในการเก็บเกี่ยว โดยมีการรับจ้างค่าเก็บ ถังละ 50 บาท ทำให้ 1ไร่ เกษตรกรจะมีรายได้ประมาณ 24,000 บาท ด้านการตลาดจะมีพ่อค้ามารับซื้อ ทั้งพ่อค้าให้พื้นที่ และพ่อค้าจากต่างพื้นที่
การปลูกถั่ว ถือเป็นการสร้างรายได้เสริม ช่วยพักดิน หรือทำให้เกิดการปลูกพืชแบบหมุนเวียน ซึ่งจะทำให้เกิดโรคในพืชลดน้อยลง ที่สำคัญยังช่วยลดการเผาตอซัง ต้นเหตุของฝุ่น PM2.5ได้เป็นอย่างดี.- สำนักข่าวไทย