เชียงใหม่ 17 ก.พ. – กลายเป็นเรื่องวุ่นวาย เมื่อหนุ่มเชียงใหม่คนหนึ่งกุเรื่องทำร้ายลูกสาววัย 7 ขวบ โดยเอาเลือดหมูทาหน้าลูกสาวถ่ายคลิปโพสต์ลงในโซเชียล เพื่อง้อภรรยา แต่ภรรยาตกใจแจ้งตำรวจให้ช่วยเหลือ สุดท้ายสามีสารภาพเรียกร้องความสนใจ แต่กลับกลายตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับติดตัวอีกเพียบ
ภาพเด็กหญิงวัย 7 ขวบ ที่ใบหน้าเต็มไปด้วยเลือด และร้องความช่วยเหลือ ซึ่งนายสถาพร หรือหนึ่ง พ่อวัย 35 ปี ถ่ายคลิปส่งให้นางสาวเอ ภรรยาวัย 32 ปี ที่ทะเลาะกัน ก่อนโพสต์ลงในโซเซียล จนสร้างความตื่นตกใจผู้คนที่เห็นคลิปดังกล่าว โดยเฉพาะนางสาวเอที่วิ่งโร่แจ้งความกับตำรวจ สภ.หางดง จ.เชียงใหม่ ให้ช่วยเหลือลูกสาวเมื่อคืนที่ผ่านมา โดยตำรวจให้นางสาวเอโทรหานายหนึ่ง จนยอมส่งโลเกชั่นให้ไปเจอที่ป่าละเมาะในตำบลสบแม่ข่า แต่มีข้อแม้ให้ภรรยาไปคนเดียว แต่หลังจากรู้ว่ามีการแจ้งความจึงพาลูกสาวขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป ภรรยาโทรหาเป็นระยะๆ จนติดต่อได้อีกครั้ง จนได้คุยกับหนึ่งและลูกสาว โดยบอกว่าพาลูกสาวไปเที่ยวงานวัด และอยากตกลงปัญหากันที่บ้านญาติอีกคนหนึ่ง
โดยหนึ่งให้นางสาวเอเรียกรถผ่านแอปฯ ไปเจอที่จุดหมาย เพื่อไม่ให้ตำรวจติดตาม จนรู้จุดนัดหมายตำรวจเข้าปิดล้อม จนนายหนึ่งที่ขี่มอเตอร์ไซค์มาพร้อมลูกสาววัย 7 ขวบ จึงเข้าจับกุม
จากการสอบสวนนายหนึ่ง ยืนยันรักลูกสาวมาก ไม่เคยคิดจะทำร้าย เลือดที่ใช้ทาหน้าลูกเป็นเลือดหมูที่เตรียมไปใช้ตกปลา อ้างว่าลูกสาวช่วยออกอุบายให้แกล้งแม่ เพื่อจะได้กลับมาอยู่ด้วยกัน ตนเห็นด้วย เพราะระแคะระคายภรรยามีคนอื่น จึงอยากรู้ว่าภรรยายังสนใจและจะกลับมาอยู่ด้วยกันไหม
โดยญาติบอกว่าทั้งสองคนอยู่ด้วยกันมา 10 ปี ทะเลาะตบตีมีปัญหาครอบครัวกันมาตลอด จนห่างกันไป ต่างคนต่างมีคนคุย และยังช่วยกันดูแลลูก จนเกิดเรื่องนี้ขึ้น
เหตุการณ์เกือบจบลงด้วยดี แต่ตำรวจพบว่านายหนึ่งมีหมายจับคดีลักทรัพย์ ที่ สภ.เมืองเชียงใหม่ จึงต้องควบคุมตัวไว้ พร้อมๆ กับนายจ้างเก่าที่รู้ข่าวมาตามรถที่ค้ำประกันให้ แต่นายหนึ่งส่งได้ 3 เดือน และเชิดรถหายไป รวมทั้งเจ้าหน้าหนี้อีกหลายคนที่นายหนึ่งรับจ้างต่อเติมบ้าน เบิกเงินไปก่อนแต่ทิ้งงาน
ล่าสุด กัน จอมพลัง พาภรรยามาพูดคุยกับหนึ่งต่อหน้าตำรวจ โดยภรรยาขอให้ดำเนินคดีความรุนแรงในครอบครัว และทำร้ายร่างกาย แต่หากติดคุกจะพาลูกไปเยี่ยม และหลังพ้นโทษสามารถเจอหน้าลูกสาวได้
นายหนึ่งยอมรับผิดทุกอย่างที่ทำไปเพื่อเรียกร้องความสนใจ และหากออกมาได้จะปรับปรุงตัวและดูแลลูก โดยไม่ยุ่งเกี่ยวกับภรรยาอีก.-สำนักข่าวไทย