เชียงใหม่ 4 ก.พ. – อดีตผู้สมัครนายก อบจ.เชียงใหม่ พร้อมผู้สมัคร ส.อบจ. อำเภอดอยสะเก็ด พรรคประชาชน ร้อง กกต. เชียงใหม่ ขอให้มีการนับคะแนนใหม่ หลังมีบัตรเสียกว่า 41,000 ใบ พร้อมตั้งข้อสังเกตความไม่โปร่งใสของการนับคะแนน รวมถึงให้ กกต.พิจารณาระบบนับคะแนนที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายพันธุ์อาจ ชัยรัตน์ อดีตผู้สมัครนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หรือนายก อบจ. พรรคประชาชน พร้อมด้วยนายชนัตถ์ สุทธสุวรรณ ผู้สมัครรับเลือกตั้งสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ หรือ ส.อบจ. อำเภอดอยสะเก็ด ยื่นหนังสือร้องเรียน สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอให้มีการนับคะแนนใหม่หลังพบว่ามีบัตรเสียจำนวนมากในการเลือกตั้งนายก อบจ. และ ส.อบจ. จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันเสาร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา โดยมีตัวแทนสำนักงาน กกต.เชียงใหม่ มารับหนังสือ
นายพันธุ์อาจ กล่าวภายหลังยื่นหนังสือต่อ กกต.ว่าตนและพรรค รวมทั้งประชาชนจำนวนมาก ได้ตั้งข้อสังเกตถึงจำนวนบัตรเสียที่มีจำนวนมากถึง 41,000 ใบ แม้ตัวเลขบัตรเสียจะเท่ากับการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา แต่ครั้งนี้มีผู้มาเลือกตั้ง เพียงร้อยละ 66 จากครั้งก่อนมาใช้สิทธิ์ ร้อยละ 72 ทำให้เห็นว่าตัวเลขบัตรเสียมีจำนวนสูงขึ้น นอกจากนี้ยังได้รับการร้องเรียนจากประชาชนด้วยว่ามีการติดป้ายสัญลักษณ์ที่กากบาทแบบถูกต้องและไม่ถูกต้องที่มีจำนวนมากจนประชาชนเกิดความสับสน ส่วนในบางเขตนั้นนับคะแนนโดยขานอย่างรวดเร็วทำให้ไม่สามารถตรวจสอบได้ วันนี้จึงขอส่งหนังสืออย่างเป็นทางการให้กับ กกต.เชียงใหม่ เพื่อตรวจสอบต่อไปและเตรียมยื่นให้กับเขตนั้นๆ ด้วย
โดยคาดหวังว่าการยื่นหนังสือครั้งนี้จะนำไปสู่ กระบวนการที่กระจ่างโปร่งใสต่อไป เพราะวิธีการในการนับคะแนนแบบนี้ อาจไม่สามารถตอบคำภามของประชาชนได้ในปัจจุบันแล้ว ต่อไปในอนาคต กกต.อาจต้องใส่นวัตกรรมบางอย่างเข้าไปดูแลเรื่องนี้ รวมถึงดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ด้วย เพราะตัวเลขบัตรเสียนั้นไม่ลดลงแถมมีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้น 4 ปีก่อนเป็นแบบนี้ 4 ปีหลังก็เป็นแบบเดิม คงถึงเวลาที่ กกต.ต้องกลับมาพิจารณาแนวทางแก้ไขปัญหาอย่างไร จึงจะมีระบบที่น่าเชื่อถือและตรวจสอบได้ อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นอย่างไร เป็นโจทย์ที่ กกต.จะต้องไปหารือเพราะไม่อยากให้เป็นการผลักภาระให้กับประชาชนและผู้สมัครอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องวันเลือกตั้งจากวันอาทิตย์เป็นวันเสาร์ที่ส่งผลกระทบกับประชาชนผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งอย่างมาก. -719-สำนักข่าวไทย