ผญบ.ป้ายแดงดับปริศนาหน้าบ้านพบกระสุน แต่ไม่ถูกยิง

อ่างทอง 23 ม.ค. – ผู้ใหญ่บ้านป้ายแดงดับปริศนา หลังกลับจากตั้งวงดื่มเหล้ากับเพื่อนบ้าน พบปลอกกระสุนปืนกระจายเกลื่อนถนน แต่ไม่พบรอยกระสุนที่ร่าง ผู้การสั่งสืบหาสาเหตุการเสียชีวิตด่วน


ภาพกล้องวงจรปิดภายในบ้านหลังหนึ่ง ในหมู่ที่ 10 ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง จับภาพขณะที่นายสามารถ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้านเดินออกไปเปิดรั้ว หลังมีไฟคล้ายไฟรถจักรยานยนต์ผ่านไปก่อนหน้า โดยหลังจากนั้นภาพที่เห็นก็เป็นสุนัขที่วิ่งหนีอย่างตื่นตกใจ ก่อนที่จะมีหญิงใส่เสื้อสีแดงวิ่งเข้าไปที่บริเวณประตูและวิ่งกลับเข้ามาอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งตำรวจ สภ.แสวงหา ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตบริเวณหน้าบ้านผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 10 ต.แสวงหา อ.แสวงหา จ.อ่างทอง จึงรีบไปตรวจสอบที่เกิดเหตุ

เมื่อไปถึงบริเวณประตูรั้วหน้าบ้านที่เปิดอยู่ พบร่างของนายสามารถ อายุ 53 ปี ผู้ใหญ่บ้าน นอนคว่ำหน้าเสียชีวิตอยู่ในที่เกิดเหตุ มีบาดแผลที่บริเวณใบหน้าคล้ายถูกกระแทกอย่างแรง ใกล้ร่างของนายสามารถบริเวณขา พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ยี่ห้อกล็อก 19 ตกอยู่ 1 กระบอกมีกระสุนคารังเพลิง 1 นัด และอยู่ในแม็กกาซีนอีก 2 นัด นอกจากนี้บริเวณถนนหน้าบ้านยังพบปลอดกระสุนปืนขนาด 9 มม. สีเงินตกอยู่อีก 4 ปลอก ซึ่งเป็นชนิดเดียวกันกับปืนที่พบในที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน


เพื่อนบ้าน เล่าว่า ช่วงหัวค่ำได้นั่งดื่มเหล้ากับนายสามารถ ที่ร้านค้าใกล้ๆ บ้าน ก่อนจะแยกย้ายกันไป สักพักก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นหลายนัด เมื่อออกมาดูก็พบนายสามารถนอนเสียชีวิตอยู่แล้ว

ขณะที่นางคารมณ์ ภรรยาของผู้ใหญ่สามารถ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุนายสามารถกลับเข้าบ้านมานอนหลับ แต่ได้ยินเสียงรถมาจอดอยู่บนถนนหน้าบ้าน จึงหยิบปืนเดินออกมาดู ก่อนที่ตนเองจะได้ยินเสียงปืนดัง 3-4 นัด แล้วก็มาพบร่างสามีนอนเสียชีวิตแล้ว

สำหรับ นายสามารถ เพิ่งจะได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ใหญ่บ้าน เมื่อวันที่ 26 ธันวาคมที่ผ่านมา ซึ่งปกติก็ไม่มีปัญหาความขัดแย้งกับใคร


ด้าน พล.ต.ต.กิตติ สกุณี ผู้บังคับการตำรวจภูธร จ.อ่างทอง เปิดเผยว่า ตรวจสอบสภาพศพผู้ตายเบื้องต้น ไม่พบร่องรอยบาดแผล ซึ่งคงต้องส่งผ่าพิสูจน์ ตอนนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดประเด็นการตายได้ว่าเกิดจากอะไร แต่จะสืบสวนทุกประเด็นทั้งการเลือกตั้งที่ผ่านมา หรือการที่ผู้ตายเพิ่งจะดื่มสุรามากับเพื่อน ส่วนประเด็นการล้มฟาดพื้นเองก็เป็นประเด็นหลักที่ต้องเช็กกันว่าสุราที่ผู้ตายดื่มไปมีผลทำให้ล้มฟาดพื้นจนเสียชีวิตหรือไม่ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัยตึก สตง.ถล่ม

นายกรัฐมนตรี เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่กู้ภัย ค้นหาผู้สูญหายเหตุตึก สตง.ถล่ม พร้อมสอบถามถึงอุปสรรคในการทำงานและความต้องการเพิ่มเติม

ปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน

รองผู้ว่าฯ กทม. เผยยอดผู้เสียชีวิตเหตุตึกถล่ม ที่ผ่านการพิสูจน์อัตลักษณ์แล้ว อยู่ที่ 16 ราย และอยู่ระหว่างการค้นหาอีก 78 ราย พร้อมแจงปรับวิธีรายงานยอดผู้เสียชีวิต ให้นิติเวชยืนยันก่อน