น้องสาวกอดกันร่ำไห้ร้องพี่ชายฮุบที่ดินมรดก 15 ไร่

บุรีรัมย์ 20 ม.ค. – ป้าตาบอดและน้องสาวชาวบุรีรัมย์ กอดกันร่ำไห้ร้อง “ทนายอั๋น” ช่วย หลังพ่อแม่ตาย พี่ชายคนโตฮุบที่มรดก 15 ไร่ ไม่แบ่งพี่น้องอีก 7 คน ยื่นฟ้องศาลจนชนะคดีตั้งแต่ปี 57 ศาลสั่งให้แบ่งที่พิพาท แต่พี่ชายไม่สนคำสั่งศาล ฮุบทำกินคนเดียว จนน้องทยอยตายไปแล้ว 3 คน ผ่านไปกว่า 10 ปี น้องที่ชนะคดียังเข้าไปทำกินไม่ได้ เพราะโดนขู่ยิงทิ้ง


นางสัมฤทธิ์ อายุ 66 ปี พิการตาบอด และนางทองดี อายุ 59 ปี สองพี่น้องชาว อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ หอบหลักฐานและคำพิพากษาศาลที่ชนะคดีตั้งแต่ปี 2557 กอดกันร้องไห้ ขอความช่วยเหลือจากนายภัทรพงศ์ ศุภักษร หรือทนายอั๋น บุรีรัมย์ หลังจากพ่อแม่เสียชีวิต พี่ชายคนโตจากจำนวนพี่น้องทั้งหมด 8 คน ฮุบที่ดินมรดก เนื้อที่ประมาณ 17 ไร่เศษ ซึ่งไม่มีเอกสารสิทธิครอบครอง ทำกินเพียงผู้เดียว ทั้งที่แม่สั่งเสียไว้ก่อนตายให้แบ่งแก่พี่น้องทุกคนเท่ากัน จากนั้นเมื่อปี 2552 น้องชายและน้องสาวจำนวน 5 คน จึงร่วมกันเป็นโจทก์ยื่นฟ้องพี่ชายคนโต

ต่อมาปี 2553 ศาลจังหวัดบุรีรัมย์มีคำพิพากษาให้พี่ชายคนโตซึ่งเป็นจำเลย แบ่งที่ดินแปลงพิพาทดังกล่าวให้แก่น้องทั้ง 5 คน ที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง คนละ 1 ใน 7 ของจำนวนที่ดินที่พิพาท และให้จำเลยชำระค่าฤชาธรรมเนียมแทนโจทก์ทั้ง 5 คนด้วย


ต่อมาจำเลยยื่นอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์ภาค 3 พิพากษายืนตามศาลชั้นต้น แต่จำเลยยังได้ยื่นฎีกาอีกเมื่อปี 2557 แต่ศาลไม่รับฎีกาของจำเลย ถือว่าคดีสิ้นสุด แต่แม้น้องทั้ง 5 คนที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องพี่ชายคนโตที่หวังฮุบที่ดินมรดกคนเดียว จะชนะคดี ศาลสั่งให้แบ่งที่ดินพิพาทเนื้อที่ 17 ไร่ ให้แก่น้องทั้ง 5 คนๆ ละ 1 ใน 7 แล้วก็ตาม แต่พี่ชายคนโตกลับไม่ได้สนคำพิพากษาศาล ยังไปล้อมรั้วสร้างที่อยู่อาศัย ขุดสระครอบครองทำกินแต่เพียงผู้เดียว จนน้องชายทยอยเสียชีวิตไปแล้ว 3 คน ยังไม่เคยได้เข้าไปทำกินในที่ดินมรดกที่ชนะคดีเลย

ปัจจุบันเหลือน้องสาว 2 คนที่ยังมีชีวิต คนหนึ่งตาบอด อีกคนต้องตระเวนไปรับจ้างหากินไปวันๆ เพราะไม่มีที่ทำกินเป็นของตัวเอง เพราะแม้ศาลจะตัดสินให้ชนะคดีให้พี่ชายแบ่งที่พิพาทแล้ว แต่ผ่านไปกว่า 10 ปี ยังไม่มีใครสามารถเข้าไปทำกินในที่ดินดังกล่าวได้เลย เพราะแค่ไปดูพี่ชายก็ขู่ว่าหากใครเข้าไปจะยิงให้ตาย ทุกคนจึงเกิดความกลัว จากกรณีนี้จึงร้องให้ทนายอั๋นช่วยเหลือ เพราะเดือดร้อนไม่มีที่ทำกิน

จากนั้นทนายอั๋น และผู้เสียหาย ได้ลงไปดูพื้นที่พิพาทที่ชนะคดี ซึ่งอยู่ติดถนนในหมู่บ้าน ขณะที่กำลังเดินดูพื้นที่ มีลูกชายของพี่ชายคนโตออกมาใช้มือถือถ่ายภาพทนายความ ผู้สื่อข่าว และผู้เสียหาย พร้อมกับอ้างว่าที่ดินแปลงนี้ตนเป็นคนครอบครองทำกินมากว่า 20 ปีแล้ว ไม่ได้เกี่ยวกับพ่อที่มีการต่อสู้คดีก่อนหน้านี้ และไม่รับรู้เกี่ยวกับคำพิพากษาศาล เพราะตนครอบครองเอง ไม่เกี่ยวกับพ่อ เพราะพ่อไม่ได้อยู่ที่นี่แล้ว คนอื่นไม่มีสิทธิมาอ้างสิทธิใดๆ


ด้านทนายอั๋น บอกว่า เท่าที่ลงมาดูคดีนี้ ทางผู้เสียหายซึ่งเป็นโจทก์ฟ้องได้ใช้สิทธิทางศาล และศาลพิพากษาแล้วว่าให้จำเลยแบ่งที่ดินที่พิพาทคนละ 1 ใน 7 แก่โจทท์ทั้ง 5 คน ซึ่งคดีดังกล่าวสิ้นสุดแล้ว แต่จำเลยที่แพ้คดีไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล เพราะจำเลยยังอ้างสิทธิการครอบครองทำประโยชน์ผู้เดียว และยังมีการข่มขู่ห้ามใครเข้าไปในที่ดินจะยิงทิ้ง ทำให้โจทก์ที่ชนะคดียังไม่สามารถเข้าไปทำกินหรือทำประโยชน์ในที่ดินดังกล่าวได้ ก็ได้ยื่นร้องสำนักนายกรัฐมนตรีให้ช่วยเหลือ ทางสำนักนายกรัฐมนตรีก็พิจารณาส่งเรื่องมายังอัยการจังหวัดบุรีรัมย์ หาทางช่วยเหลือด้วยการนำที่ดินแปลงพิพาทดังกล่าวเข้าสู่กระบวนการขายทอดตลาด แต่ไม่มีใครกล้าซื้อ เพราะจำเลยยังอ้างสิทธิและอยู่อาศัยในที่ดินดังกล่าว ปัญหาของเรื่องนี้คือจำเลยไม่ยอมรับและปฏิบัติตามคำพิพากษาศาล และลูกชายของจำเลยยังจะมาอ้างสิทธิขึ้นมาใหม่ว่าตนเองครอบครองที่ดินแปลงดังกล่าวมากว่า 20 ปี ไม่เกี่ยวกับพ่อ ทำนองจะสู้คดีใหม่ เหมือนว่าครอบครองปกปักษ์ ซึ่งความจริงทำไม่ได้ เพราะเป็นที่ดินไม่มีเอกสารสิทธิหรือกรรมสิทธิ์ ส่วนตัวจึงอยากให้มองถึงเรื่องมนุษยธรรม คืออยากให้เห็นความเป็นคนสายเลือดเดียวกัน หากพูดคุยกันได้ก็อยากตกลงคุยกัน แล้วแบ่งกันตามคำสั่งศาล แต่หากไม่แบ่งเป็นที่ดิน อาจจะเยียวยาดูแลน้องๆ ที่เขาชนะคดีแต่ไม่เคยได้ประโยชน์ใดๆ จากที่ดินมรดกดังกล่าวเลย แต่หากยังดื้อ ทางผู้เสียหายสามารถยื่นฟ้องขับไล่ตามกระบวนการได้.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ตึกถล่มพบเสียชีวิตเพิ่ม

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่าง

พบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 5 ราย ในพื้นที่โซน B และโซน C มีซากอาคารถล่มทับร่างอยู่ ทีมกู้ภัยเร่งกู้ร่างและค้นหาผู้สูญหายใต้ซากอาคารต่อเนื่อง

ชายวัย 50 ไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องเมียท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากตึก สตง.

ชายวัย 50 ปี ยกมือไหว้ขอโทษ ไม่มีเจตนากุเรื่องภรรยาท้อง 4 เดือน ติดใต้ซากอาคาร สตง.ถล่ม ด้านรอง ผบช.น. เตือนอย่าใช้โอกาสที่มีผู้ประสบเหตุสร้างความสงสารหลอกเอาทรัพย์สิน มีความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน

ออกแล้ว! ผลตรวจเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่ม พบไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น

ผลตรวจตัวอย่างเหล็ก 28 ชิ้น ตึก สตง.ถล่มจากแผ่นดินไหว พบได้มาตรฐาน 15 ชิ้น ไม่ได้มาตรฐาน 13 ชิ้น ยังไม่สรุปเป็นสาเหตุตึกถล่ม ชี้ต้องดูหลายองค์ประกอบ

ข่าวแนะนำ

ตึกถล่ม

วันที่ 6 ปรับแผนใช้เครนยักษ์ยกปูนค้นหา 72 ชีวิต

เข้าสู่วันที่ 6 ทีมงานกู้ซากตึกถล่ม ปรับแผนค้นหา 72 ชีวิต ด้านญาติผู้สูญหายยังคงรอความหวัง บางส่วนจุดธูปปักลงดิน ขอแม่ธรณีเปิดทางช่วยทุกคนรอดชีวิต

นายกฯ เยี่ยมญาติตึกถล่ม

นายกฯ เยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย

นายกฯ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจญาติผู้ประสบภัยตึกถล่มที่ศูนย์พักคอย “ขอให้ดูแลตัวเอง อย่าพึ่งป่วย”

กิจการร่วมค้าซีไอเอส

สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” จ่อยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่

“มนพร” รมช.คมนาคม สั่งฟัน “กิจการร่วมค้าซีไอเอส” เตรียมยกเลิกสัญญาจ้างสร้างเทอร์มินัลใหม่ “สนามบินนราธิวาส” พร้อมขึ้นแบล็คลิสต์เป็นผู้ทิ้งงาน ห้ามรับงานภาครัฐ หลังพบสร้างช้ากว่าแผน 60.76% งานอืดรวม 631 วัน มอบ ทย. ลุยตรวจสอบวัสดุอุปกรณ์ จี้ให้รายงานกลับมาภายใน 3 วัน ยันทุกโปรเจกต์ต้องผ่านมาตรฐาน-การตรวจเช็กจากวิศวกร

จำคุกชาวจีน

ศาลสั่งจำคุก 4 ชาวจีน ขนเอกสาร ตึก สตง.ถล่ม

ศาลพิพากษาจำคุก 4 ชาวจีน เข้าไปขนเอกสาร จากพื้นที่ อาคาร สตง. ถล่ม คนละ 2 เดือน ปรับ 6,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงโทษไว้มีกำหนด 1 ปี