ล็อกเป้าค้นเพิ่มอีก 2 จุด กวาดล้างปืน-ผู้มีอิทธิพล

ปราจีนบุรี 19 ธ.ค. – ตำรวจเดินหน้าล็อกเป้าค้นบ้านและสำนักงานของคนดังเมืองปราจีนบุรี โดยวันนี้นำหมายเข้าค้น 2 จุด หนึ่งในนั้นเป็นอู่ซ่อมรถที่มีชื่อ “รองอุ๊” ร่วมเป็นเจ้าของ


เวลา 06.00 น. วันนี้ (19 ธ.ค.) ตำรวจภูธรภาค 2 พร้อมตำรวจกองบังคับการปราบปราม ถือหมายไปที่อู่ซ่อมรถแห่งหนึ่งตั้งอยู่หมู่ 6 ต.บางพระ อ.เมืองปราจีนบุรี ซึ่งเจ้าหน้าที่สืบทราบว่ามีชื่อของนายกฤษฎ์ หรือ รองอุ๊ รองนายก อบจ.ปราจีนบุรี ร่วมเป็นเจ้าของ เพื่อตรวจค้นอาวุธปืน เครื่องกระสุน และสิ่งผิดกฎหมาย ป้องกันเหตุรุนแรงช่วงการรับสมัครเลือกตั้งนายก อบจ.ปราจีนบุรี ที่จะมีขึ้นในอีก 4 วันข้างหน้า หรือวันที่ 23 ธันวาคมนี้

การตรวจค้นเจ้าหน้าที่นำไฟล์กล้องวงจรปิดของอู่ไปตรวจสอบเชิงลึก โดยมีผู้จัดการอู่ยืนดู และบอกว่าพร้อมให้ความร่วมมือกับตำรวจเต็มที่ เพียงแต่ไม่รู้ว่าไฟล์ในกล้องย้อนไปได้กี่วัน ขณะเดียวกันยืนยันว่าเจ้าของอู่ชื่อนางสาวนฤมล ไม่ใช่รองอุ๊ แต่รองอุ๊ได้มาร่วมหุ้นส่วนหรือไม่ ไม่ทราบ แต่ส่วนใหญ่รองอุ๊จะให้ลูกน้องนำรถกระบะเข้ามาขัดสี และจ่ายเป็นเงินสด นานๆ ครั้งรองอุ๊จะขับรถมาเอง และวันที่รองอุ๊ขับมาเองมักไม่ได้คุยกับใคร ยืนยันอู่ไม่มีสิ่งผิดกฎหมาย


ค้นจุด 2 เจ้าของบ้านลั่นสัมพันธ์สะบั้น “ไม่เผาผี” รองอุ๊
ส่วนอีกจุดตำรวจไปค้นบ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ ต.เกาะลอย อ.ประจันตคาม ที่เปิดเป็นบริษัทรับเหมาก่อสร้าง หลังพบข้อมูลว่าเจ้าของบ้านเคยมีความเกี่ยวข้องทางธุรกิจกับรองอุ๊ และเคยเป็นเพื่อนร่วมสังสรรค์กัน

การนำหมายไปตรวจค้นพบเพียงลูกชายและพี่สาว ส่วนนายอภิชาติ เจ้าของบ้าน ไป จ.ระยอง กับแฟนสาว ตั้งแต่เมื่อวาน (18 ธ.ค.) ส่วนห้องทำงานของเจ้าของบ้าน พบพระพุทธรูป พระเครื่องจำนวนมาก และมีเอกสารเกี่ยวกับการประมูลโครงการก่อสร้างหลายรายการ ไม่พบอาวุธปืน แต่พบรถเลขทะเบียนไม่ตรงกับเลขตัวถัง จึงยึดไปตรวจสอบ

พี่สาวนายอภิชาติให้ข้อมูลว่า หากการเข้าค้นครั้งนี้เกี่ยวกับความคุ้นเคยระหว่างน้องชายกับรองอุ๊ ส่วนตัวยืนยันว่าไม่น่าจะเกี่ยวข้อง เพราะทั้ง 2 คนเลิกคบหากันมานานแล้ว เพราะรองอุ๊เคยโกงเงินน้องชายไปเป็นล้าน จากการร่วมทำโครงการก่อสร้างของ อบจ.ปราจีนบุรี


สอดคล้องกับนายอภิชาติ ที่แม้ตัวไม่อยู่แต่นักข่าวโทรคุยด้วย นายอภิชาติ ยืนยันรู้จักกับรองอุ๊มานาน เพราะเคยทำธุรกิจรับเหมาร่วมกัน โดยรองอุ๊ ในฐานะรองนายก อบจ. มักติดต่อให้ตนรับงานโครงการต่างๆ แต่ความสัมพันธ์ได้สิ้นสุดลงถึงขั้น “ไม่เผาผี” เพราะเมื่อ 2 ปีก่อน ถูกรองอุ๊โกงเงินไป 2 ล้านบาท และฝากทิ้งท้ายถึงรองอุ๊ว่า “ขอให้โชคดี” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล