รวบ 2 ผู้ต้องสงสัยปาระเบิดงานกาชาดอุ้มผาง

ปาระเบิดงานกาชาด

ตาก 14 ธ.ค.- เจ้าหน้าที่คุมตัว 2 วัยรุ่นชาวกะเหรี่ยง ต้องสงสัยขว้างระเบิดกลางงานกาชาดอุ้มผาง เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 3 คน บาดเจ็บอีกครึ่งร้อย


เกิดเหตุระเบิดบริเวณหน้าเวทีรำวงย้อนยุคในงานกาชาด แผ่นดินดอยลอยฟ้า อ.อุ้มผาง จ.ตาก ประจำปี 2567 เมื่อเวลา 23.30 น.ที่ผ่านมา โดยหลังรับแจ้งเหตุ ตำรวจ สภ.อุ้มผาง ระดม หน่วยกู้ชีพโรงพยาบาลอุ้มผางและทีมอาสาสมัคร เข้าตรวจสอบ ปฐมพยาบาลช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ มีชาวบ้าน ทั้งเด็ก วัยรุ่น ผู้ใหญ่และคนสูงวัย จำนวนมาก นอนล้มลงไปกองกับพื้นดิน หน้าเวทีรำวงย้อนยุค และยังมีชาวบ้านอีกจำนวนมากตกใจเสียงระเบิด ต่างรีบวิ่งหนีออกจากจุดเกิดเหตุ

หลังเกิดเหตุ ตำรวจ สภ.อุ้มผาง ขอให้ผู้ไม่เกี่ยวข้องรีบออกนอกจุดเกิดเหตุอย่างเร่งด่วน พร้อมเปิดทางให้ทีมหน่วยกู้ชีพทุกหน่วย และตำรวจ เข้าไปช่วยเหลือตรวจสอบจุดเกิดเหตุ พร้อมปิดกั้นพื้นที่เกิดเหตุเพื่อให้ตำรวจกองพิสูจน์หลักฐานเข้าไปเก็บวัตถุพยานหลักฐาน เบื้องต้นจากการตรวจสอบ พบหลุมระเบิดบนพื้นดิน 1 หลุม มีผู้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 2 คน ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณส่วนสำคัญของร่างกาย มีรายงานมีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมที่โรงพยาบาลอีก 1 คน รวมเสียชีวิต 3 คน และมีผู้ได้รับบาดเจ็บ อีก 56 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 6 ราย


สอบสวนเบื้องต้นทราบว่างานดังกล่าวเป็นงานกาชาดแผ่นดินดอยลอยฟ้า ประจำปี 2567 ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 8 -14 ธันวาคม 2567 คืนเกิดเหตุเป็นคืนก่อนวันสุดท้ายของการจัดงาน มีประชาชนจำนวนมากมาท่องเที่ยวตามโซนต่างๆ โดยงานเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีเหตุทะเลาะวิวาทแต่อย่างใด และเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อระหว่างที่ชาวบ้านจำนวนมาก กำลังเต้นรำประกอบเสียงเพลงอย่างสนุกสนานอยู่หน้าเวทีรำวงย้อนยุค ซึ่งเป็นจุดไฮไลต์ของงาน ก็มีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ขว้างปาวัตถุระเบิดไม่ทราบขนาด ไปตกลงหน้าเวทีรำวงย้อนยุค จนเกิดเสียงระเบิดดังสนั่น 1 ครั้ง

ล่าสุด มีรายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย ก่อเหตุ 2 คน เป็นวัยรุ่นชาวกะเหรี่ยง อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลที่ สภ.อุ้มผาง

“ภูมิธรรม”คาดเหตุระเบิดงานกาชาดอุ้มผาง จากปัญหาวัยรุ่นทะเลาะกัน


นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่าได้รับรายงานเบื้องต้นว่าเหตุเกิดที่อำเภออุ้มผาง โดยเริ่มต้นมีวัยรุ่นชกต่อยกัน จากนั้นมีระเบิดดังขึ้น ส่วนตัวเลขผู้เสียชีวิต ยังไม่ยืนยันต้องขอตรวจสอบให้แน่ชัดก่อน สำหรับระเบิดที่ใช้เป็นระเบิดแสวงเครื่องที่ประกอบขึ้นเอง ไม่ใช่อาวุธสงคราม แต่ขอเวลาให้หน่วยเก็บกู้ระเบิดตรวจสอบก่อนเพื่อความชัดเจน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ไม่ใช่เป็นการก่อเหตุหรือสร้างสถานการณ์ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม ยืนยันว่าไม่ใช่ เพราะตรงนั้นเป็นด่าน ไม่เคยมีความรุนแรง เพราะเป็นเส้นทางส่งออกสินค้าจากไทยเข้าไปที่เมียวดี ซึ่งทั้งฝ่ายเมียนมาและฝ่ายต่อต้านก็อยากให้สินค้าไทยเข้าไปทั้งนั้น ดังนั้นเชื่อว่าไม่มีปัญหาอะไรทั้งนั้น ไม่มีความน่ากังวลใจในเรื่องนี้ และอาวุธที่ใช้ก็ไม่ใช่อาวุธสงคราม จึงคาดว่าเป็นเรื่องการทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่น แต่ต้องดำเนินการสอบสวนก่อน และเมื่อถามว่าช่วงนี้มีงานกาชาดในหลายจังหวัด จำเป็นจะต้องเพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า ที่จริงมาตรการรักษาความปลอดภัยแต่ละจังหวัดมีอยู่แล้ว แต่เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นก็ต้องกำชับให้เสริมมาตรการ และระมัดระวังมากขึ้น เพราะมีคนหมู่มากโอกาสเกิดปัญหาก็มี

นายกฯ สั่งตรวจสอบเหตุระเบิดงานกาชาดอุ้มผาง

ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านไอจีส่วนตัว แสดงความเสียใจต่อครอบครัวผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ พร้อมระบุว่าได้สั่งการให้ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานความมั่นคง เร่งเข้าดูแลผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ และขอให้ตรวจสอบเหตุการระเบิดทุกมิติ เร่งหาตัวคนร้ายและนำเข้าสู่กระบวนการโดยเร็วที่สุด กำชับให้เพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ดูแลการจัดงานเทศกาลที่จะเกิดขึ้นในทุกช่วงเวลานี้ทุกจุด เพื่อความปลอดภัยและมั่นใจของพี่น้องประชาชน .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

วันประวัติศาสตร์ สมรสเท่าเทียมวันแรก

วันนี้เป็นวันแรกที่กฎหมายสมรสเท่าเทียม มีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ ใน กทม. มีการจัดงานวันสมรสเท่าเทียมอย่างยิ่งใหญ่ เฉลิมฉลองให้กับเส้นทางการต่อสู้อันยาวนานกว่าที่กฎหมายจะมีผลบังคับใช้ ไม่ว่าเพศใดก็จะได้รับสิทธิการสมรสอย่างเท่าเทียมกัน

นาทีประวัติศาสตร์! นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา

นายกฯ ร่วมพิธีลงนาม FTA ไทย-เอฟตา ฉบับแรกไทยกับยุโรป ความสำเร็จรัฐบาลแพทองธาร สร้างโอกาสยุคทองการค้า-ลงทุน ทำเงินเข้าประเทศ

ตำรวจ ปปป.ซ้อนแผนบุกจับนายช่างโยธา เรียกรับเงิน 4 แสน

ตำรวจ ปปป. บุกจับนายช่างโยธาปฏิบัติงาน ฝ่ายโยธา สำนักงานเขตพระโขนง เรียกรับเงินค่าออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคาร 400,000 บาท

สมรสเท่าเทียม

นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้

“แพทองธาร” นายกฯ ส่งคลิปสารร่วมแสดงความยินดีกฎหมายสมรสเท่าเทียมบังคับใช้ ขอบคุณทุกภาคส่วนผ่านการต่อสู้กับอคติกว่า 2 ทศวรรษ ทำให้ ทุกตารางนิ้วของประเทศไทยโอบรับความหลากหลาย และเท่าเทียม