ป.ป.ช.ชี้ทำเกินกว่าเหตุ ซ้อมคนไข้จนตายคา รพ.

ศรีสะเกษ 11 ธ.ค.- ป.ป.ช.บุกตรวจสอบ รพ.กันทรลักษ์ หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ทำร้ายผู้ป่วยจนตาย ชี้ทำเกินกว่าเหตุ ด้าน ผอ.รพ. ยังไม่เห็นคำสั่งถูกย้าย


จากกรณีนายสะอาด อายุ 31 ปี ชาวตำบลขนุน อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เสียชีวิตที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ เมื่อวันที่ 7 ธันวาคมที่ผ่านมา ผลชันสูตร ที่สถาบันนิติเวชวิทยา โรงพยาบาลตำรวจ สันนิษฐานว่า สมองได้รับบาดเจ็บจากการถูกกระแทกของแข็ง ครอบครัวผู้ตาย มั่นใจว่านายสะอาด ถูกทำร้ายจนเสียชีวิต กระทั่งมีการเปิดคลิปกลางรายการชื่อดัง ขณะที่นายสะอาด ผู้ตาย เดินออกจากเตียง และถูกเจ้าหน้าที่พยาบาล 4 คน จับทุ่มและทุบตี จนอาจเป็นสาเหตุให้เสียชีวิต ตามที่มีการนำเสนอข่าวออกไปแล้วนั้น

“พ่อเอาผมมารักษาหรือเอามาฆ่า” คำพูดสุดท้ายของคนตาย


ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านพัก ตำบลขนุน อำเภอกันทรลักษ์ ซึ่งเป็นบ้านของนายสะอาด (ผู้ตาย) พบลูกพี่ลูกน้องนั่งร้องไห้ พูดคุยข้างโลงศพ และรินเหล้าให้กับคนตาย พร้อมระบายคำในใจ ด้วยความแค้นกับการกระทำของเจ้าหน้าที่ รพ.ที่กระทำรุนแรงกับผู้ตาย

นายทองสุข อายุ 62 ปี พ่อของผู้ตาย เล่าว่า ลูกชายได้พูดกับตนคำสุดท้ายก่อนตาย ว่า พ่อเอาผมมารักษาหรือเอาผมมาฆ่า พอได้ยินก็รู้สึกแสลงใจ เหมือนเป็นลางบอกเหตุก่อนที่ลูกจะมาเสียชีวิต จึงบอกลูกว่าพ่อพามารักษาไม่ได้มาให้ใครฆ่าตายหรอกลูก แต่นายสะอาด ผู้ตายตอบอีกครั้งว่าตายแน่ ๆ หลังจากนั้นก็ไม่ได้พูดอะไรอีกเลยจนมาเสียชีวิต 

หลังลูกเสียชีวิตก็ไปแจ้งความ แต่ตำรวจไม่รับแจ้ง บอกให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงมาก่อนถึงจะรับแจ้ง จึงกลับมาและไปแจ้งรอบที่ 2 ตนและญาติจึงอ้างว่าจะพานักข่าวมาด้วย ตำรวจถึงรับแจ้งความ ที่ตำรวจอ้างว่าเป็นเรื่องเข้าใจผิดในการสื่อสาร จึงไม่ได้รับแจ้งความ ตนรู้สึกเสียใจและผิดหวังมากกับการทำงานของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ส่วนศพของนายสะอาด จะทำการฌาปนกิจหรือเผาในวันเสาร์ที่ 14 ธันวาคมนี้


ทั้งนี้ ญาติได้พาผู้สื่อข่าวไปดูพวงหรีดของโรงพยาบาล ที่เอาไปทิ้งไว้ด้านหลังบ้าน เนื่องจากไม่พอใจกับกระทำของโรงพยาบาล และยังรับไม่ได้ จึงตั้งใจจะไม่รับทุกอยากที่ทางโรงพยาบาลนำมามอบให้เด็ดขาด

เสียชีวิต หลังเข้ารักษาในโรงพยาบาลเพียง 3 วัน

จากการสอบถามญาติของผู้เสียชีวิต เล่าว่า นายสะอาด มีอาการชักเกร็งเนื่องจากหักดิบเลิกเหล้าขาว จึงนำส่งโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 4 ธ.ค. ที่ผ่านมา เวลา 4 ทุ่ม ตอนนั้น ตรวจสภาพร่างกายก็ยังปกติ แต่หมอให้นอนโรงพยาบาลเพื่อดูอาการ จากนั้น ตี 3 ของวันที่ 7 ธ.ค. หมอสั่งย้ายตึก อ้างว่า นายสะอาด ไม่ยอมหลับยอมนอน ซึ่งในตอนนั้น พ่อของนายสะอาด ถูกตามให้ไปโรงพยาบาล แต่พอไปถึงกลับไม่ให้เข้าไปดูอาการของลูกชาย 

รอจนถึงเช้า พอ 6 โมงเช้า ก็เข้าไปดูลูกและป้อนน้ำกับนมให้เพราะลูกถูกมัดแขนมัดขา และสังเกตเห็นรอยแผลฟกช้ำ มีเลือดไหลซึมเต็มตัว แต่ไม่กล้าถามว่าเกิดอะไรขึ้น ญาติๆ ก็แวะเวียนกันไปเยี่ยมจนหมดเวลาเยี่ยม พอกลับมาถึงบ้าน ประมาณ 2 ทุ่มกว่า เจ้าหน้าที่โทรมาบอกว่า นายสะอาดเสียชีวิตแล้ว 

ป.ป.ช.ลงตรวจ ชี้ทำเกินกว่าเหตุ สั่งพักงาน 2 ลูกจ้างหนุ่มแล้ว

ล่าสุด นายอดุลย์ วันดี ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดศรีสะเกษ พร้อมคณะ เดินทางมาที่โรงพยาบาลกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อรับฟังข้อมูล ระเบียบ มาตฐานการดูแลผู้ป่วยกลุ่มติดเหล้า ติดยาเสพติด และกลุ่มจิตเวช และเดินดูจุดต่างๆ รวมถึงเส้นทางการรับผู้ป่วย ไปจนถึงจุดที่ผู้ป่วยเสียชีวิต ก่อนจะมาดูกล้องวงจรปิดช่วงเกิดเหตุภายในห้องประชุมชั้น 5 โรงพยาบาลกันทรลักษ์

นายอดุลย์ ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. เปิดเผยว่า ทางโรงพยาบาลชี้แจงว่าการกระทำของเจ้าหน้าที่เป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ ตามมาตรฐานในการดูแลผู้ป่วยไม่ได้กำหนดให้ปฏิบัติตามที่ปรากฏในภาพกล้องวงจรปิด  แนวทางในการดำเนินการของ ป.ป.ช.ตอนนี้ทางญาติผู้เสียชีวิตได้มีการแจ้งความร้องทุกข์ไปแล้ว ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน ว่ามีใครที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการกระทำบ้าง ในที่เกิดเหตุตามปรากฏในภาพมี 4 คน มีพยาบาลวิชาชีพ 2 คน พนักงานและลูกจ้างอีก 2 คน 

ล่าสุดได้มีการสั่งพักงานพนักงานและลูกจ้าง 2 คน ส่วนพยาบาลยังต้องรอกระบวนการในการสอบสวนหาข้อเท็จจริงและการลงโทษตามระเบียบและขั้นตอน 

ด้าน นายแพทย์ลักษณะเลิศ วรรณภาสนี ผอ.โรงพยาบาลกันทรลักษ์ ยอมรับว่าภาพวงจรปิดที่ออกไปนั้น แสดงให้เห็นว่าเจ้าหน้าที่พยาบาล และเจ้าหน้าที่ที่เข้าควบคุม ไม่ได้ทำตามมาตฐานที่มี และต้องยอมรับว่าเป็นการกระทำเกิดกว่าเหตุจริงๆ ส่วนเรื่องกุญแจมือที่เห็นภาพกล้องวงจรปิดนั้น ไม่ใช่ของโรงพยาบาลกันทรลักษ์ เป็นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเจ้าหน้าฝ่ายปกครอง ที่ทิ้งไว้ตอนมาส่งผู้ป่วย ยอมรับมาตรการในการควบคุมผู้ป่วยไม่มีการใส่กุญแจมือแต่อย่างใด

ส่วนเรื่องที่ รมว.กระทรวงสาธารณสุข มีการสั่งย้ายตนนั้น ส่วนตัวตนยังไม่ทราบข่าว แต่ถ้ามีคำสั่งให้ตนย้ายจริง ตนก็ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้บังคับบัญชา 

“สมศักดิ์“ แสดงความเสียใจ ครอบครัวผู้เสียชีวิต

ด้านนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข แสดงความเสียใจกับครอบครัวของผู้เสียชีวิต พร้อมสั่งการให้ ผอ.รพ.กันทรลักษ์ มาที่ส่วนกลาง โดยวันพรุ่งนี้ (12 ธ.ค.) ที่กระทรวงสาธารณสุข สั่งให้ดำเนินการประชุม และจัดสัมมนา เพื่ออบรมให้ความรู้บุคลากร ทั้งผู้บริหาร และผู้ช่วยเหลือต่าง ๆ เกี่ยวกับผู้ป่วยที่มีพฤติกรรมรุนแรงโดยด่วน ที่โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า 

ขณะที่ นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่า ปกติมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นบ่อยครั้ง โดยปกติจะมีการจับผู้ป่วยไปที่เตียงและมีการพันธนาการด้วยการเอาเชือกที่เป็นผ้าผูกผู้ป่วยกับเตียง ก่อนจะมีการฉีดยาคลายเครียด แต่ในกรณีนี้ถือว่าไม่ได้ทำตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น และไม่มีความรู้ความเข้าใจในการเข้าชาร์จตัวผู้ป่วย

วันนี้ทาง เภสัชกรวีระชัย นลวชัย ทางผู้ตรวจราชการกระทรวงฯ ได้ลงพื้นที่เข้าร่วมงานศพ เพื่อพูดคุย และแสดงความเสียใจกับญาติผู้เสียชีวิต และในวันที่ 17 ธันวาคมนี้ ตนจะเดินทางลงพื้นที่ด้วยตัวเอง .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย