เพชรบูรณ์ 10 ธ.ค. – เปิดปมบ่อมรณะโรงงานปลาร้า 5 ศพ มาจากก๊าซไข่เน่า จนขาดอากาศหายใจ เลือดเปลี่ยนเป็นสีเขียวจากสารพิษ ตำรวจเผยต้องส่งเลือดตรวจพิสูจน์อีกครั้ง
ความคืบหน้ากรณี พบศพ 5 คนงานเสียชีวิตปริศนา ภายในบ่อหมักปลาร้า โรงงานผลิตปลาร้าแห่งหนึ่ง ในพื้นที่บ้านหนองไขว่ ต.หนองไขว่ อ.หล่มสัก ที่จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่งเมื่อคืนที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.หล่มสัก เข้าไปตรวจที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บหลักฐาน พร้อมประสานหน่วยกู้ภัย นำร่างคนงานทั้ง 5 ศพ ขึ้นมาจากบ่อหมักปลาร้า ส่งไปผ่าพิสูจน์หาสาเหตุที่โรงพยาบาลหล่มสัก ก่อนจะสั่งให้ปิดโรงงานไว้ในสภาพเดิม เพื่อรอเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าไปตรวจพิสูจน์ภายในโรงงานอีกครั้งภายหลัง
เบื้องต้นทราบว่า ก่อนเกิดเหตุเจ้าของโรงงานได้สั่งให้คนงานไปทำความสะอาดบ่อหมัก เพื่อเตรียมบ่อสำหรับการหมักปลาร้าชุดใหม่ โดยบ่อดังกล่าวอยู่ด้านในสุดของโรงงาน มีลักษณะเป็นห้องหมักขนาดกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 6 เมตร ภายในมีบ่อปูน สำหรับหมักปลาร้าขนาดกว้าง 2 เมตร ยาว 2 เมตร สูงประมาณ 2 เมตร ประมาณ 4 บ่อ บริเวณก้นบ่อปูนพบร่างผู้เสียชีวิต 5 ศพ นอนเรียงกระจายกันอยู่ในบ่อที่มีน้ำผสมน้ำปลาร้าขังสูงประมาณ 40 เซนติเมตร ระหว่างกู้ภัยเข้าไปช่วยเหลือ ต้องทำการเปิดหลังคาโรงงาน เพื่อระบายอากาศ ก่อนเคลื่อนย้ายศพทั้ง 5 ขึ้นมาจากบ่อหมักปลาร้าอย่างทุลักทุเล ต้องหมุนเวียนกันเข้าไปปฏิบัติงานเพราะกลิ่นก๊าซหมักปลาร้ารุนแรง เมื่ออยู่นานจะเกิดอาการวิงเวียนหน้ามืด
ขณะที่เช้าวันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.หล่มสัก ได้เรียกตัวเจ้าของโรงงานปลาร้า มาสอบเครียดตั้งแต่เช้า โดยมีบรรดาญาติผู้ตายเดินทางมาให้ปากคำที่ สภ.หล่มสัก จำนวนหลายคน ซึ่งรวมถึงนางละมัย หลานสาวของนายหลำ 1 ในผู้เสียชีวิต ที่บอกว่าผู้ตาย เป็นเสาหลักของครอบครัว มาทำงานที่นี่กว่า 40 ปี โดยทุกเช้าจะขี่รถจักรยานมาทำงาน วันเกิดเหตุ ครอบครัวนั่งรอนายหลำกลับบ้าน แต่นายหลำก่อไม่กลับ มาทราบข่าวอีกครั้ง คือ นายหลำ เสียชีวิตแล้ว พร้อมวอนเจ้าของโรงงาน ช่วยค่าทำศพ และเยียวยาช่วยเหลือ เพราะครอบครัวขาดเสาหลักไป
ขณะที่ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่เกิดเหตุอีกครั้ง พบว่าที่โรงงานปลาร้า วันนี้ได้ถูกปิดประตูล็อกกุญแจแน่นหนา ไม่มีคนอาศัยอยู่ ชาวบ้านที่อยู่ในละแวกใกล้เคียงกับโรงงานยอมรับว่าตกใจกับเหตุการณ์ในครั้งนี้ ส่วนใหญ่เชื่อว่า สาเหตุน่าจะเกิดจากการสูดก๊าชพิษเข้าไป ซึ่งในบ่อที่เกิดเหตุยังมีน้ำสีดำและลักษณะมีควันลอยขึ้นมาด้วย พร้อมให้ข้อมูลด้วยว่าเจ้าของโรงงานแห่งนี้ไม่ได้อยู่ประจำที่โรงงานแต่ให้ลูกเขยเป็นผู้ดูแล
ด้าน พล.ต.ต.สาระนัย คงเมือง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดเพชรบูรณ์ ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ ระบุว่าผลการผ่าพิสูจน์จากแพทย์ ในเบื้องต้น พบว่า สภาพศพทั้งหมดเหมือนกัน คือขาดอากาศหายใจ แต่การตกเลือดของผู้เสียชีวิตที่ปกติจะเป็นสีแดงหรือ สีม่วง แต่ครั้งนี้เป็นสีเขียว โดยแพทย์บอกว่า น่าจะเป็นเพราะสารพิษ ก๊าซไข่เน่า อย่างไรก็ตาม ต้องรอผลการตรวจเลือดของผู้เสียชีวิต ซึ่งส่งไปให้สถาบันนิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ ตรวจยืนยันอีกครั้ง
มีรายงานว่า อุตสาหกรรมจังหวัดเพชรบูรณ์ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ เบื้องต้น พบว่า โรงงานดังกล่าว การประกอบกิจการไม่มีการใช้เครื่องจักร และมีคนงานเพียงจำนวน 6 ราย ดังนั้น ลักษณะดังกล่าวจึงไม่เข้าข่ายโรงงานตาม พ.ร.บ.โรงงาน แต่อย่างใด ส่วนกรมควบคุมมลพิษทางอากาศเขต 2 พิษณุโลก เตรียมนำเครื่องมือมาตรวจวัดมลพิษในห้องเกิดเหตุ ว่าสูงกว่าอัตรากฎหมายกำหนดหรือไม่ในวันพรุ่งนี้ (11 ธ.ค.) .-สำนักข่าวไทย