อุดรธานี 8 ธ.ค. – สสจ.อุดรธานี พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจสอบว่าร้านนวดที่นักร้องลูกทุ่งหมอลำสาวไปนวด ทำให้แขน-ขาชา ก่อนเสียชีวิตวันนี้ (8 ธ.ค.) มีใบขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุภาพ ประเภทนวด เพื่อสุขภาพ หรือไม่ ด้าน ผจก.ร้าน ยืนยันไม่มีนวดบิดคอ
กรณี “ผิง ชญาดา” นักร้องลูกทุ่งหมอลำสาวชาว ต.บ้านแดง อ.พิบูลรักษ์ จ.อุดรธานี ไปนวดคอ บ่า ไหล่ ที่ร้านนวดแผนโบราณ ริมสวนสาธารณะหนองประจักษ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี 3 ครั้ง มีการหักคอ 2 ครั้ง ทำให้แขนและขาชา ป่วยเป็นอัมพาต นอนติดเตียงเป็นเจ้าหญิงนิทรา ก่อนเสียชีวิตเช้าวันนี้ (8 ธ.ค.) โดยเพจเฟซบุ๊กของรถแห่โอปอมิวสิคอุดรธานี ได้โพสต์รูปภาพน้องผิง ชญาดา พร้อมข้อความไว้อาลัย
ต่อมาเวลา 14.00 น. ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ร้านนวดแผนโบราณ ริมสวนสาธารณะหนองประจักษ์ศิลปาคม ถนนเทศา เขตเทศบาลนครอุดรธานี ซึ่งถูกระบุว่าเป็นร้านนวดที่น้องผิง ชญาดา อายุ 20 ปี มาใช้บริการก่อนมีอาการกระดูกคอทับเส้นประสาท แขน-ขาชา เป็นอัมพาต และเป็นเจ้าหญิงนิทรา ก่อนเสียชีวิตในที่สุด
พบ น.ส.สุมิญชยา สังฆทิพย์ นักวิชาการสาธารณสุขปฏิบัติศูนย์สนับสนุนบริการสุขภาพที่ 8 อุดรธานี นางศุทธินี เหลือวงศ์ หัวหน้ากลุ่มงานคุ้มครองผู้บริโภคและเภสัชสาธารณสุข จ.อุดธรานี นายสมชาย ชิณวานิชย์เจริญ หัวหน้ากลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก สำนักงานสาธารณสุข จ.อุดรธานี พร้อมคณะ เดินทางมาตรวจร้านนวดดังกล่าวว่ามีใบขึ้นทะเบียนเป็นผู้ให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุภาพ ประเภทนวด เพื่อสุขภาพ หรือไม่ พบหมอนวด 2 คน มีใบขึ้นทะเบียน ส่วนอีก 5 คน อยู่ระหว่างดำเนินการตรวจสอบ หากไม่มีใบขึ้นทะเบียนจะผิดกฎหมาย จะเป็นหมอนวดเถื่อน ไม่สามราถให้บริการในสถานประกอบการเพื่อสุขภาพ เจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบและเก็บข้อมูล โดยไม่ให้สัมภาษณ์ ซึ่งวันพรุ่งนี้ (9 ธ.ค. 67) นายแพทย์สาธารณสุข จ.อุดรธานี จะแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์เอง
ด้านผู้จัดการร้านนวด ชี้แจงว่าร้านนวดที่นี่เปิดมาตั้งแต่ปี 2548 หมอนวดแผนโบราณที่ร้านมีจำนวนไม่แน่นอน แล้วแต่บางวัน บ้างครั้งก็เป็นสิบคน บางครั้งก็เหลือ 4-5 คน แล้วแต่จังหวะที่หมอนวดจะมีงานที่อื่น ไปทำงานที่พัทยา ภูเก็ต หรือต่างประเทศ หมอนวดส่วนมากจะมาทำชั่วคราว คนที่จะมานวดก็จะตรวจสอบว่ามีใบอนุญาต มีการขึ้นทะเบียนหรือไม่ ซึ่งเราก็ไม่รู้ว่าจะอยู่ทำงานนานหรือไม่ ถามว่ารู้หรือไม่ว่าใครเป็นคนนวดน้องที่เสียชีวิต เราก็ไม่ทราบ พอลูกค้าเข้ามาเราก็จำไม่ได้ว่ามีลูกค้าคนไหน เข้ามาเมื่อไร
แต่ถ้าหากมานวดวันนี้หรือพรุ่งนี้ เราพอจะนึกออกอยู่บ้าง แต่เห็นว่าตามข่าวที่บอกคือมานวดช่วงเดือนตุลาคมปีนี้ ไม่ว่าจะหมอหนวดหรือลูกค้าเอง คิดว่าคงจะจำไม่ได้แน่นอนว่าเคยนวดใครคนไหน เพราะเป็นการไล่ตามคิววันต่อวัน แต่จะมีอีกประเด็นคือลูกค้าประจำที่จะมีหมอนวดประจำที่มาใช้บริการบ่อยๆ อันนั้นเขาจะจำกันได้ แต่กรณีนี้ไม่ใช่ เขามาถามหาเราก็ไม่รู้ว่าเคยนวดกับใคร
“ส่วนน้องคนนี้ กรณีนี้ เราไม่รู้ว่าเขามานวดวันไหน บอกตรงๆ ว่าไม่รู้เรื่องเลย ส่วนการนวดหักคอ ส่วนมากหมอนวดที่เราเรียนมานั้นไม่มี มันเป็นข้อห้าม แต่หมอนวดที่มาทำงานบางคน ที่ผ่านงานกรุ๊ปทัวร์ ไปต่างประเทศมา หรือไปเรียนรู้จากที่อื่นมา เราก็ไม่รู้ ส่วนมากลูกค้าจะคุยกับหมอนวดตัวต่อตัวว่าวันนี้ไม่ดัดนะ ไม่หักนะ ไม่ดึงนะ นวดเบาๆ ไม่เอาหนัก แล้วแต่ลูกค้าต้องการ แต่บางคนก็บอกอยากดัด หักคอ แต่เราจะบอกว่าที่นี่ไม่มีหักคอ มันอันตราย เราจะบอกไป แต่ถ้าหากลูกค้าเขาคุยกัน 2 คน เราก็ไม่รู้จริงๆ ว่าเขาสื่อสารกันยังไง แต่ยืนยันว่าที่นี่ตามที่เรียนมาไม่มีหักคอ ไม่มีดัดคอ เต็มที่ก็แค่ดัดเอว อย่างอื่นเราไม่มี การดัดคอมันอันตรายอยู่แล้ว มีเส้นประสาทที่สำคัญอยู่แล้ว เราไม่รู้ว่ามันอันตรายแบบไหน เพราะก็ไม่ได้เรียนมา”
ผจก.ร้านนวด ชี้แจงอีกว่า วันนี้ทราบข่าวตอนเที่ยง ตอนแรกเขายังไม่ระบุว่าห้องไหน สักพักทราบว่าระบุเป็นห้องนี้ เราพยายามเช็กว่าหมอนวดคนไหนที่ดัดคอเป็นบ้าง คนที่นวดครั้งที่ 3 ของน้องยังอยู่ แต่คนนวดคนแรกยังไม่ทราบว่าเป็นใคร เห็นข่าวแล้วตกใจ เสียใจที่้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ เราก็ระวัง บอกลูกค้าอยู่ว่าถ้าอาการหนักให้ไปหาหมอ การนวดมันก็ได้แค่นิดๆ หน่อยๆ แต่การบิดคอ เราไม่รู้จริงๆ ว่าใครบิดบ้าง แต่ของตนเองไม่มีการบิด ไม่ได้เรียนมาแบบนี้ เพราะอันตราย ถ้ามันหักไปจะทำอย่างไร.-สำนักข่าวไทย