บุรีรัมย์ 7 ธ.ค. – ญาติทารกไหปลาร้าหัก ตัดสินใจไม่ส่งร่างไปพิสูจน์ รอฟังแพทย์ชี้แจงอีกครั้ง ทวดเด็กวัย 84 ปี น้ำตาซึม ยังไม่ได้เห็นหน้าหลาน
จากเหตุการณ์สุดเศร้า ของคุณแม่ อายุ 23 ปี อ.ห้วยราช จ.บุรีรัมย์ ที่เข้าร้องผ่านสื่อว่าคลอดลูกสาว เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายนที่ผ่านมา ได้ลูกสาวน้ำหนัก 3,100 กรัม หลังจากคลอดออกมาหมอแจ้งว่า ลูกสาวตัวเหลือง และหัวใจเต้นผิดปกติ ให้เข้าตู้อบอยู่ที่โรงพยาบาล ส่วนตนให้กลับมาพักฟื้นที่บ้าน และมาให้นมลูกได้ตามปกติที่โรงพยาบาล
ต่อมาเมื่อวันที่ 2 ธันวาคม หมอแจ้งว่าลูกไหปลาร้าขวาหัก ตนกับแม่สามีตกใจมาก เพราะลูกอยู่กับหมอตลอดเวลา ตอนมาให้นมไม่เคยทำลูกหล่น หรือถ้าทำหล่น ตนต้องแจ้งหมอแน่นอน แต่หมอก็ไม่อธิบายสาเหตุที่ไหปลาร้าหัก แต่กลับบอกเพียงว่ากระดูกจะต่อเองได้ จากนั้นถัดมาคือวันที่ 3 ธันวาคม ช่วงบ่าย หมอก็แจ้งอีกว่า ลูกสาวติดเชื้อขั้นรุนแรง ถ่ายเป็นเลือด ยิ่งสร้างความมึนงงให้ครอบครัวเป็นอย่างมาก เพราะลูกออกมามีสุขภาพแข็งแรง น้ำหนักมาตรฐาน เพียงแค่ตัวเหลืองเท่านั้น รู้สึกติดใจอาการของลูก
และเมื่อวันที่ 6 ธ.ค.หมอแจ้งว่าน้องเสียชีวิต สร้างความเศร้าสลดให้กับครอบครัวน้องเป็นอย่างยิ่ง โดยญาติตกลงกันว่าจะไม่ส่งร่างทารกน้อยไปพิสูจน์หาสาเหตุการเสียชีวิต โดยจะรอให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงมาก่อน ล่าสุดทางโรงพยาบาลแจ้งว่าจะตั้งโต๊ะแถลงชี้แจงสาเหตุการเสียชีวิตของทารก ในวันจันทร์ที่ 9 ธ.ค.นี้
นางตุ่ม อายุ 84 ปี ยายทวด ของเด็กบอกว่าตั้งแต่รู้ว่าจะได้เหลน ดีใจอยากเห็นหน้าแต่พอมาทราบข่าวรู้สึกเสียใจที่ยังไม่ได้เห็นหน้าหลานตัวเป็นๆ ด้านนางเพ็ชร อายุ 49 ปี ย่าของเด็ก บอกว่า ก่อนหน้านี้พากันไปหาซื้อสิ่งของเครื่องใช้สำหรับเด็กมาจนครบ แต่กลับได้ข่าวร้ายว่าหลานออกจากโรงพยาบาลไม่ได้ ตอนแรกได้ตั้งชื่อหลานไว้แล้วว่า “พะแพง” แต่มาเปลี่ยนชื่อใหม่ตอนที่หลานป่วยหนักว่า “ปาฏิหาริย์” สุดท้ายไม่เกิดปาฏิหาริย์ตามที่บนเอาไว้ ตอนนี้ยังติดใจว่าทำไมไหปลาร้าหัก ทำไมติดเชื้อในกระแสเลือด และติดใจอาการติดเชื้อของแม่เด็กด้วย ยอมรับว่าเห็นใจหมอ แต่ตนในฐานะผู้สูญเสีย อยากจะให้ทางโรงพยาบาลชี้แจงและปรับปรุงการรักษาต่อไป.-สำนักข่าวไทย