29 พ.ย. – ปลายปีเป็นช่วงมรสุมของภาคใต้ ทำให้เกิดฝนตกหนัก น้ำท่วม ส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สิน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ต้องเผชิญกับสถานการณ์น้ำท่วมหนัก เช่น ปี 2553 ยังเป็นที่จดจำ เพราะเป็นอุทกภัยครั้งมโหฬาร ประเมินความสูญเสียทางเศรษฐกิจนับหมื่นล้านบาท
ภัยพิบัติครั้งร้ายแรงของ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ในเดือนพฤศจิกายน 2553 ส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนทั้งในทันทีและต่อเนื่อง น้ำท่วมครั้งนี้ยาวนาน 3-7 วัน ขาดไฟฟ้า ขาดน้ำกินน้ำใช้และอาหาร ประชากรเกือบ 200,000 คน ย่านตลาดกิมหยง แหล่งซื้อหาของกินของใช้ที่นักท่องเที่ยวนิยม น้ำท่วม 2-3 เมตร สร้างความเสียหายต่อระบบเศรษฐกิจนับหมื่นล้านบาท มีตัวเลขผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการ 35 คน แต่ตัวเลขไม่เป็นทางการสูงถึง 233 คน น้ำไหลบ่าจากเทือกเขาสันกาลาคีรี ติดพรมแดนไทย-มาเลเซีย ซึ่งปกติจะระบายผ่านคลองอู่ตะเภา ผ่านเขต อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ไหลออกสู่อ่าวไทยบริเวณทะเลสาบสงขลา เกิดมีปัญหาเพราะระบบระบายน้ำไม่ดี คูคลองตื้นเขิน ระดับน้ำสูงประมาณ 2-3 เมตร
เมื่อเทียบกับปีนี้ (2567) อ.หาดใหญ่ อาจจะยังไม่รุนแรงเท่าปี 2553 แต่แม้ว่าสถานการณ์จะยังไม่รุนแรงเท่า แต่ทางเทศบาลนครหาดใหญ่ ได้ออกประกาศเตือนประชาชนเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง และเตรียมเข้าอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย
หนึ่งในสาเหตุที่ทำให้สถานการณ์ปีนี้ยังไม่เท่าปี 2553 มาจากทาง จ.สงขลา ต้องเผชิญน้ำท่วมหนักมาอย่างต่อเนื่อง ทำให้มีการระดมกำลังแก้ปัญหาภายใต้โครงการบรรเทาอุทกภัย อ.หาดใหญ่ เพิ่มประสิทธิภาพคลองระบายน้ำ ร.1 หรือชื่อเป็นทางการว่า “คลองภูมินาถดำริ” ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่องจากโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่พระราชทานเมื่อวันที่ 24 ธันวาคม 2531 เนื่องจากเกิดฝนตกหนักติดต่อกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้เกิดอุทกภัยบริเวณ อ.หาดใหญ่ และบริเวณใกล้เคียง กรมชลประทานจึงได้สนองพระราชดำริ โดยดำเนินการขุดลอกคลองธรรมชาติจำนวน 4 สาย ทำให้การระบายน้ำจากคลองอู่ตะเภามีประสิทธิภาพมากขึ้น.-สำนักข่าวไทย
