เมียเก่าแทงเมียใหม่อดีตสามีเจ็บ ก่อนชิงชายวัย 2 ขวบ

มหาสารคาม 19 พ.ย. – พิษรักแรงหึง ภรรยาเก่าอาศัยจังหวะอดีตสามีไม่อยู่บ้าน บุกแทงภรรยาใหม่บาดเจ็บ กลางวงข้าว ก่อนชิงลูกชายวัย 2 ขวบ กลับไปด้วย


เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นที่บ้านหนังหนึ่งใน ต.โคกก่อ อ.เมือง จ.มหาสารคาม ซึ่งเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น บริเวณชั้นล่างมีรอยเลือดเป็นจุดๆ ใกล้กับโต๊ะกับข้าว และกองเลือดจำนวนมากตรงประตู ขณะที่คนเจ็บคือ น.ส.ปัทมา อายุ 31 ปี สามีพาไปส่งโรงพยาบาลมหาสารคาม โดยมีบาดแผลถูกแทงแขนขวาเข้าลึกจนไม่สามารถขยับปลายนิ้วได้ เสียเลือดมาก

นางยวนใจ อายุ 56 ปี เล่าว่า คนร้ายคือ น.ส.รจนา อายุ 24 ปี ภรรยาเก่าของลูกชาย ก่อนเกิดเหตุตนและ น.ส.ปัทมา กำลังนั่งกินข้าวในบ้าน น.ส.รจนา เดินเข้ามาในบ้านด่าทอ น.ส.ปัทมา ที่มาคบกับอดีตสามี และจะเอาฝ่ายชายคืน จากนั้นใช้มีดคัตเตอร์แทงและปาดแขนของ น.ส.ปัทมา ก่อนจะออกมาอุ้มหลานชายวัย 2 ขวบ ซึ่งเป็นลูกของ น.ส.รจนา กับลูกชายของตน ไปขึ้นรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ที่มีผู้ชายขี่มารอ พากันหลบหนีไป ตนจึงโทรบอกลูกชายให้ไปแจ้งความที่ สภ.ดอนหว่าน เพื่อให้ติดตามตัวหลานชายกลับมา และดำเนินคดีกับ น.ส.รจนา


ด้านนายสุรศักดิ์ สามีของทั้งคู่ บอกว่าขณะเกิดเหตุตนเองไม่อยู่บ้าน ตนกับอดีตภรรยาเลิกกันเมื่อ 2-3 เดือนก่อน ต่างฝ่ายต่างมีคนใหม่ แต่อดีตภรรยาไม่อยากให้ตนมีคนใหม่ เพราะไม่อยากให้ใครมาเลี้ยงลูกของตัวเอง เมื่อรู้ว่าภรรยาใหม่มาอยู่ด้วยที่บ้านจึงโทรศัพท์มาหา บอกจะเอาลูกชายกลับไปเลี้ยงเอง โดยนัดหมายกันแล้วว่าจะมารับในวันนี้ แต่กลับมาก่อเหตุก่อน คาดว่าน่าจะเกิดจากความหึงหวง

อย่างไรก็ตาม ทางบ้านของ น.ส.รจนา แจ้งนางยวนใจ ว่าหลานชายกลับมาบ้านที่ จ.หนองบัวลำภู แล้ว สร้างความโล่งใจให้กับนางยวนใจ เพราะเป็นห่วงหลาน แต่ถ้าทางตายายจะเอาหลานกลับไปเลี้ยงเอง ตนไม่ได้ว่าอะไร แต่เรื่องดำเนินคดีคงต้องเอาเรื่องให้ถึงที่สุด

ด้านอาการของ น.ส.ปัทมา ขณะนี้ยังนอนรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล แพทย์เตรียมผ่าตัดวันนี้ เพื่อประสานเส้นเอ็นเข้าด้วยกัน เนื่องจากมีดแทงทะลุแขน ทำให้เส้นเอ็นแขนฉีกขาด อย่างไรก็ตาม ยังสามารถพูดคุยได้บอกว่าอยากให้ตำรวจดำเนินคดีกับ น.ส.รจนา ให้ถึงที่สุด


ในส่วนของคดีตำรวจอยู่ระหว่างสอบปากคำ รวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนจะขอหมายจับจากศาลมหาสารคาม ข้อหาบุกรุกยามวิกาล ทำร้ายร่างกาย

ผัวเก่าบุกทำร้ายผัวใหม่ เลือดอาบ
ส่วนที่ปราจีนบุรี เป็นสามีเก่าทำร้ายสามีใหม่เลือดอาบ มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 คน คือ นายพงษ์สิทธิ์ อายุ 25 ปี มีบาดแผลบริเวณหน้าผาก แขนศอกด้านขวา และนายณรงค์ฤทธิ์ อายุ 30 ปี มีแผลกลางศีรษะ 2 แผล ยาวประมาณ 2-3 เซนติเมตร เจ้าหน้าที่ต้องปฐมพยาบาลก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาล ใกล้กันยังพบอาวุธที่คนร้ายใช้ก่อเหตุเป็นใบมีดเคียวเกี่ยวข้าวหัก มีสนิมเกาะเกรอะกรัง

ต่อมามีพลเมืองดีนำภาพผู้ก่อเหตุเป็นชาย 2 คน เป็นชายผมสั้น สวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว ใส่รองเท้าแตะ ถืออาวุธลักษณะเป็นแท่งเหล็กยาวมากกว่า 60 เซนติเมตร ส่วนผู้ก่อเหตุอีก 1 คน ใส่เสื้อแขนสั้นสีน้ำเงิน ขี่รถจักรยานยนต์ไม่ทราบยี่ห้อและไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน หลังก่อเหตุได้ขี่รถจักรยานยนต์มุ่งหน้าไปทางวัดบุยายใบ

ล่าสุดเจ้าหน้าที่ตำรวจทราบชื่อผู้ก่อเหตุแล้ว สาเหตุมาจากเรื่องชู้สาว ตำรวจได้ส่งชุดสืบสวนลงติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาสอบสวนดำเนินคดี.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ