ตราด 9 พ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่เกาะกูด จ.ตราด ตรวจเยี่ยมและให้กำลังใจกำลังพลกองทัพเรือที่ปฏิบัติงานในหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด (นปก.) อำเภอเกาะกูด จังหวัดตราด เพื่อบำรุงขวัญ และตรวจการปฏิบัติหน้าที่ของกำลังพลกองทัพเรือ ที่ปฏิบัติงานบนเกาะกูด โดยมี พลเรือเอกไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ เสนาธิการทหารเรือ เป็นผู้แทนผู้บัญชาการทหารเรือ ให้การต้อนรับ พร้อมเรียนเชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมขึ้นแท่นรับความเคารพ ก่อนเข้ารับฟังการบรรยายสรุป รวมถึงทักทายกำลังพลและมอบสิ่งของบำรุงขวัญให้แก่เจ้าหน้าที่
นายภูมิธรรม กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้เป็นการออกตรวจเยี่ยมกำลังพลในพื้นที่ต่างๆ ที่ดูแลอธิปไตยของประเทศไทย ซึ่งเป็นหน้าที่ของตนในฐานะรองนายกฯ และรัฐมนตรีกลาโหมอยู่แล้วในการดูแลการทำงานของเจ้าหน้าที่ ประกอบกับช่วงก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวเกี่ยวกับพื้นที่ทับซ้อนเกาะกูด การมาครั้งนี้ นอกจากจะมาให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ที่มาปฏิบัติหน้าที่อยู่บนเกาะแล้ว ยังเป็นการเน้นย้ำให้ประชาชนมั่นใจด้วยว่า เกาะกูดเป็นของไทยมาตลอด มีทั้งกองทัพเรือ ทั้งฝ่ายปกครอง อำเภอ อบต. ดูแลพื้นที่ชัดเจนทั้งทางบกและทางทะเล ไม่มีทางเป็นของประเทศอื่น สำหรับความสัมพันธ์ระหว่างไทยกัมพูชาก็ไม่มีความกระทบกระทั่งกัน ผู้บังคับการระดับสูงของทั้งสองประเทศ ก็ยังคงไปมาหาสู่กันปีละ 4 ครั้งเป็นปกติ ส่วนแรงงานกัมพูชา ก็มีเข้ามาทำงานแบบมีพาสปอร์ต มีใบอนุญาตทำงานถูกต้อง
ในส่วนของกระแสข่าวที่ว่าจะมีการเจรจาเรื่องผลประโยชน์พลังงาน และการแบ่งสรรปันส่วนพื้นที่นั้น ใน MOU 44 ไม่ได้มีเรื่องการแบ่งพื้นที่ มีเพียงข้อตกลงเกี่ยวกับทรัพยากรบริเวณพื้นที่ทับซ้อนทางทะเล ว่าต้องเจรจาแบ่งกันอย่างสันติ และที่สำคัญการจะตกลงอะไรกันต้องผ่านมติ ครม. ต้องได้รับความเห็นชอบจากประชาชน รวมถึงต้องอิงตามกฎหมายทางทะเลด้วย อยากให้สบายใจว่าการเจรจาอะไรก็ตามจะต้องเห็นแก่ประเทศชาติว่าจะได้ประโยชน์สูงสุดเสมอ แม้ว่า MOU นี้มีมากว่า 20 ปีแล้วแต่ไม่จำเป็นต้องร่างใหม่ เพียงแต่ส่วนไหนที่ยังตกลงกันไม่ได้ ก็จะดำเนินการเพิ่มเติมไป ซึ่งไม่ว่าจะหน่วยงานใดก็มองว่าข้อตกลงฉบับนี้มีประโยชน์ต่อไทย ไม่อยากให้นำผลประโยชน์ของพรรคการเมืองใด ซึ่งถือเป็นเรื่องเล็ก มาจุดชนวนให้เกิดความสับสนในเรื่องเกี่ยวกับเขตแดนที่ถือเป็นผลประโยชน์ชาติซึ่งเป็นเรื่องใหญ่
ทั้งนี้ กองทัพเรือได้จัดกำลังดูแลอธิปไตยของชาติทางทะเลด้านตะวันออกโดยเฉพาะพื้นที่เกาะกูด ตั้งแต่ไทยได้ประกาศไหล่ทวีป เมื่อปี พ.ศ. 2516 กองทัพเรือ ก็ได้ดูแลมาอย่างต่อเนื่อง ยังไม่ปรากฏปัญหาใดที่น่าเป็นห่วง ประชาชนสามารถดำรงชีวิตและประกอบอาชีพได้อย่างปกติสุขมาโดยตลอด
สำหรับหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด (นปก.) เป็นหน่วยเฉพาะกิจของหน่วยบัญชาการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่ง (สอ.รฝ.) ที่ขึ้นการควบคุมทางยุทธการกับกองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด โดยกรมรักษาฝั่งที่ 1 เป็นหน่วยรับผิดชอบในการจัดกำลังพล ซึ่งกองทัพเรือได้จัดตั้งหน่วยตรวจการณ์พิเศษที่ 1 บนเกาะกูด เมื่อปีพ.ศ. 2521 ต่อมาในปี 2529 กองทัพเรือ ได้อนุมัติเปลี่ยนชื่อจากหน่วยตรวจการณ์พิเศษที่ 1 เป็น “หน่วยปฏิบัติการเกาะกูด” จนถึงปัจจุบัน ภารกิจของหน่วยปฏิบัติการเกาะกูด ได้แก่ การป้องกันการคุกคามทางทะเล และทางอากาศ คุ้มครองเรือประมงไทย สนับสนุนการปฏิบัติการของเรือและกำลังทางบก ปฏิบัติการจิตวิทยา และประชาสัมพันธ์กับส่วนราชการ และราษฎรในพื้นที่เพื่อความสัมพันธ์อันดีและง่ายในการประสานการปฏิบัติงานร่วมกัน.-720-สำนักข่าวไทย