แจ้ง 4 ข้อหาหนัก ลูกทนายดังชักปืนจ่อยิงเพื่อนดับ

สงขลา 2 พ.ย.-ตำรวจแจ้ง 4 ข้อหา ลูกทนายดังหาดใหญ่ จ่อยิงเพื่อนดับคาโต๊ะ ปมเหตุสร้อยทอง 2 บาทหาย หลังไปเที่ยวด้วยกัน เบื้องต้นยังให้การปฏิเสธ

กล้องวงจรปิดบันทึกภาพเหตุการณ์ขณะนายนิติพันธ์ อายุ 37 ปี ลูกชายทนายดังหาดใหญ่ ใช้อาวุธปืนกระหน่ำยิง นายยงยุทธ อายุ 37 ปี เพื่อนที่กำลังนั่งดื่มกินอยู่ด้วยกันที่โต๊ะหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง ในเมืองหาดใหญ่ ต่อหน้าต่อตาเพื่อนอีก 2 คนที่นั่งร่วมโต๊ะเดียวกัน


โดยทีแรก นายนิติพันธ์ ได้ชักอาวุธปืนออกมากระหน่ำยิงที่ศีรษะ 3 นัด จากนั้นยังใจเย็น ยกแก้วเหล้าขึ้นมาดื่ม และเดินไปขึ้นรถเก๋งที่จอดอยู่ริมถนนหน้าร้าน แต่แล้วก็ลงจากรถมายิงซ้ำอีกครั้งราวๆ 4 นัด ทำให้นายยงยุทธ ที่ร่างกำลังเอนลงมานอนกับพื้นเสียชีวิตคาที่ ส่วนนายนิติพันธ์ ได้ขับรถเก๋งหลบหนีไป ขณะที่เพื่อนร่วมวงแยกย้ายกันขี่ รถ จยย.ออกไปจากที่เกิดเหตุ

เบื้องต้น ตำรวจสืบทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุ ผู้ตายและเพื่อน รวม 4 คน ซึ่งทั้งหมดเป็นเพื่อนในกลุ่มเดียวกัน นั่งดื่มกินกันอยู่ที่โต๊ะหน้าร้านอาหารแห่งหนึ่ง เพื่อมาเคลียร์เรื่องสร้อยข้อมือหนัก 2 บาท ของนายนิติพันธ์ มือยิง ที่หายไปเมื่อคืนก่อน ระหว่างไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่งในเมืองหาดใหญ่ จึงนัดมาเจอกัน เพื่อสอบถามว่าใครเป็นคนเอาสร้อยไป โดยผู้ก่อเหตุสงสัยว่า นายยงยุทธ เป็นคนเอาไป แต่เมื่อสอบถามผู้ตายปฏิเสธ และเกิดการโต้เถียงกันขึ้น ทำให้ นายนิติพันธ์ ชักอาวุธปืนออกมาจ่อยิง นายยงยุทธ จนเสียชีวิต


ล่าสุด เมื่อคืนที่ผ่านมา นายนิติพันธ์ ได้เข้ามอบตัวกับตำรวจชุดสืบสวน สภ.หาดใหญ่แล้ว สาเหตุเบื้องต้นมาจากการทวงถามเรื่องสร้อยข้อมือทองคำหนัก 2 บาท ของนายนิติพันธ์ ที่หายไประหว่างไปเที่ยวผับด้วยกันและสงสัยว่านายยงยุทธ เป็นคนเอาไป

ส่วนความคืบหน้าทางคดี นายนิติพันธ์ ถูกดำเนินคดี 4 ข้อหา คือ 1.ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา 2.มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต 3.พาอาวุธปืนไปในเมืองหมู่บ้านหรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 4.มีอาวุธปืนซึ่งใช้ดินระเบิดโดยใช่เหตุในเมืองหมู่บ้านที่ชุมชน แต่นายนิติพันธ์ ยังให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหาและขอให้การในชั้นศาล โดยตลอดเวลาที่เข้ามอบตัวและดำเนินการสอบสวนแจ้งข้อกล่าวหานั้น มีพ่อซึ่งเป็นทนายชื่อดังของเมืองหาดใหญ่ มาคอยสังเกตุการณ์ตลอดช่วงที่เข้ามอบตัว

นอกจากนี้ตำรวจยังได้นำตัว นายนิติพันธ์ ไปตรวจเขม่าดินปืนที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน9 และนำตัวไปค้นที่บ้านพักซึ่งอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร เพื่อหาหลักฐานเพิ่มเติม โดยเฉพาะอาวุธปืน 9 มม.ที่ใช้ก่อเหตุ แต่ก็ไม่พบ มีเพียงกางเกงยีนส์สามส่วนและรองเท้าแตะเท่านั้นที่ตำรวจยึดไว้ เพราะตรงกับภาพวงจรปิดที่สวมใส่ตอนเกิดเหตุ ซึ่งวันนี้พนักงานสอบสวน สภ.หาดใหญ่ จะคุมตัวส่งศาล จ.สงขลาไปตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมคัดค้านการประกันตัวในชั้นสอบสวนเพราะเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ส่วนเพื่อนอีก 4 คน ที่นั่งร่วมวงอยู่ด้วยกันตอนเกิดเหตุตำรวจได้กันตัวเป็นพยาน.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อขอให้ติดคุกจริง

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่น

ตรวจสอบสิทธิ์เงินหมื่นคนอายุ 60+ ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ว

“จิรายุ” ย้ำเงินหมื่นเฟส 2 มอบคนอายุ 60+ รัฐบาลพร้อมโอนไม่มีเปลี่ยนแปลงแล้ววันจันทร์ที่ 27 ม.ค.นี้แน่นอน สามารถตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอป “ทางรัฐ” ได้แล้ววันนี้ ส่วนคนไม่มีสมาร์ทโฟนฝากลูกหลานช่วยด้วย

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข