ผัวหึงโหดคว้ามีดแทงเมียดับ ก่อนแทงตัวตาม แต่จู่ๆ ฟื้นขึ้นมา

ปราจีนบุรี 30 ต.ค. – สลด ผัวหึงโหด ใช้มีดกระหน่ำแทงเมียดับคาห้องครัว ต่อหน้าลูกสาว 2 คน และพยายามทำร้ายตัวเองตายตาม จนเจ้าหน้าที่คิดว่าเสียชีวิตทั้ง 2 คน แต่ จู่ๆ ฝ่ายชายดันฟื้นขึ้นมาระหว่างการชันสูตร


เหตุดังกล่าวเกิดขึ้น เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรี พร้อมอาสาสมัครมูลนิธิสว่างบำเพ็ญธรรมสถาน แพทย์เวร และพิสูจน์หลักฐาน ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบเหตุดังกล่าว ภายในทาวเฮาส์แห่งหนึ่ง ในตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี

ที่เกิดเหตุ อยู่ในบริเวณห้องครัว พบร่างหญิงและชาย ทราบชื่อ คือ นางสาวนัฐญา อายุ 27 ปี และนายรัตนพล อายุ 28 ปี ซึ่งเป็นสามีภรรยา อยู่ใน ลักษณะฝ่ายชายคว่ำหน้า กอดทับอยู่ด้านบนของฝ่ายหญิง ใกล้กันพบมีดทำครัวยาวประมาณ 5 นิ้ว เปื้อนเลือดตกอยู่ 2 เล่ม มีข้าวของกระจัดกระจาย และ คราบเลือดกระจายเต็มพื้นห้องครัว ลักษณะเหมือนการต่อสู้กัน เบื้องต้น เจ้าหน้าที่คิดว่าทั้งคู่เสียชีวิตแล้ว เพราะไม่มีสัญญาชีพ แต่ระหว่างที่พิสูจน์หลักฐาน และแพทย์กำลังชันสูตรปรากฏว่า จู่ๆ ฝ่ายชายมีชีพจร และฟื้นขึ้นมา โดยตามร่างกาย พบบาดแผลบริเวณใต้ราวนมด้านขวา 1 จุด และบริเวณคอ 1 จุด ถามตอบรู้เรื่อง แต่ไม่สามารถลืมตาได้ โดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รีบนำตัวส่งโรงพยาบาลศรีมหาโพธิเพื่อรักษาตัวต่อไป


เบื้องต้น จากการสอบปากคำลูกสาวของผู้เสียชีวิต ให้ข้อมูลว่า ก่อนเกิดเหตุ ได้ยินเสียงแม่กรีดร้องจึงได้รีบวิ่งเข้าไปดูแม่พบว่าแม่จนกองเลือด แต่ยังไม่ได้เสียชีวิต และสังเกตเห็นพ่อเดินไปเดินมา และลงไปกอดร่างแม่ เพราะคิดว่าแม่เสียชีวิต พร้อมกับเอามีดแทงตัวเองหลายครั้ง โดยตนพยายามห้ามไม่ให้พ่อทำร้ายตัวเอง แต่พ่อไม่ฟัง ตนตกใจรีบวิ่งออกมาโทรศัพท์บอกป้า ขณะที่พี่สาวฝ่ายหญิง บอกว่า เมื่อเวลา 22.00 น. น้องสาวโทรมาหา และให้ตนมารับหน่อย โดยปกติแล้วเขาก็ทะเลาะกันแบบนี้บ่อยครั้ง โดยตนบอกว่าให้ค่อยๆ คุยกัน หลังจากวางสายไปหลานสาวก็โทรเข้ามา แล้วร้องไห้ บอกว่าพ่อทำร้ายแม่ ตนเลยรีบออกจากบ้านพร้อมโทรแจ้ง 1669

อย่างไรก็ตาม มีรายงานการสืบสวน คาดว่าฝ่ายชายคิดระแวง กลัวว่าภรรยาของตนเองจะมีกิ๊ก เนื่องจากตรวจดูจากแชทไลน์โทรศัพท์ทั้งคู่ มีข้อความ การทะเลาะกัน เมื่อประมาณ 3 เดือนก่อน และมาในวันนี้มีปากเสียงรุนแรง 3 ครั้งก่อนเกิดเหตุสลด ซึ่งการดำเนินคดีหลังจากนี้ เมื่อฝ่ายชายอาการดีขึ้น เจ้าหน้าที่ จะเร่งสอบปากคำถึงสาเหตุการก่อเหตุที่แน่ชัดอีกครั้ง และดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก