มหาสารคาม 23 ต.ค. – หนุ่มวิศวกร ลูกเกษตรกร สู้ค่าครองชีพเมืองนนท์ไม่ไหว ผันตัวจากหนุ่มโรงงาน กลับบ้านเกิดมหาสารคาม ปลูกผักก้านจองขาย สร้างรายได้ดีวันละกว่า 1,000 บาท
นายทรงกรด บุญเลี้ยง วัย 29 ปี แบ่งที่นา 1 ไร่ออกมาเพื่อทำการปลูกผักก้านจอง สร้างรายได้เลี้ยงครอบครัว ที่บ้านโนนแคน ตำบลเวียงสะอาด อำเภอพยัคฆภูมิพิสัย จังหวัดมหาสารคาม
นายทรงกรด เล่าว่า ตอนแรกก็ไปทำงานในโรงงานอยู่ที่เมืองนนท์ เพราะเรียนจบวิศวกรรมศาสตร์มา แต่ด้วยความคิดถึงพ่อแม่ คิดถึงบ้านเกิดมหาสารคาม ประกอบกับคิดว่า แม้ได้เงินเดือนสูง แต่ค่าใช้จ่ายแต่ละวันก็สูงตามด้วย ไหนจะค่าที่พัก ค่ารถค่ากิน ยังไงค่าใช้จ่ายก็ไม่พอกับรายรับ ในเมื่อเราเป็นเป็นลูกเกษตรกร แถมยังหนุ่มยังแน่น กลับมาทำเกษตรกับพ่อแม่น่าจะดี จึงตัดสินใจลาออกจากงาน บอกพ่อแม่ ขอแบ่งที่นามาปลูกผักก้านจองขาย เพราะการเตรียมดินปลูกผักก้านจองทำแบบเดียวกับการทำนา แถมการปลูกก็ใช้การปักดำ ระยะห่างระหว่างต้นและแถว 50 x 50 เซนติเมตร ปลูกเพียง 7 วันก็สามารถทยอยเก็บผักก้านจองไปขายได้ ที่สำคัญด้วยความที่ปลูก 3 แปลงไล่ๆ กันไป ทำให้สามารถเก็บผักไปขายได้ทุกวันแบบสลับๆแปลงกันไป โดยผักได้รับความนิยม เอาไปวางขายก็ขายได้วันละกว่า 1,000 บาท เพราะผักปลูกกันเองแบบอุตสาหกรรมในครอบครัว ปลอดสารพิษ ใช้ปุ๋ยหมัก ปุ๋ยอินทรีย์ และฮอร์โมนที่ผลิตเอง ทำให้ต้นก้านจองโตเร็วยอดอวบ รสชาติหวาน กรอบ มีธาตุเหล็กสูง ซึ่งผักก้านจองนิยมนำไปกินกับน้ำพริกปลาร้า หรือจะเอามาทำแกงอ่อม ไม่ว่าจะเป็น อ่อมเนื้อ อ่อมหมู อ่อมปลา อ่อมกบ หรือผัดน้ำมันหอยก็ได้
สำหรับการจำหน่ายในราคามัดละ 10 บาท ขายส่ง จำนวน 12 มัด ราคา 100 บาท บางครั้งพ่อค้าที่ตลาดสดอำเภอสตึก จ.บุรีรัมย์ ก็มาสั่งซื้อ หรือสั่งทางออนไลน์ ก็สามารถจัดส่งให้ได้ จึงอยากฝากคนที่ทำงานแบบหาเช้ากินค่ำ หากคิดถึงบ้านเกิด กลับมาปลูกผักแบบนี้ก็สร้างรายได้ดี ไม่แพ้ทำงานในต่างจังหวัดเช่นกัน ส่วนตัวเองนอกจากผักก้านจองยังปลูกผักบุ้งแก้วด้วย ตอนนี้ชีวิตดี มีความสุข ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าที่พัก ค่าเดินทาง.-สำนักข่าวไทย