อุทัยธานี 22 ต.ค. – ตำรวจคุมตัวโชเฟอร์โหดฆ่ารัดคอกิ๊กสาวชาวลาวหมกไร่มันสำปะหลัง กลับไปดำเนินคดีที่ จ.อุทัยธานี เปิดปากสารภาพทะเลาะกัน ด้วยความโมโหจึงวางแผนฆ่าทิ้ง
คดีสะเทือนขวัญ พบศพหญิงสาวริมป่ามันข้างทางใน อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี สภาพถูกรัดคอ ขาทั้ง 2 ข้างมีรอยลากจากริมถนนเข้าไปที่พบศพ ระยะทางประมาณ 20 เมตร กระทั่งบ่ายวานนี้ (21 ต.ค.) ตำรวจจับกุมนายสังเวียน หรือเล็ก อายุ 52 ปี ชาว อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี โชเฟอร์ขับรถ ได้ที่ห้องเช่าย่านเสาชิงช้า พื้นที่ สน.สำราญราษฎร์ กทม. พร้อมของกลางรถตู้ยี่ห้อโตโยต้า คอมมิวเตอร์ สีขาว ก่อนนำตัวไปสอบปากคำและทำบันทึกจับกุมที่ สน.สำราญราษฎร์
จากการสอบปากคำตลอดทั้งคืน นายสังเวียนให้การรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุจริง โดยผู้ตายชื่อนางปนาวี เป็นกิ๊กชาวลาวที่รู้จักกันทางเฟซบุ๊กเมื่อ 4 เดือนก่อน ก่อนมาคบหาในฐานะกิ๊กได้ 2 เดือน โดยไม่ให้ภรรยารู้ และเมื่อวันที่ 17 ตุลาคมที่ผ่านมา ตนกลับไปทำบุญกระดูกพ่อครบ 3 ปี ที่วัดเขาพระยาพายเรือ จ.อุทัยธานี พร้อมภรรยา ที่ขับรถตามไปคนละคัน
เมื่อนางปนาวีรู้เรื่องจึงขึ้นรถทัวร์ตามไปหาที่ จ.อุทัยธานี ด้วย ตนจึงต้องเปิดรีสอร์ตเพื่อใช้เวลาอยู่กับผู้ตายบางครั้ง เมื่อถึงวันเดินทางกลับคือ 19 ตุลาคม ตนต้องกลับพร้อมภรรยา แต่นางปนาวีกลับไม่ยอม จนเกิดทะเลาะกัน ด้วยความโมโหตนจึงวางแผนลงมือฆ่าทิ้ง
โดยวันที่ 18 ตุลาคม เวลา 15.00 น. ได้ขับรถตู้สีขาวมารับผู้ตายในโรงแรม แล้วพาออกไปเที่ยวบริเวณน้ำพุร้อนสมองทอง อ.ห้วยคต เพื่อลงมือฆ่า แต่เนื่องจากมีนักท่องเที่ยวจำนวนมาก ไม่สะดวกลงมือ จึงพาผู้ตายไปจุดเกิดเหตุ ต.ลานสัก อ.ลานสัก ใกล้บ้านตน โดยขับรถตู้เข้าไปจอดในถนนลูกรังทางเข้าไร่มันสำปะหลัว และชวนผู้ตายลงมาพูดคุยจนเกิดทะเลาะกันอีกครั้ง จังหวะผู้ตายหันหลังตนได้ดึงเสื้อยืดดำของผู้ตายคลุมศีรษะ และใช้ยางรัดสีแดงที่เตรียมมารัดคอนางปวีนาจนเสียชีวิต จากนั้นได้ลากศพไปทิ้งเนินดินข้างถนนไร่มันสำปะหลัง ก่อนกลับเข้าบ้านพักไปหาภรรยาและลูก ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพฯ กระทั่งมาถูกตำรวจจับกุม เบื้องต้นถูกดำเนินคดีข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา
เมื่อช่วงสายที่ผ่านมา ตำรวจควบคุมตัวนายสังเวียน ออกจากห้องขัง สน.สำราญราษฎร์ กลับไปให้พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรลานสัก อ.ลานสัก จ.อุทัยธานี พื้นที่เกิดเหตุดำเนินคดีตามกฎหมาย.-สำนักข่าวไทย