มหาสารคาม 15 ต.ค. – แบ่งที่นาข้าวปลูกผักบุ้งแก้ว แค่ 3 งาน เก็บขายมีรายได้ทุกวัน แถมเศษผักบุ้งจากการตัดส่งขาย ยังใช้เป็นอาหารลดต้นทุนในการเลี้ยงปลา เงินเหลือเก็บออมได้อีก
แปลงผักบุ้งแก้ว บนเนื้อที่ 3 งาน ของนางวิไล น้อยสิงห์ อายุ 52 ปี ชาวบ้าน บ้านโนนแคน ต.เวียงสะอาด อ.พยัคฆภูมิพิสัย จ.มหาสารคาม เดิมเป็นนานข้าว 11 ไร่ อยู่ในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้ แบ่งมาเลี้ยงปลา มีบ่อบาดาลสูบน้ำด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
พี่วิไล บอกว่า หันมาปลูกผักบุ้งแก้ว เป็นรายได้อีกทาง เพราะทำนาแต่ละปีต้นทุนสูงขึ้นเรื่อยๆ จึงหาอาชีพเสริมโดยศึกษาจากอินเทอร์เน็ต พบว่าการปลูกผักบุ้งแก้วสามารถเก็บขายได้ทุกวัน จึงเปลี่ยนที่นาเริ่มจาก 1 งาน ไว้ปลูกผักบุ้งแก้ว จนขยายเป็น 3 งาน มีรายได้วันละ 500 บาท
การปลูกผักบุ้งแก้วแบ่งเป็นแปลงละ 1 งาน มีทั้งหมด 3 แปลง โดยการไถดะ ไถคราด แล้วนำท่อนพันธุ์ผักบุ้งมาปลูก เว้นระยะห่างระหว่างกอประมาณ 3 เมตร เมื่อผักบุ้งมีอายุประมาณ 7 วัน เริ่มให้ปุ๋ยมูลวัวที่เลี้ยงไว้ เพื่อเร่งการเจริญเติบโต ในสัปดาห์ที่ 2 หว่านปุ๋ยมูลวัวอีกรอบให้ทั่วแปลง วันถัดมาให้ปล่อยน้ำจากบ่อบาดาลพลังงานแสงอาทิตย์เข้าแปลงปลูก ให้ระดับน้ำอยู่ประมาณหน้าแข้งเพื่อให้ผักบุ้งเริ่มทอดยอด ประมาณสัปดาห์ที่ 4 ก็เก็บยอดขายได้ ทำให้มีรายได้วันละ 400-500 บาท ส่งพ่อค้าแม่ค้าที่ตลาดสด ขายกำละ 10 บาท ขายส่ง 10 กำ 70 บาท ส่วนเศษผักบุ้งที่เหลือหลังเด็ดยอด นำไปให้เป็นอาหารปลา ช่วยลดต้นทุน ทำให้มีเงินเหลือเก็บ แต่ละเดือนไม่ต่ำกว่าหมื่นบาท. -สำนักข่าวไทย