อุดรธานี 11 ต.ค. – พ่อแม่ร่ำไห้แทบขาดใจ ลูกสาวป่วยเป็นโรคพุ่มพวง ถูกครูบังคับเต้นในกิจกรรมกีฬาจนเป็นลมหมดสติ สุดท้ายเสียชีวิต สุดช้ำ ผอ.ฝ่ายการศึกษา บอกจงภูมิใจลูกพลีชีพเพื่อชาติ
สองสามีภรรยาเข้าร้องเรียนกับนายภาณุมาศ เจ้าของเพจ “เฮียเปี๊ยกช่วยด้วย” ว่า “น้องโฟ” ลูกสาววัย 17 ปี ต้องเสียชีวิตเพราะถูกครูโรงเรียนเทศบาลแห่งหนึ่งใน จ.อุดรธานี บังคับให้ไปร่วมกิจกรรมในงานกีฬาคุณทองบุราณเกมส์ ซึ่งเป็นกีฬาของนักเรียนสังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแห่งประเทศไทย รอบคัดเลือก โซนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ทั้งๆ ที่ลูกสาวป่วยเป็นโรคพุ่มพวง สุดท้ายลูกสาวเสียชีวิตขณะแสดงเต้นกลางสนามในพิธีปิดกีฬา
น.ส.รุ่ง (นามสมมติ) อายุ 37 ปี ผู้ปกครอง เปิดเผยว่า ช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ลูกสาวบอกพ่อกับแม่ว่าทางโรงเรียนแจ้งว่าจะประกาศหยุดเรียนประมาณ 2-3 สัปดาห์ เพราะจะมีการจัดแข่งขันกีฬาคุณทองบุราณเกมส์ แต่วันต่อมาลูกสาวมาแจ้งว่าไม่ได้หยุดแล้ว ครูให้ไปเป็นสตาฟฟ์ช่วยเสิร์ฟน้ำและอาหาร รวมถึงกิจกรรมอื่นๆ โดยครูจะเลือกนักเรียนที่ป่วยหรือมีโรคประจำตัว ประมาณ 10 กว่าคน ตอนแรกก็งงทำไมครูถึงเลือกนักเรียนที่ป่วยไป โดยลูกสาวป่วยเป็นโรคพุ่มพวง ก็ห่วงลูกสาวเพราะป่วยอยู่แล้ว ก็ถามลูกสาวว่าไหวไหมลูก น้องก็บอกว่าไม่ไหวก็ต้องไหว เพราะกลัวไม่ผ่านกิจกรรม จากนั้นลูกสาวก็ไปร่วมกิจกรรมกับเพื่อนๆ
พอถึงวันที่ 29 มิ.ย. เป็นพิธีปิดกีฬา ปรากฏว่าจะมีการแสดงเต้นกลางสนาม มีนักเรียนไม่มา ครูจึงเรียกสตาฟฟ์ที่เป็นเด็กนักเรียนที่ป่วยทั้งหมดไปเต้นแทน จู่ๆ ลูกสาวเกิดล้มฟุบกลางสนาม เพื่อนๆ เข้าไปช่วย แต่ถูกครูเรียกบอกว่าไม่ต้องเข้าไป ให้เต้นให้เสร็จก่อน ลูกสาวนอนฟุบอยู่นานหลายนาที ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่มาปั๊มหัวใจ สุดท้ายนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่ 11 วัน ก่อนเสียชีวิตในวันที่ 11 ก.ค. 67 สาเหตุที่ทำให้ลูกสาวเสียชีวิตอาจเป็นเพราะน้องป่วยโรคประจำตัวอยู่แล้ว และไปเป็นสตาฟฟ์ทำงานหนักเกินไป แถมครูเรียกให้ไปแสดงกลางแจ้งจนทำให้เป็นลมจนเสียชีวิต เรื่องที่เกิดขึ้นเสียใจอย่างมาก เพราะมีลูกสาวคนเดียว เป็นความหวัง เป็นความสุขของพ่อแม่ รักลูกสาวคนนี้มาก แม้เขาป่วยเป็นโรคพุ่มพวง แต่พ่อแม่ดูแลอย่างดี พาไปรักษาจนจะหายแล้ว แต่สุดท้ายต้องมาจากไปแบบนี้
ที่น่าช้ำใจคือตอนลูกสาวป่วย นอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี มี ผอ.สำนักฝ่ายการศึกษาของเทศบาล มาเยี่ยม บอกว่าพ่อแม่จงภูมิใจที่ลูกสาวพลีชีพเพื่อชาติ เราได้ยินก็ตกใจ จากนั้น ผอ.คนนี้มาเยี่ยมลูกสาว 4-5 ครั้ง ก็พูดแบบนี้ ให้พ่อแม่ภูมิใจลูกสาวพลีชีพเพื่อชาติ ย้ำอยู่แบบนี้ ยอมรับหัวอกคนเป็นพ่อแม่ไม่คิดว่าคนเป็น ผอ. จะพูดแบบนี้ได้ ยืนยันจะดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องให้ถึงที่สุด โดยให้ทนายดำเนินการเรียกค่าเสียหาย 12 ล้านบาท แต่ทางเทศบาลชดใช้ให้แล้ว 700,000 บาท แต่จะยังคงดำเนินการคดี พ่อกับแม่รักลูกสาวคนนี้มาก แม้เขาจะป่วยแต่เราก็ดูแลทะนุถนอมเขามาตลอด หวังให้เขาหายจากอาการป่วย เพราะเป็นความหวังของพ่อแม่ โตขึ้นเขาอยากเป็นนักธุรกิจ มีร้านกาแฟเป็นของตัวเอง แต่สุดท้ายต้องมาจบชีวิตเพราะครูบังคับให้ไปทำกิจกรรม อยากจะฝากกรณีลูกสาวของตนเป็นอุทาหรณ์.-สำนักข่าวไทย