สิงห์บุรี 4 ต.ค. – ป.ป.ช. ลงพื้นที่ขนส่ง จ.สิงห์บุรี ร่วมตรวจสภาพรถและตรวจสอบเอกสารข้อมูลรถของชินบุตรทัวร์ พบขออนุญาตติดตั้งถังก๊าซ 6 ถัง แต่กลับติดตั้งเพิ่มอีก 5 ถัง เป็น 11 ถัง
รถบัสของชินบุตรทัวร์ทั้งหมด 5 คัน ทยอยเข้าตรวจสภาพรถที่ขนส่งสิงห์บุรีทีละคัน โดยคันแรกเป็นรถทะเบียน 30-0412 ผู้ถือครองคือ นายจิรภัทร พบติดตั้งถังก๊าซทั้งหมด 11 ถัง โดยช่วงหลังคนขับติดถังก๊าซ 4 ถัง ตรงกลาง 1 ถัง และท้ายรถอีก 6 ถัง รถทัวร์เป็นรถชั้นครึ่ง สภาพรถเบาะนั่งค่อนข้างเก่า มีถังดับเพลิงอยู่ตรงประตูหน้า 1 ถัง และประตูกลาง 1 ถัง ส่วนตรงประตูฉุกเฉินท้ายรถ มีที่ทุบกระจกแขวนไว้ 1 อัน ประตูฉุกเฉินเปิดไม่ได้
ส่วนรถอีกคัน ทะเบียน 30-0357 สิงห์บุรี ผู้ถือครองคือ น.ส.กนิษฐา มีสภาพเช่นเดียวกัน มีร่องรอยการถอดเบาะตรงประตูฉุกเฉิน เจ้าหน้าที่ขนส่ง จ.สิงห์บุรี บอกว่าใช้สเปย์ฉีดตรงกระจกว่าห้ามใช้ เพราะไม่ผ่านการตรวจสอบ ในส่วนของรถคันอื่นที่ไม่ใช่คันของ น.ส.ปาณิสรา ถ้าปรับปรุงรถให้ถูกต้องตามมาตรฐานเรียบร้อยแล้วจะสามารถนำไปใช้ได้ตามปกติ แต่ส่วนรถที่เป็นของ น.ส.ปาณิสรา จะไม่สามารถใช้ได้อีก เพราะถูกยกเลิกใบอนุญาตแล้ว
ด้าน นายสุขสันต์ ประสาระเอ ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ป.ป.ช. และคณะ ร่วมตรวจสภาพรถ พบว่ารถจดทะเบียนครั้งแรกปี 2513 ที่ขนส่ง จ.สิงห์บุรี มีอายุการใช้งาน 53 ปี มีการเปลี่ยนตัวถัง เปลี่ยนเครื่องยนต์ใหม่ และพบว่ารถทัวร์ของชินบุตรทัวร์ มีการขออนุญาตติดถังก๊าซเพียง 6 ถังเท่านั้น แต่กลับมีการติดตั้งเพิ่มอีก 5 ถัง เป็น 11 ถัง ซึ่งต้องตรวจสอบว่าการติดตั้งถังก๊าซ มีวิศวกรรับรองหรือไม่
ตรวจอู่จุดถอดถังก๊าซ “ชินบุตรทัวร์” ไร้ใบอนุญาต
นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังอู่รถในพื้นที่ ต.โคกกรวด อ.เมือง จ.นครราชสีมา ซึ่งเป็นสถานที่ที่รถบัสของบริษัทชินบุตรทัวร์ ทั้ง 5 คัน มาจอดเพื่อถอดถังก๊าซ CNG ออก ก่อนจะถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่ของสำนักงานขนส่ง จ.นครราชสีมา เข้าตรวจสอบและระงับได้ทัน ก่อนจะทำการรื้อถังก๊าซออก ซึ่งภายหลังเจ้าหน้าที่ขนส่งนำรถบัสทั้ง 5 คันเข้าตรวจสภาพที่สำนักงานขนส่ง จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (3 ต.ค.)
จากการลงพื้นที่อู่ดังกล่าวพบว่าไม่มีการติดป้ายชื่อ ภายในพบรถบัส 2 คัน ถูกจอดทิ้งไว้ โดยไม่พบคนอยู่ในอู่ นอกจากนี้บริเวณด้านหน้าอู่พบถังก๊าซ CNG ถูกวางทิ้งไว้ 6 ถัง จากการตรวจสอบเอกสารที่ติดอยู่บริเวณถัง 3 ใน 6 ถัง ระบุทะเบียนรถในเอกสารเอาไว้ว่า 30-0411 สิงห์บุรี ซึ่งตามเอกสารระบุว่า น.ส.ปาณิสรา เป็นเจ้าของรถ เป็น 1 ในรถทั้ง 5 คัน ที่นำมาลักลอบถอดถังก๊าซออก ก่อนจะนำไปตรวจสภาพตามกำหนดการเดิมที่ จ.ลพบุรี ส่วนอีก 3 ถังที่เหลือไม่สามารถตรวจสอบได้ว่ามาจากรถคันใด เนื่องจากเอกสารถูกขูดทำลาย ทำให้ไม่
บริเวณโดยรอบยังพบเศษเหล็กที่มีลักษณะเหมือนคานสำหรับเอาไว้ใช้ล็อกถังก๊าซและสายรัดถังก๊าซกระจัดกระจายอยู่ ใกล้กันกับจุดที่ถังก๊าซถูกวางทิ้งเอาไว้ตรวจพบเบาะรถสีแดงลายดอกไม้ ซึ่งมีลักษณะตรงกับ 1 ในรถทั้ง 5 คัน ใกล้กันยังพบเบาะรถอีก 1 คู่ที่ถูกถอดวางทิ้งไว้ และมีเบาะ 1 คู่ที่ด้านหลังระบุว่า “ชินบุตรทัวร์” ส่วนสาเหตุที่ถอดออกนั้นคงเป็นเพราะต้องการจะนำถังก๊าซออกจากตัวรถ
จากนั้นผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังเทศบาลตำบลโคกกรวด ซึ่งรับผิดชอบพื้นที่บริเวณที่อู่รถตั้งอยู่ เพื่อตรวจสอบว่ามีการยื่นจดทะเบียนและการเสียภาษีหรือไม่ และจากการค้นข้อมูลยังพบว่าอู่ดังกล่าวขออนุญาตเปิดเป็นโรงจอดรถ มีชื่อนายจีราวัฒน์ เป็นเจ้าของ และไม่ได้ขออนุญาตเปิดเป็นอู่แต่อย่างใด
นอกจากนี้ยังพบข้อมูลอีกว่าอู่รถดังกล่าวมีการยื่นขออนุญาตก่อสร้างเมื่อปี 2556 และมายื่นขอบ้านเลขที่ในปี 2557 โดยขออนุญาตใช้เป็นโรงจอดรถ มีการเสียภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างเป็นประจำทุกปี ในลักษณะบุคคลธรรมดา ไม่ได้เสียภาษีหรือยื่นขอจดทะเบียนในการประกอบกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพตาม พ.ร.บ.สาธารณสุข .-สำนักข่าวไทย