กำแพงเพชร 23 ก.ย. – เกษตรกร จ.กำแพงเพชร ล้มลุกคลุกคลานจากการเลี้ยงหมู สุดท้ายเอาสิ่งที่ชื่นชอบคือการเลี้ยงกระต่าย ต่อยอดสู่การเลี้ยงเพื่อขายเนื้อสร้างรายได้ เป็นอาชีพทำเงิน
คุณเทพโกมล อายุ 33 ปี ชาวตำบลเทพนิมิต อำเภอบึงสามัคคี จ.กำแพงเพชร เจ้าของฟาร์มกระต่าย พาชมการเพาะเลี้ยงกระต่ายภายในฟาร์ม หลังประสบความสำเร็จจากการเลี้ยงเพื่อขายเนื้อ ส่งไปขายในประเทศเพื่อนบ้าน
คุณเทพโกมล เล่าว่า เมื่อ 4 ปีก่อน ครอบครัวทำธุรกิจเลี้ยงหมู แต่ขาดทุน ต้องหันหาอาชีพใหม่ โดยเอาความชอบจากการเลี้ยงกระต่ายสวยงาม นำเงินก้อนสุดท้ายที่มีอยู่มาลงทุน เริ่มต้นจากซื้อพ่อแม่พันธุ์กระต่าย 10 ตัว มาเพาะเลี้ยง จากนั้นขยายพันธุ์ ได้ลูกกระต่ายประมาณ 500 ตัว (กระต่ายท้องราว 1 เดือน ออกลูกครั้งละหลายตัว) จึงคิดต่อยอดจากการเลี้ยงเพื่อความสวยงาม สู่ธุรกิจกระต่ายเนื้อ กลายเป็นอาชีพทำเงินสร้างรายได้ให้ครอบครัว
การเลี้ยงกระต่ายใช้ระยะเวลาเลี้ยงไม่นาน ประมาณ 3-4 เดือน ก็สามารถขายได้ ตลาดนิยม ส่วนการเลี้ยง เลี้ยงแบบกรงตับ ใช้พื้นที่น้อย ทำกรงต่อตัวประมาณ 50 x 60 ซม. สูงราว 50 ซม. อาหารคือ หญ้า ผัก ผลไม้ กระต่ายกินได้หลายชนิด ส่วนการขุนก็ใช้อาหารเม็ด หรืออาหารข้น ให้กินควบคู่กันหรือประมาณ 30% ทำให้ต้นทุนการเลี้ยงไม่สูง สามารถขายได้ทั้งประเภทสวยงามซึ่งตลาดก็ยังไปได้ แต่ที่ฟาร์มเน้นการเลี้ยงกระต่ายเนื้อ เนื่องจากตลาดมีความต้องการสูง โดยเฉพาะประเทศเพื่อนบ้าน (ราคา กก.ละ 300 บาท)
ทางฟาร์มยังได้ส่งเสริมให้ผู้สนใจเลี้ยงกระต่ายเพิ่มขึ้น เพื่อเพิ่มรายได้ และรวมกลุ่มฟาร์มประมาณ 100 ราย ทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด มีการรับซื้อ ประกันราคา ซึ่งในแต่ละเดือนจะมียอดสั่งกระต่ายเนื้อสูง 150-600 ตัว และยังมีแนวโน้มการบริโภคเนื้อกระต่ายมากขึ้น เพราะเนื้อสามารถนำไปปรุงเป็นเมนูอาหารได้หลากหลาย เช่นเดียวกับ เนื้อหมู เนื้อไก่ เนื้อวัว ผัดเผ็ด แกง ทอด และอีกหลากหลายเมนู .- สำนักข่าวไทย
