นายหน้าขับรถตกน้ำ สารภาพนำเงินไปใช้เอง

อุทัยธานี 17 ก.ย. – กรณีหนุ่มนายหน้าขายพ่วง 18 ล้อ หอบเงินกว่า 4 ล้าน นัดส่งเจ้าของ แต่ขับรถตกสระน้ำ อ้างเงินจม กู้ภัยงมหาเจอแค่ 5 แสน ล่าสุด เจ้าตัวยอมรับนำเงินไปใช้หมด ที่เหลือขอผ่อนคืนทีหลัง


จากกรณีหนุ่มนายหน้าขายรถชาว อ.บ้านไร่ จ.อุทัยธานี ขับรถกระบะขนเงิน 4.2 ล้านบาท เสียหลักพุ่งลงสระน้ำวัดห้วยขานาง พื้นที่หมู่ 1 ต.หนองยาง อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ทราบชื่อคนขับ คือ นายธงชัย ซึ่งอ้างว่าเงินจำนวนดังกล่าวจมน้ำ แต่ทางกู้ภัยและชาวบ้านช่วยกันงมหาเจอเพียง 500,000 บาท แต่ฝั่งทางด้านเจ้าของเงินตัวจริง เป็นหญิงชาวนครสวรรค์ ซึ่งเป็นเจ้าของรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ เกิดความแคลงใจ ขอวัดสูบน้ำออกจากสระเพื่อดูว่ามีเงิน 3,700,000 บาท อยู่ที่ก้นสระจริงหรือไม่ ก่อนจะมีการยุติการสูบน้ำ เนื่องจากเครื่องสูบน้ำเสีย

นางสาวิตตรี อายุ 42 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของเงิน เล่าว่า ตนขายรถสิบล้อพ่วงที่บ้านไป 2 คัน ราคารวม 5 ล้านเศษ ผู้ซื้อได้โอนเงินมัดจำมา 120,000 บาท และจะนำเงินสด ส่งให้อีก 4 ล้านบาทเศษ โดยนายธงชัย (คนขับ) ได้ขับรถนำเงินสดที่เหลือมาส่งให้ตน ที่จังหวัดนครสวรรค์ แต่ระหว่างทาง นายธงชัย หลับใน ทำรถเสียหลักตกลงในสระข้างทางพร้อมกับเงินสด ชุดประดาน้ำได้ช่วยกันนำรถยี่ห้อโตโยต้า วีโก้ สีขาวขึ้นจากน้ำ และงมหาเงินที่สูญหายตลอดทั้งวัน พบเพียงเงินอยู่ในกล่องกระดาษ จำนวน 500,000 บาทเท่านั้น


วานนี้ (16 ก.ย.) พ.ต.อ.ภคิน วรรณศรี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหนองฉาง พร้อมด้วย ร้อยเวร สภ.หนองฉาง ลงพื้นที่ตรวจสอบยังจุดที่เกิดเหตุอีกครั้ง ในที่สุด ความจริงก็เปิดเผย นายธงชัย สารภาพว่า เงินที่หายไป ไม่ได้จมน้ำ แต่เอาไปใช้เอง ยอดเงินจากการขายรถ 4,200,000 บาท เจอในรถที่จมน้ำ 500,000 บาท เท่ากับว่าเงินหายไป 3,700,000 บาท นายธงชัยสารภาพว่าเอาเงินไปใช้แล้ว เหลืออยู่ 2,100,000 บาท จึงเจรจาไกล่เกลี่ยกับ นางทองดี อายุ 58 ปี ซึ่งเป็นเจ้าของ 18 ล้อ ที่นายธงชัย ขายต่อให้ และเจรจากับ นางสาวิตตรี เจ้าของเงิน ว่าจะคืนเงินให้ก้อน 2 ก้อน คือ 2,100,000 บาท กับ 500,000 บาท ที่จมน้ำ รวม 2,600,000 บาท ส่วนอีก 1,600,000 บาท นายธงชัย ขอผ่อนชำระรายเดือน เดือนละ 50,000 บาท แต่ทางนางทองดี ไม่ยอมให้ผ่อนชำระ อยากได้เป็นยอดเงินก้อนใหญ่ หรือไม่ก็ให้เอาทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง มาจ่ายทดแทน

นอกจากนี้ นายธงชัย ยังบอกอีกว่า ยอมรับสารภาพว่าแต่งเรื่องเงินจมน้ำจริง พูดไปแบบนั้นเพราะตกใจ ไม่ได้มีเจตนาจะทำให้เกิดอุบัติเหตุเพราะไม่กล้าเอาชีวิตตัวเองมาเสี่ยงแบบนี้อย่างแน่นอน วันเกิดเหตุตั้งใจจะไปสารภาพว่านำเงินไปใช้ แต่เวรกรรมตามทัน มาประสบอุบัติเหตุเกือบเอาชีวิตไม่รอดก่อนจะไปสารภาพ ในที่สุดก็ตกลงกันได้แล้ว ให้ทยอยจ่ายเงินที่เหลือจำนวน 1.6 ล้าน ผ่อนจ่ายขั้นต่ำเดือนละ 50,000 บาท แต่ถ้าเดือนไหนมีมากกว่า 50,000 บาทก็ จะจ่ายให้มากกว่า จนกว่าจะครบ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล