เชียงราย 15 ก.ย.- สถานการณ์น้ำกกเช้านี้เริ่มลดลง เนื่องจากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำ แต่จุดที่น่าห่วงคือพื้นที่สีแดง อย่างบ้านแม่ข้าวต้ม บ้านป่ายางหลวง ชาวบ้านเดือดร้อนหนัก สัญจรไม่ได้ หลังกระแสน้ำพัดคอสะพานขาด
จุดนี้เป็นจุดที่คอสะพานขาดทั้งสองด้าน ทำให้การสัญจรไปมาของชาวบ้านป่ายางหลวง ถูกตัดขาด เดือดร้อนมาหลายวันแล้ว ชาวบ้านต้องช่วยกันทำสะพานไม้ไผ่ เพื่อให้สามารถเดินข้ามไปมาระหว่างกันได้
สะพานร่องเดือยกาย มีความสำคัญกับชาวบ้านอย่างมาก เพราะเป็นจุดเชื่อมบ้านป่ายางหลวงและบ้านสันป่าสัก ไปยังเขตติดต่อบ้านแม่ข้าวต้ม และส่วนราชการในตำบลริมกก อำเภอเมืองเชียงราย รวมถึงเป็นเส้นทางเข้าในเขตเมืองด้วย โดยชาวบ้านบอกว่าตั้งแต่เกิดเหตุยังไม่มีหน่วยงานใดเข้ามาซ่อมแซม จึงอยากขอความช่วยเหลือจากทางการด้วย เพราะชาวบ้านป่ายางหลวงเดือดร้อนหนัก พร้อมบอกว่าเหตุการณ์น้ำท่วมปีนี้หนักที่สุดในรอบ 30 ปี หลังเคยเจอน้ำท่วมไปเมื่อปี 2537 ที่พนังกั้นน้ำในตัวเมืองแตก
ขณะที่เกษตรกรส่วนหนึ่งบอกว่า นอกจากบ้านเรือนจะเสียหายแล้ว แต่ไม่หนักเท่ากับไร่นาที่เสียหาย เพราะกู้หนี้ยืมสินมาลงทุนหวังเก็บเกี่ยวผลผลิต แต่ก็มาถูกน้ำท่วมแบบนี้ จึงอยากขอภาครัฐให้ช่วยสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ เพราะตอนนี้สิ้นเนื้อประดาตัวไม่รู้ว่าหลังน้ำลดแล้วจะนำเงินที่ไหนไปใช้หนี้ รวมถึงจะหาทุนจากไหนมาลงทุนทำข้าวต่อไป เพราะตนไม่มีอาชีพอื่นนอกจากเป็นชาวนาปลูกข้าว
สำหรับสถานการณ์แม่น้ำกกขณะนี้ แนวโน้มดีต่อเนื่องน้ำไม่ล้นตลิ่ง ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว มาอยู่ที่ประมาณ 6 เมตร ต่ำกว่าระดับตลิ่ง จากเดิมที่น้ำล้นตลิ่งสูงสุดไปถึง 8.9 เมตร เนื่องจากเช้านี้ไม่มีฝนตกลงมาซ้ำเติม ทำให้การจราจรในเขตเมืองสามารถสัญจรได้ปกติทุกเส้นทาง เหลือเพียงพื้นที่สีแดงและสีส้มที่เป็นพื้นที่ท้ายน้ำราบลุ่ม ที่ยังรอเวลาให้น้ำที่ท่วมขังสูงลดลงเท่านั้น รวมพื้นที่ความเสียหายในอำเภอเมืองเชียงรายที่ประสบเหตุอุทกภัย ทั้งหมด 52 ชุมชน ขณะนี้มีผู้ได้รับผลกระทบกว่า 8,739 ครัวเรือน หรือ 28,017 คน เบื้องต้นไม่มีผู้เสียชีวิต
โดยนายอำเภอ ฝากเตือนประชาชนที่ขณะนี้เริ่มทยอยเข้าไปสำรวจภายในบ้านบ้างแล้ว ให้ระวังสิ่งของหรือการก่อสร้างบางจุดที่อาจทรุดตัวพังลงมาและอาจบาดเจ็บได้
สำหรับวันนี้ในเขตตัวเมือง ทางอำเภอและหน่วยงานอาสาจะใช้รถน้ำออกปฏิบัติการบิ๊กคลีนนิ่งไปตามบ้านเรือน เพื่อให้ชาวบ้านกลับมาใช้ชีวิตได้ตามปกติโดยเร็ว – สำนักข่าวไทย