เชียงราย 14 ก.ย. – แม้น้ำที่ท่วมชายแดน อ.แม่สาย จ.เชียงราย จะเริ่มลดลงบ้าง แต่ยังมีฝนตกหนักทั้งในฝั่งไทยและเมียนมา ทำให้น้ำที่ท่วมในหลายชุมชนยังสูงและไหลเชี่ยว เจ้าหน้าที่ต้องระดมกำลังทั้งทางบกและทางอากาศ ช่วยเหลือชาวบ้านที่ยังเดือดร้อนหนัก ส่วนบางบ้านที่น้ำลดก็อยู่ในสภาพจมโคลน ลำบากไม่แพ้กัน
น้ำจากลำน้ำสายที่กั้นพรมแดนไทย-เมียนมา ยังไหลทะลักเข้าท่วมหลายชุมชนชายแดน อ.แม่สาย แต่ลดความแรงลง ทำให้เจ้าหน้าที่ประกาศเตือนชาวบ้านเฝ้าระวังระดับน้ำ หลังยังมีฝนตกหนักเป็นระยะ ทั้งในพื้นที่และต้นน้ำฝั่งเมียนมา ทำให้น้ำยังไหลมาเติมไม่หยุด
ทหารโรยตัวทางอากาศจากเฮลิคอปเตอร์ EC 725 กองทัพอากาศ นำอาหารและน้ำดื่ม เข้าไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ยังติดอยู่ตามอาคารกลางน้ำท่วม ทั้งชุมชนเกาะทราย ชุมชนไม้ลุงขน ชุมชนเกาะสวรรค์ และปฏิบัติภารกิจทางอากาศช่วยเหลือผู้ติดค้างในพื้นที่น้ำท่วมสูงออกมาได้อีก 4 ราย
ขณะที่กำลังทหารยังเดินฝ่ากระแสน้ำเข้าไปช่วยเคลื่อนย้ายชาวบ้านออกจากพื้นที่ ส่วนทีมกู้ภัยเดินเท้านำอาหาร น้ำดื่ม เข้าไปแจกจ่าย รวมทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิอาสาเพื่อนพึ่ง (ภาฯ) ยามยาก ซึ่งเข้าช่วยผู้สูงอายุออกจากบ้าน โดยใช้เปลสนามลากออกมาจากทะเลโคลน ซึ่งคุณยายที่ออกมาได้ถึงกับร่ำไห้
นอกจากนี้ยังใช้รถแบ็กโฮขวางน้ำที่เชี่ยวกราก และใช้แขนตักเป็นสะพานช่วยคนออกมา รวมทั้งขึ้นที่ตักของแบ็กโฮปีนขึ้นหลังคานำอาหาร น้ำดื่ม ไปแจกจ่ายผู้ประสบภัยที่อยู่ตามตึกสูง หลายคนติดอยู่กลางน้ำท่วมมา 5 วัน แต่โชคดีที่น้ำลดลงบ้าง ทำให้เจ้าหน้าที่เข้าถึงพื้นที่ได้มากขึ้น
ส่วนพื้นที่ที่น้ำลดแล้วมีสภาพไม่ต่างจากทะเลโคลน อย่างที่วัดเกาะทรายคำ ต.แม่สาย เต็มไปด้วยโคลนล้อมรถยนต์หลายสิบคันไว้ บ้านเรือน รถยนต์ จักรยานยนต์ มากมายจมอยู่ในโคลน เรียกว่าบางหลังกองโคลนปิดหน้าบ้านจนเข้าออกไม่ได้ อย่างบ้านหลังนี้ถูกโคลนท่วมสูงถึงหน้าอก เจ้าของบ้านวัย 60 ปี ต้องไปอาศัยอยู่กับเพื่อนบ้าน และยังไม่รู้ว่าจะทำยังไงกับโคลนมหาศาลเหล่านี้ หรืออย่างร้านขายเสื้อผ้าในชุมชนเกาะทราย โคลนท่วมถึงเอว เสื้อผ้าถูกน้ำท่วมทั้งหมด แทบหมดตัว
เช่นเดียวกับฝั่งจังหวัดท่าขี้เหล็กของเมียนมา ซึ่งถูกน้ำท่วมสูงมาหลายวัน น้ำเริ่มลด แต่อาคารร้านค้าต่างๆ ในตลาดท่าล้อ ยังมีน้ำท่วมขังและจมอยู่ใต้โคลน ชาวเมียนมาจำนวนมากแห่ข้ามมาฝั่งไทย ส่วนหนึ่งเพื่อมาอาศัยกับญาติ หลังถูกน้ำท่วมมาหลายวัน ไม่มีไฟฟ้า ไม่น้ำและอาหารขาดแคลน
ขณะที่ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ที่ข้ามชายแดนมาซื้อน้ำดื่มและอาหาร ข้าวสาร หมู เป็ด ไก่ ข้าวของเครื่องใช้ ไปจนถึงเครื่องสูบน้ำและเครื่องปั่นไฟ ขนข้ามฝั่งเพื่อประทังชีวิตหลังน้ำท่วม
ด้านเจ้าหน้าที่เร่งตักเศษซากปรักหักพังและโคลนออกจากสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา รวมถึงถนนหน้าด่านชายแดนที่จมโคลนมาหลายวัน เพื่อค่อยๆ ฟื้นฟูพื้นที่ หลังเจอวิกฤติน้ำท่วมครั้งใหญ่ในรอบร้อยปี ซสร้างความเสียหาย รวมทั้งโอกาสในการค้า ซึ่งอาจจะสูงกว่าพันล้านบาท.-สำนักข่าวไทย