รวบแล้ว 10 แก๊งปล้นเงิน ตร.ชุดสืบนครนายก-เร่งล่าอีก 2

นครนายก 3 ก.ย. – ตำรวจรวบตัวได้แล้ว 10 คน เร่งล่าอีก 2 คน แก๊ง “เสือปุ่น” เน็ตไอดอล ก่อเหตุปล้นเงิน 9 ล้านบาท จากชุดสืบจังหวัดนครนายก ที่ใช้ล่อซื้อยาไอซ์ 50 กิโลกรัม


ความคืบหน้ากรณีชุดสืบสวนจังหวัดนครนายก วางแผนล่อซื้อยาไอซ์ 50 กิโลกรัม มูลค่า 9 ล้านบาท จาก “เสือปุ่น” เน็ตไอดอล และพวก โดยตกลงนัดดูเงินที่ห้างสรรพสินค้าใน จ.นครนายก ก่อนบ่ายเบี่ยงไม่ยอมมอบยา และเปลี่ยนสถานที่ให้ไปรับยาที่ อ.บ้านนา แต่เมื่อถึงที่เกิดเหตุคนร้ายขับรถประกบหน้าหลัง ก่อนกระชากตัวสายตำรวจลงจากรถ ใช้ปืนตบศีรษะ และใช้เคเบิลไทร์มัดมือ ขณะที่ชุดปฏิบัติการพิเศษและสืบจังหวัดนครนายก ที่เตรียมพร้อมอยู่ ต้องเข้าชาร์จกลุ่มคนร้ายจนหนีกระเจิงเข้าป่า

จับได้แล้ว 10 คน เร่งล่าอีก 2
พล.ต.ต.ฉัตรชัย สุรเชษฐพงษ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 2 นำกำลังเสริมมาช่วยชุดปฏิบัติการพิเศษและสืบจังหวัดนครนายก โดยปิดล้อมพื้นที่ พร้อมประสานขอไฟส่องสว่างปิดล้อมกดดันตลอดทั้งคืน รวมทั้งประสานงานกับชาวบ้านในพื้นที่ช่วยเป็นหูเป็นตา กระทั่งผู้ต้องหาทนไม่ไหว ทยอยออกมามอบตัวทีละคน จนรวบตัวผู้ต้องหาได้แล้ว 10 คน เหลืออีก 2 คนที่ยังหลบหนี


จากการสอบถาม พ.ต.อ.ฤตวีร์ สุขเจริญ ผู้กำกับการสืบสวนจังหวัดนครนายก บอกว่า ชุดสืบจังหวัดนครนายก วางแผนพูดคุยติดต่อกับกลุ่มคนร้ายมาสักระยะเวลาหนึ่งแล้ว มีการตกลงนัดส่งยาไอซ์ 50 กิโลกรัม โดยใช้เงินล่อซื้อจำนวน 9 ล้านบาท ที่ห้างสรรพสินค้าใน จ.นครนายก โดยคนร้ายแบ่งทีมเป็น 2 ทีม ทีมแรกเข้ามาดูเงินกับสายตำรวจที่ห้างฯ เมื่อคนร้ายเห็นเงินแล้วก็บอกให้ไปรับของที่ อ.บ้านนา

ตามแผนของตำรวจ คนร้ายต้องเอาของมาส่งที่ห้างฯ แห่งนี้ แต่คนร้ายไม่ยอม ตำรวจจึงยอมตามน้ำไปยัง อ.บ้านนา โดยคนร้ายบอกว่าจะเอาของโยนไว้ข้างทางให้ไปรับบริเวณริมถนนคลองห้วยถ่าน หมู่ 12 ต.ป่าขะ อ.บ้านนา ลักษณะทางเข้าเป็นป่าทึบ เมื่อสายตำรวจ 2 นาย ไปถึงมีคนร้ายขับรถมาปิดหน้าและท้ายรถจำนวน 2 คัน จากนั้นเข้าไปกระชากสายตำรวจทั้ง 2 นาย ลงจากรถ ใช้อาวุธปืนตีที่ศีรษะได้รับบาดเจ็บ และค้นตัวสายตำรวจทั้ง 2 นาย จากนั้นนำเคเบิลไทร์มารัดมือ และบังคับให้พูดว่าได้ยาแล้ว

ชุดตำรวจที่ติดตามจึงเข้าจับกุมกลุ่มคนร้ายจนเกิดความชุลมุนขึ้น โดยคนร้ายชักปืนขึ้นลำจ่อศีรษะสายตำรวจ และยิงต่อสู้เจ้าหน้าที่ บางส่วนพากันวิ่งหนีกระจัดกระจายเข้าไปในป่า ก่อนที่ตำรวจจะปิดล้อมตรวจค้นจนควบคุมตัวคนร้ายไว้ได้ทั้งหมด 10 คน ส่วนอีก 2 คน หลบหนีไปได้ จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่าคนร้ายยอมรับว่าไม่ได้มียาไอซ์จริง แต่เจตนาที่มานั้นเพื่อมาปล้นเงิน และเข้าใจว่าสายตำรวจเป็นพ่อค้ายาจริงๆ


เผย 2 ผู้ต้องหามีทั้งเน็ตไอดอล-อาสาตำรวจ
คนร้ายที่จับกุมได้นอกจากเสือปุ่น ยังมีบางคนเป็นที่ปรึกษาของข้าราชการ โดยมีลักษณะรู้เห็นวิธีการทำงานของเจ้าหน้าที่จึงอ้างตนเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐในระหว่างการจับกุม ขณะที่คนร้ายอีก 2 คนที่หลบหนีไปได้ สืบจังหวัดนครนายกทราบชื่อแล้ว ส่วนสาเหตุที่ต้องล่อซื้อจับกุมกลุ่มคนร้ายกลุ่มนี้เนื่องจากสืบจังหวัดนครนายก สืบทราบว่ากลุ่มผู้ต้องหามีการซื้อขายยาเสพติดอยู่ ซึ่งที่ผ่านมาสืบจังหวัดนครนายก เคยทำคดีล่อซื้อยาบ้าจำนวน 400,000 เม็ด มาก่อนหน้านี้แล้ว

ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านนา ตรวจยึดของกลางเป็นรถกระบะอีซูซุสีบลอนด์ทอง รถกระบะโตโยต้ารีโว้ สีขาว และรถ SUV มิตซูบิชิ Xpender cross สีดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ซึ่งเป็นรถที่ใช้ก่อเหตุ รวมถึงอาวุธปืนสั้น 2 กระบอก เครื่องกระสุนปืน เคเบิลไทร์ และตะปู

“เสือปุ่น” กับพวก ยังไม่ยอมปริปาก
ขณะที่ช่วงบ่ายที่ผ่านมา ตำรวจควบคุมตัวผู้ต้องหา 9 คน ไปสอบสวนขยายผลเพิ่มเติม เบื้องต้นตำรวจให้ข้อมูลว่าตั้งข้อหาหนัก 4 ข้อหา คือ 1.พกพาอาวุธปืนและเครื่องกระสุนโดยไม่ได้รับอนุญาต 2.ทำร้ายเจ้าหน้าที่ระหว่างปฏิบัติหน้าที่ 3.กักขังหน่วงเหนี่ยว 4.รวมกันปล้นทรัพย์ ซึ่งผู้ต้องหาทั้งหมดไม่ให้ยอมให้การใดๆ กับเจ้าหน้าที่

อย่างไรก็ตาม การก่อเหตุในครั้งนี้มีผู้ต้องหาทั้งหมด 12 คน เป็นผู้หญิง 1 คน จับได้ 10 คน อยู่ที่ สภ.บ้านนา 9 คน หลบหนีไปได้ 2 คน และอยู่โรงพยาบาลบ้านนา 1 คน เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ ถูกเจ้าหน้าที่ยิงใส่บริเวณก้นระหว่างยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Joe Biden and Kamala Harris on stage

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่ “แฮร์ริส” พ่ายแพ้

ผู้เชี่ยวชาญชี้สาเหตุที่นางคอมมาลา แฮร์ริส ตัวแทนพรรคเดโมแครต พ่ายแพ้การเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ ให้แก่นายโดนัลด์ ทรัมป์ จากพรรครีพับลิกัน

“ทรัมป์” คว้าชัยเด็ดขาด ครองตำแหน่งประธานาธิบดีอีกสมัย

โดนัลด์ ทรัมป์ ผู้สมัครจากพรรครีพับลิกัน คว้าชัยชนะเด็ดขาดในการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐ เหนือคู่แข่งอย่าง คอมมาลา แฮร์ริส จากพรรคเดโมแครต นับเป็นการกลับมาครองตำแหน่งผู้นำสหรัฐอีกครั้ง หลังต้องออกจากทำเนียบขาวไปเมื่อ 4 ปีก่อน

พบศพไวยาวัจกรวัดดังระยองถูกยิงดับพร้อมหญิงสาวในบ้านพัก

พบศพไวยาวัจกรวัดดัง จ.ระยอง ถูกยิงเสียชีวิตในบ้านพัก พร้อมหญิงสาวหน้าตาดี คาดเสียชีวิตมาแล้ว 3 วัน ตำรวจเร่งหาสาเหตุ

พบเด็กหญิงฝาแฝดวัย 9 ขวบ ดวงตาสีฟ้า

พบเด็กหญิงฝาแฝดชาวนครพนม วัย 9 ขวบ มีดวงตาสีฟ้าสดใส ซึ่งเป็นโรคทางพันธุกรรมที่พบได้ยาก อาศัยอยู่กับแม่เลี้ยงเดี่ยว แม่เผยลูกมีปัญหาทางการได้ยิน ใช้ชีวิตลำบาก ถูกบลูลี่ แต่ไม่ขอเปิดรับบริจาค เพราะเคยถูกมิจฉาชีพแอบอ้าง

ข่าวแนะนำ

นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขัง เจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

กองปราบฯ นำ “ทนายตั้ม-ภรรยา” ฝากขังศาลอาญารัชดา เบื้องต้นท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว ด้านเจ้าตัวยกมือไหว้ ปัดตอบทุกประเด็น

ครูปรีชาทนายตั้ม

“ครูปรีชา” หิ้วกาแฟ-ข้าวผัด เยี่ยม “ทนายตั้ม”

เกือบ 24 ชั่วโมง ที่ตำรวจกองปราบฯ คุมตัว “ทนายตั้ม-ภรรยา” มาสอบปากคำ เบื้องต้นทั้งคู่ยังให้การปฏิเสธ เตรียมส่งตัวฝากขังบ่ายนี้ ส่วนคู่กรณีหวย 30 ล้าน “ครูปรีชา” นำข้าวผัดและกาแฟ เข้าเยี่ยม “ทนายตั้ม” พร้อมยืนยันคำเดิม “ความจริงก็คือความจริง”

นายกฯ เร่งตั้งทีม JTC เจรจา MOU44 คาดชัด 18 พ.ย.นี้

นายกฯ ยันรัฐบาลเร่งตั้งคณะกรรมการ JTC หารือเส้นเขตแดน MOU 44 และพลังงานใต้ทะเล คาด 18 พ.ย.นี้ ชัดเจน “ภูมิธรรม” มั่นใจกัมพูชายึดตามสนธิสัญญาเจนีวา แม้ไม่เข้าร่วม ย้ำมีผลผูกพันทุกประเทศทั่วโลก