กรุงเทพฯ 2 ก.ย.-กรมชลประทาน ปรับแผนการบริหารจัดการน้ำเหนือ โดยวันนี้จะเพิ่มการผันน้ำเข้าระบบชลประทานมากขึ้น พร้อมหน่วงน้ำไว้ที่เขื่อนเจ้าพระยาให้มากที่สุด หากจำเป็นอาจพิจารณาปรับเพิ่มการระบายเป็น 1,500 ลบ.ม./วินาที
นายธเนศร์ สมบูรณ์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารจัดการน้ำและอุทกวิทยา กรมชลประทานกล่าวว่า วันนี้จะปรับแผนบริหารจัดการน้ำเหนือที่ไหลลงสู่ลุ่มน้ำเจ้าพระยาเนื่องจากตรวจวัดปริมาณน้ำที่สถานีวัดน้ำ C2 อ. เมืองนครสวรรค์ จ. นครสวรรค์ได้ในอัตรา 1,551 ลบ.ม./วินาทีซึ่งเพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 1,485 ลบ.ม./วินาที โดยยังมีแนวโน้มจะเพิ่มสูงขึ้นจากปริมาณน้ำทางตอนบนและฝนที่ตกในพื้นที่ ประกอบกับกรมอุตุนิยมวิทยาออกประกาศเตือนฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณประเทศไทยและคลื่นลมแรงบริเวณทะเลอันดามันเนื่องจากร่องมรสุมจะเลื่อนลงมาพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลาง และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลาง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้นซึ่งจะส่งผลให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น โดยฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ส่งผลกระทบ 74 จังหวัด นอกจากนี้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ออกประกาศเรื่อง เฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในช่วงวันที่ 3 – 9 กันยายน 2567 จากฝนตกหนักมากดังกล่าว พร้อมเตือนให้เฝ้าระวังแม่น้ำสายหลัก 5 สายและลำน้ำสาขาอาจมีระดับเพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่งเข้าสู่พื้นที่ลุ่มต่ำได้
กรมชลประทานจึงจะผันน้ำที่ไหลมาถึงเหนือเขื่อนเจ้าพระยาเข้าระบบชลประทานทั้งฝั่งตะวันตกและตะวันออกเพิ่มขึ้นในปริมาณที่ไม่ส่งกระทบต่อพื้นที่เกษตรที่ยังไม่ได้เก็บเกี่ยว แล้วหน่วงน้ำไว้ที่เขื่อนเจ้าพระยาให้มากที่สุด เช้าวันนี้ยังควบคุมการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาในอัตรา 1,399 ลบ.ม./วินาที แต่หากมีความจำเป็นอาจปรับเพิ่มเป็นไม่เกินอัตรา 1,500 ลบ.ม./วินาที แล้วเร่งระบายน้ำทางตอนบนลงสู่อ่าวไทยให้เร็วที่สุด
การปรับเพิ่มการระบายน้ำผ่านเขื่อนเจ้าพระยาดังกล่าว จะส่งผลให้ระดับน้ำบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำนอกคันกั้นน้ำบริเวณคลองโผงเผง จังหวัดอ่างทอง คลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และตำบลหัวเวียง อำเภอเสนา ตำบลลาดชิด ตำบลท่าดินแดง อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา (แม่น้ำน้อย) เพิ่มสูงขึ้นอีก
ส่วนที่สถานีวัดน้ำ อ. บางไทร จ. พระนครศรีอยุธยา เช้านี้มีปริมาณน้ำไหลผ่าน 1,365 ลบ.ม./วินาที เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ซึ่งอยู่ที่ 1,265 ลบ.ม./วินาทีซึ่งปริมาณน้ำไหลผ่านเฉลี่ยยังไม่เกินอัตรา 1,500 ลบ.ม./วินาที โดยอิทธิพลของสถานการณ์น้ำทะเลหนุนในช่วงวันที่ 30 สิงหาคม – 5 กันยายน 2567 อาจจะส่งผลให้ระดับน้ำในพื้นที่ลุ่มต่ำริมแม่น้ำเจ้าพระยาบริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี และกรุงเทพมหานครบางพื้นที่ยกตัวสูงขึ้น แต่จะไม่ส่งผลกระทบต่อพื้นที่เศรษฐกิจของกรุงเทพมหานคร
สำหรับสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำของเขื่อนหลักลุ่มเจ้าพระยาได้แก่ เขื่อนภูมิพล เขื่อนสิริกิติ์ เขื่อนแควน้อยบำรุงแดน และเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ข้อมูลวันที่ 1 กันยายน 2567 มีปริมาณน้ำรวมกันประมาณ 14,209 ล้าน ลบ.ม. 57% ของความจุอ่างเก็บน้ำรวมกัน ยังสามารถรองรับน้ำได้รวมกันอีกกว่า 10,662 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันเขื่อนภูมิพลและเขื่อนสิริกิติ์ได้ปรับลดการระบายน้ำ เพื่อช่วยลดผลกระทบด้านท้ายน้ำ
ส่วนสถานการณ์น้ำในอ่างเก็บน้ำทั่วประเทศมีปริมาณน้ำ 46,585 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 58% ของความจุรวม
ทั้งนี้กรมชลประทานติดตามและเฝ้าระวังสถานการณ์ฝนและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด ตามที่กรมอุตุนิยมวิทยาคาดการณ์ว่า ในเดือนกันยายนจะมีฝนตกเพิ่มในพื้นที่ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ รวมทั้งภาคกลางซึ่งอาจจะส่งผลให้ปริมาณน้ำทั้งในลำน้ำและอ่างเก็บน้ำเพิ่มขึ้น โดยจะบริหารจัดการเพื่อลดผลกระทบต่อประชาชนให้มากที่สุด.-512.-สำนักข่าวไทย