พบศพที่ 13 เหยื่อดินโคลนถล่มทับบ้าน จ.ภูเก็ต

ภูเก็ต 24 ส.ค. – พบแล้วศพที่ 13 เหยื่อดินโคลนถล่มทับบ้านเรือนประชาชน ต.กะรน อ.เมือง จ.ภูเก็ต ญาติรับศพไปบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความโศกเศร้า ขณะที่ชาวบ้านเรียกร้องตรวจสอบการก่อสร้างอาคารของวัดพระใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขานาคเกิด


ครอบครัวของผู้เสียชีวิตทั้ง 13 ราย เดินทางมาติดต่อขอรับร่างกลับไปบำเพ็ญกุศล ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจต่อการสูญเสียที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ขณะที่วันนี้ชาวบ้านในพื้นที่ ต.กะรน พากันออกมาเรียกร้องให้ทางการตรวจสอบการก่อสร้างอาคารของวัดพระใหญ่ที่ตั้งอยู่บนเทือกเขานาคเกิด เพราะตั้งข้อสังเกตว่าสาเหตุที่ดินสไลด์ลงมารุนแรงอาจเกิดจากการปรับพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติเทือกเขานาคเกิด ที่เคยมีความอุดมสมบูรณ์

ขณะที่ประธานมูลนิธิพระใหญ่ออกมาชี้แจงผ่านทางสำนักข่าวไทย ยอมรับเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ยืนยันว่าการก่อสร้างพระพุทธรูปขนาดใหญ่บนเทือกเขานาคเกิด ในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ขออนุญาตอย่างถูกต้องตามกฎหมายจากกรมป่าไม้


เหตุการณ์ดินโคลนจากเทือกเขานาคเกิดสไลด์ถล่มลงมาทับบ้านเรือนประชาชนที่ปลูกติดกับที่ราบเชิงเขา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตมากถึง 13 ราย เป็นคนไทย 2 ราย เมียนมา 9 ราย และรัสเซียอีก 2 ราย

เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อช่วงเช้ามืดวันที่ 23 ส.ค.ที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้เจ้าหน้าที่ยุติการค้นหาทั้งหมดแล้ว หลังช่วงบ่ายที่ผ่านมาพบร่างผู้สูญหายรายสุดท้าย เป็นหญิงชาวเมียนมา โดยญาติที่มาเฝ้ารอการค้นหาร้องไห้อย่างหนักเมื่อพบว่าคนที่รักจากไปอย่างไม่มีวันกลับ โดยร่างผู้สูญหาย 3 รายที่พบล่าสุดในวันนี้ 2 รายพบบริเวณบ้านเช่าใกล้กับจุดที่พบศพชาวรัสเซียก่อนหน้านี้ โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเล่าว่าขณะเข้าไปพบร่างของผู้เสียชีวิตทั้ง 2 คน เป็นชายและหญิง อยู่ในสภาพกอดคอกัน ภายในมือยังถือไฟฉายและโทรศัพท์มือถือไว้ และอีกศพพบบริเวณบ้านเช่าที่ปลูกสร้างอยู่ด้านล่าง ห่างจากจุดที่ดินสไลด์ลงมาราว 300 เมตร

เจ้าของบ้านเช่าซึ่งถูกดินโคลนพัดลมลงมาทับบ้านได้รับความเสียหายทั้งหมด และยังมีผู้เช่าเสียชีวิตภายในบ้าน 2 คน คือ ชาวรัสเซีย เล่าทั้งน้ำตาว่ารู้สึกเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยเหตุการณ์ในครั้งนี้ทำให้ตนเองเองกลายเป็นคนสิ้นเนื้อประดาตัว เพราะใช้เงินที่เก็บหอมรอมริบมาทั้งชีวิตในการสร้างบ้านให้เช่า


อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเขาบอกว่าไม่ได้อยู่เหนือความคาดหมายแต่อย่างใด เพราะเมื่อ 10 ปีก่อนเขาเคยเห็นร่องรอยการสไลด์ของดินภูเขาในจุดนี้มาแล้วในช่วงที่มีการก่อสร้างวัดบนเทือกเขานาคเกิด และรู้สึกวิตกกังวลมาโดยตลอดว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์รุนแรงแบบนี้เข้าสักวันหนึ่ง

ด้านนายชาดา ไทยเศรษฐ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ที่วันนี้เดินทางมาติดตามสถานการณ์และให้กำลังใจผู้ประสบภัย บริเวณศูนย์ช่วยเหลือพักพิงชั่วคราว ซึ่งวันนี้ทัพเรือภาคที่ 3 นำรถโรงครัวพระราชทาน มาปรุงอาหารเลี้ยงใผู้ประสบภัยจำนวน 3 มื้อ ได้สั่งการที่ให้ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เร่งเข้าไปตรวจสอบการก่อสร้างอาคารของวัดพระใหญ่ บนเทือกเขานาคเกิด ตามที่ชาวบ้านร้องเรียนให้ตรวจสอบ

นายตริณ ทิพย์มงคล สมาชิกสภาเทศบาลตำบลกะรน ให้ข้อมูลกับสำนักข่าวไทยว่า อดีตเทือกเขานาคเกิด มีความอุดมสมบูรณ์มาก แต่หลังจากมีการขึ้นไปปรับพื้นที่ก่อสร้างอาคารก็ทำให้สภาพพื้นที่ดังกล่าวเปลี่ยนแปลงไปมาก และเชื่อว่าเป็นหนึ่งในสาเหตุสำคัญที่ทำให้ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นในครั้งนี้

ทีมข่าวสำนักข่าวไทยได้ขึ้นไปตรวจสอบบนวัดพระใหญ่ ซึ่งตั้งอยู่บนเทือกเขานาคเกิด เพื่อให้เห็นกับตาว่าการสไลด์นั้นมีต้นทางมาจากที่ไหนอย่างไร พบว่าระหว่างเส้นทางที่ขึ้นไปบนเทือกเขานาคเกิด มีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เกิดขึ้นเรียงรายตลอดสองข้างทาง ทั้งร้านอาหาร ปางช้าง ส่วนวัดพระใหญ่ตั้งอยู่บนยอดสุดของเขานาคเกิด ปัจจุบันเป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของภูเก็ต ที่มีนักท่องเที่ยวนิยมเดินทางขึ้นไปกราบสักการะพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่ประดิษฐานอยู่บนยอดเขา รู้จักกันดีในนามของพระพุทธมิ่งมงคลเอกนาคคีรี

ทีมข่าวยังได้สอบถามรายละเอียดกับนายสุพร วณิชกุล ประธานมูลนิธิวัดพระใหญ่ ยอมรับว่ารู้สึกเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หลังมีชาวบ้านตั้งข้อสังเกตว่าการก่อสร้างวัดเป็นต้นเหตุทำให้ดินสไลด์ลงไปทับบ้านเรือนประชาชน จนทำให้มีผู้เสียชีวิตถึง 13 ราย ระบุพร้อมจะแก้ไขไปกับหน่วยงานรัฐ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุในลักษณะนี้ขึ้นอีก

ส่วนภาพถ่ายที่มีการบันทึกกันได้ว่าจุดที่มีการสไลด์นั้นเกิดจากบนวัดพระใหญ่ เบื้องต้นคาดว่าเป็นบริเวณอาคารปฏิบัติธรรม อย่างไรก็ตาม ประธานมูลนิธิวัดพระใหญ่ ยืนยันว่าการก่อสร้างพระพุทธรูป และอาคารต่างๆ บนเทือกเขานาคเกิด ดำเนินการถูกต้องตามกฎหมาย โดยพื้นที่บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ เทือกเขานาคเกิด จริง แต่ได้รับอนุญาตจากทางกรมป่าไม้ให้เข้าไปดำเนินการก่อสร้างเมื่อปี 2545 เนื้อที่รวม 42 ไร่ พร้อมทั้งยืนยันว่าการก่อสร้างในตอนนี้ไม่ได้มีการรุกล้ำเกินจากที่ขอไว้แต่อย่างใดด้วย

ทั้งนี้ เหตุการณ์ดินโคลนถล่มในครั้งนี้ส่งผลให้มีประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ล่าสุดป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยสรุปตัวเลขมีชาวบ้านได้รับผลกระทบรวม 209 ครัวเรือน 3 ตำบล 9 หมู่บ้าน หนักสุดในพื้นที่หมู่ 2 ต.กะรน มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวมท 19 คน เสียชีวิตทั้งหมด 13 คน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

กัมพูชายืนยันไม่รับแผนที่ 1 : 50,000

15 มิ.ย. – กัมพูชาแถลงปฏิเสธแผนที่ 1 ต่อ 50,000 อย่างเด็ดขาด อ้างไทยเขียนขึ้นฝ่ายเดียว ยึดมั่นแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ตาม MOU43 เท่านั้น พร้อมยินดีร่วมมือกับไทยด้วยกลไกทวิภาคี ยกเว้น 4 จุดที่นำขึ้นศาลโลก เว็บไซต์ข่าว Khmer Times รายงานภายหลังเสร็จการประชุมคณะกรรมการชายแดนร่วม หรือ JBC ที่กรุงพนมเปญ ว่า ฝ่ายกัมพูชาแสดงจุดยืนปฏิเสธอย่างหนักแน่นที่จะรับรองแผนที่ที่ฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำใช้อ้างอิงอันเป็นที่มาหลักของปัญหาข้อพิพาทชายแดนที่เรื้อรังมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันและอนาคต ทั้งนี้ แผนที่ที่กัมพูชาอ้างว่าฝ่ายไทยร่างขึ้นโดยฝ่ายเดียวและนำไปสู่ปัญหาข้อพิพาทเขตแดนไม่สิ้นสุดนั้นคือแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ซึ่งมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าแผนที่มาตราส่วน 1 ต่อ 200,000 ที่กัมพูชายึดถือ Khmer Times อ้างตามเอกสารข่าวเผยแพร่จากสำนักเลขาธิการกิจการชายแดนเกี่ยวกับการประชุม JBC ที่จัดขึ้นระหว่างฝ่ายกัมพูชาและฝ่ายไทย ฝ่ายกัมพูชานำโดยนายฬำ เจีย รัฐมนตรีประจำสำนักกิจการชายแดนและประธาน JBC ฝ่ายกัมพูชา และนายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ที่ปรึกษากระทรวงการต่างประเทศของไทย และประธาน JBC ฝ่ายไทย […]

“ลูกหมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้หนี้พร้อมดอกเบี้ย

สำนักงานกฎหมายทนายคลายทุกข์ 13 มิ.ย. – “ลูกหมี รัศมี” ชนะคดีฟ้องอดีตดารา ศาลสั่งลูกหนี้ชดใช้ 2 ล้านบาท รวมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ด้าน “ทนายเดชา” เผยหาก 30 วัน ไม่ใช้หนี้ เตรียมยื่นเรื่องยึดทรัพย์-ฟ้องล้มละลาย นางสาวรัศมี ทองสิริไพรศรี หรือลูกหมี นางแบบชื่อดัง พร้อมนายเดชา กิตติวิทยานันท์ หรือทนายเดชา และนางสาวอำนวยพร มณีวรรณ์ หรือทนายกุ้ง ตั้งโต๊ะแถลงข่าวกรณีลูกหนี้ ซึ่งเป็นอดีตดารานักแสดงชื่อดัง ได้ทำการกู้ยืมเงิน พร้อมจ่ายเช็คเด้ง จำนวน 2 ล้านบาท โดยไม่ยอมชำระคืนตามที่ได้ตกลงทำสัญญากันไว้ ทนายเดชา กล่าวว่า คดีนี้คุณลูกหมีฟ้องลูกหนี้ในความผิดเกี่ยวกับเรื่องสัญญากู้ยืมเงิน โดยเงินต้นจำนวน 2 ล้านบาท ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ศาลพิพากษาว่า สัญญากู้เงินต้น 2 ล้านบาท เป็นสัญญาที่ชอบด้วยกฎหมาย ดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ไม่เกินกว่าที่กฎหมายกำหนด […]

อิสราเอลและอิหร่านโจมตีตอบโต้กันในระลอกใหม่

เทลอาวีฟ 15 มิ.ย. – อิสราเอลและอิหร่านได้เปิดฉากโจมตีตอบโต้กันอีกครั้งในช่วงเช้าวันอาทิตย์ที่ 15 มิถุนายน ซึ่งจุดชนวนความกังวลว่าจะเกิดความขัดแย้งในวงกว้างขึ้น หลังจากที่อิสราเอลได้ขยายการโจมตีอิหร่าน ด้วยการโจมตีแหล่งก๊าซธรรมชาติที่ใหญ่ที่สุดในโลก อิหร่านได้ยกเลิกการเจรจานิวเคลียร์ที่สหรัฐเคยกล่าวก่อนหน้านี้ว่าเป็นหนทางเดียวที่จะหยุดยั้งการทิ้งระเบิดของอิสราเอลได้ ขณะที่นายกรัฐมนตรีเบนจามิน เนทันยาฮู ของอิสราเอลกล่าวว่าการโจมตีที่เกิดขึ้นจนถึงขณะนี้ยังถือว่าไม่มีอะไรที่จะเทียบเคียงกับสิ่งที่อิหร่านจะได้เห็นในอีกไม่กี่วันข้างหน้า การโจมตีของอิหร่านล่าสุดเริ่มต้นขึ้นไม่นานหลังเวลา 23:00 น. ของวันเสาร์ตามเวลาท้องถิ่น หรือ ตรงกัล 03.00 น.ตามเวลาในประเทศไทย เมื่อเสียงสัญญาณเตือนภัยทางอากาศดังขึ้นในนครเยรูซาเลมและเมืองไฮฟา ทำให้ผู้คนราวหนึ่งล้านคนต้องรีบเข้าไปในสถานที่หลบภัย หน่วยบริการพยาบาลกล่าวว่ามีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 7 คนตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา ซึ่งมีเด็กวัย 10 ขวบและหญิงสาววัยราว ๆ  20 ปีรวมอยู่ด้วย และมีผู้บาดเจ็บกว่า 140 คนจากการโจมตีที่เกิดขึ้นหลายครั้ง สื่ออิสราเอลรายงานว่ามีผู้สูญหายอย่างน้อย 35 คน หลังจากที่ขีปนาวุธพุ่งเป้าไปที่เมืองบัตยัม ซึ่งเป็นเมืองทางใต้ของกรุงเทลอาวีฟ โฆษกหน่วยบริการฉุกเฉินกล่าวว่าขีปนาวุธลูกหนึ่งพุ่งชนอาคาร 8 ชั้นในเมืองนั้น และในขณะที่ผู้คนจำนวนมากได้รับการช่วยเหลือ แต่ก็มีผู้เสียชีวิตด้วยเช่นกัน ขณะนี้่ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่ามีอาคารกี่หลังที่ถูกโจมตีเมื่อคืนนี้ จนถึงขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตในอิสราเอลล่าสุดอยู่ที่อย่างน้อย 9 ราย และบาดเจ็บกว่า 300 ราย นับตั้งแต่อิหร่านเปิดฉากโจมตีตอบโต้อิสราเอลเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยภาคเหนือ-ภาคใต้ ฝนตกหนักบางแห่ง

กรุงเทพฯ 17 มิ.ย. – กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ กรุงเทพฯ-ปริมณฑล ฝนฟ้าคะนอง 30% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้ยังคงมีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ทั้งนี้ เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ประกอบกับร่องมรสุมกำลังอ่อนพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทย เดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-36 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

พยาบาลเกษียณร้องไซเบอร์ ถูกโรแมนซ์สแกม สูญ 12 ล้าน

16 มิ.ย. – พยาบาลเกษียณ วัย 65 ปี ร้องตำรวจไซเบอร์ ถูกหลอกสร้างความสัมพันธ์เชิงชู้สาว หรือโรแมนซ์สแกม ชวนลงทุนคริปโต สูญเงิน 12 ล้าน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานมูลนิธิรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม พาพยาบาลเกษียณอายุราชการวัย 65 ปี ผู้เสียหาย ถูกมิจฉาชีพหลอกหลอกให้รัก (Romance Scam) และชักชวนให้ลงทุนในระบบคริปโตผ่านแพลตฟอร์มเทรดปลอม สูญเงินเกือบ 12 ล้านบาท เข้าร้องทุกข์กับตำรวจไซเบอร์ โดยมี พล.ต.ต.ศิริวัฒน์ ดีพอ ผู้บังคับการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี 1 รับเรื่อง นางสาวอ้อ อายุ 65 ปี อดีตพยาบาลผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2567 มิจฉาชีพหรือ นางสาวพร (นามสมมติ) ทักข้อความมาหาตนผ่านแอพ TikTok และชวนพูดคุยในลักษณะเชิงชู้สาว และต้องการหาคู่ชีวิต และชวนคุยเรื่องส่วนตัวจนเตนเชื่อใจ จนผ่านไป 2 […]

“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000

ก.ต่างประเทศ 16 มิ.ย.-“ประศาสน์” ยันไม่เคยรับรองแผนที่ 1 : 200000 แฉ “กัมพูชา” ถูกสั่งห้ามคุยปม 4 พื้นที่พิพาทในวง JBC แต่เสียดาย ไม่มีในบันทึกการประชุม เพราะหารือในวงเล็ก ยัน JBC รอบนี้ราบรื่นที่สุด บอกแต่ก่อนทะเลาะกันเยอะกว่านี้ นายประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย คณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา หรือ JBC แถลงชี้แจงผลการประชุม JBC ว่า ตนเข้าร่วมครั้งนี้เป็นครั้งที่ 5 แล้ว จากระดับเจ้าหน้าที่ และครั้งนี้ไปประชุมในฐานะประธาน ถือว่าราบรื่นที่สุดเท่าที่เคยประชุมมา แต่ก่อนทะเลาะกันแรงกว่านี้เยอะ และครั้งนี้ ประสบความสำเร็จทางด้านเทคนิค พร้อมอธิบายภารกิจของ คณะกรรมการ JBC ว่า ประกอบไปด้วย 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นการตรวจหาหลักเขตที่ปักปันตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 6 ปี 2462-2463 ซึ่งมีการปักหลักเขตไปแล้ว 73 หลัก ตอนนี้เห็นชอบไปแล้ว 45 หลัก อีก […]

นายกฯ เผย กต.เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ลั่นไทยเคารพกรอบทวิภาคี

กรุงเทพฯ 16 มิ.ย. – นายกฯ เผย กต. เรียกประชุมทูตต่างประเทศ ทำความเข้าใจกรณีไทย-กัมพูชา ย้ำไทยให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ลั่นการเคลื่อนไหวนอกเหนือจากการเจรจาถือเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ ประกาศกร้าว จะไม่ยอมให้ใครมากลั่นแกล้ง ใส่ร้าย ข่มขู่ เราก็เป็นประเทศที่มีศักดิ์ศรีเช่นกัน น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า วันนี้ ก.ต่างประเทศ เรียกประชุมทูตต่างประเทศประจำประเทศไทยให้ได้รับทราบ ถ้าไม่เคารพกติกา ทั่วโลกก็จะไม่ยอมรับ ยอมรับไทยมีการสื่อสารที่เป็นสาธารณะน้อยมาก เพราะให้เกียรติการพูดคุยทวิภาคี ทั้งไทยและกัมพูชาจะต้องยึดตามกรอบการเจรจาทวิภาคี การเคลื่อนไหวที่นอกเหนือจากการเจรจาถือว่าเป็นท่าทีที่จะส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ นอกจากนี้ระหว่างความสัมพันธ์ของรัฐบาลกับกองทัพ มีการพูดคุยอย่างต่อเนื่อง ว่าท่าทีของไทยจะเป็นอย่างไร อะไรทำได้ อะไรทำไม่ได้ เพื่อรักษาอธิปไตยของไทย และยืนยันว่าไม่มีปัญหากันแน่นอน.-สำนักข่าวไทย