นครพนม 6 ส.ค. – สะเทือนใจ รถยนต์ชาวลาวขับฝ่าไฟแดง ชนเก๋งสาวผู้ช่วยพยาบาล ท้องแก่ 8 เดือน ตายทั้งกลม ขณะคนในครอบครัวบาดเจ็บอีก 6 คน ญาติติดใจการทำงานของตำรวจ เพราะไม่ฟันธงใครผิดใครถูก แม้จะมีหลักฐานกล้องวงจรปิดชัดเจน
กลายเป็นคลิปสะเทือนใจว่อนโซเชียล หลังมีการแชร์ภาพจากกล้องวงจรปิด อุบัติเหตุสุดสะเทือนใจ กรณีรถยนต์ชาวลาว เป็นรถยนต์เก๋ง SUV ทะเบียนประเทศลาวป้ายเหลือง ขับมุ่งหน้ามาบนถนน นิตโย นครพนม–สกลนคร ทางหลวงหมายเลข 22 ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครพนม เมื่อมาถึงสี่แยกดอนโมง ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม ได้ขับฝ่าไฟแดงด้วยความเร็วสูง พุ่งชนรถเก๋งโตโยต้าวีออส สีขาว ที่ขับมาจากตัวเมืองนครพนม และ กำลังจะเลี้ยวขวาที่แยกดังกล่าว เนื่องจากเป็นช่วงสัญญาณไฟเขียว ทำให้เกิดอุบัติเหตุ เมื่อเวลา 18.00 น. วันที่ 3 สิงหาคม ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ภายในรถเก๋งสีขาว มีคนนั่งมาด้วยกันรวม 7 คน อาการหนักสุด คือ คนนั่งเบาะซ้าย คือ นางสาววิชุดา หรือน้องบี อายุ 23 ปี ผู้ช่วยพยาบาลประจำห้อง ICU โรงพยาบาลนครพนม ที่กำลังตั้งท้องแก่ 8 เดือนใกล้คลอด บาดเจ็บสาหัส และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนรถของชาวลาว มีคนเจ็บ 3 คน รวมผู้บาดเจ็บ 10 ราย ส่งไปรักษาที่โรงพยาบาล นครพนม
ขณะที่นายสมิง อายุ 56 ปี พ่อน้องบี ผู้เสียชีวิต ได้ติดต่อขอรับศพลูกสาว กับหลานสาว ที่โรงพยาบาลนครพนม โดยแพทย์ได้ผ่าคลอดเด็กออกมาทำศพ เป็นเด็กเพศหญิง ตั้งครรภ์ อายุ 8 เดือน ออกมาในสภาพร่างกายสมบูรณ์ โดยนำศพทั้งสองแม่ลูกบรรจุในโลงตั้งเคียงข้างกันในบ้านพัก โดยพ่อผู้เสียชีวิต ยังร่ำไห้ และขออุ้มกอดหอมแก้ม ศพหลานสาว 8 เดือน เป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะมีการฌาปนกิจตามประเพณี ส่วนลูกคนแรกของน้องบีวัย 5 ขวบ ยังบาดเจ็บสาหัส รักษาตัวที่โรงพยาบาล
ทั้งนี้ พ่อของน้องบี เปิดเผยว่า ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเหตุการณ์เศร้ากับครอบครัว ตนทำงานเป็นเจ้าหน้าประจำห้องเอกซเรย์ โรงพยาบาลนครพนม วันเกิดเหตุพอรู้ข่าว ขณะทำงานจึงรีบไปดูสภาพลูกสาว รวมถึงภรรยา และหลาน ที่นั่งรถไปด้วยกัน แทบช็อกภาวนาอย่าให้เลวร้ายไปกว่านี้ แต่สุดท้ายปาฏิหาริย์ไม่มี ลูกสาวเสียชีวิตพร้อมหลานสาวที่อยู่ในท้อง ยอมรับยังติดใจการทำงานของตำรวจ เพราะไม่ชี้ชัดว่าใครผิดใครถูกแม้จะมีภาพวงจรปิดชัดเจน และกังวลใจ เพราะคู่กรณีเป็นชาวลาว เป็นรถยนต์ลาว เกรงว่าจะไม่ได้รับความเป็นธรรม และไม่ได้รับการชดเชยเยียวยาตามกฎหมาย หลังเกิดเหตุยังไม่มีญาติคู่กรณีมาถามไถ่เลย อีกทั้งมีคนรู้จักได้ยินคู่กรณีพูดว่าจะจ่ายค่าเยียวยาแค่หลักหมื่น จึงต้องการให้ตำรวจชี้ชัดว่า ใครผิดใครถูก เพราะมีหลักฐานชัดเจน จะต้องฟันธงเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับครอบครัวตนด้วย
ด้าน ผกก.สภ. เมืองนครพนม เปิดเผยว่า การสอบสวนตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบมีหลักฐานชัดเจนจากกล้องวงจรปิด รถยนต์ชาวลาวฝ่าไฟแดง โดยตามขั้นตอนของกฎหมาย ถือว่าเป็นฝ่ายผิดคันเดียว ส่วนทางญาติเข้าใจว่าตำรวจให้ไปหาหลักฐานเพิ่ม ไม่ได้ทิ้งภาระให้ผู้เสียหาย เพียงแต่หากพบหลักฐานเพิ่มเติมให้นำส่งพนักงานสอบสวน เบื้องต้น ตำรวจจะเชิญตัวคนขับรถชาวลาว มารับทราบข้อกล่าวหาขับรถประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ส่วนการชดเชยเยียวยา จะมีการนัดไกล่เกลี่ยคู่กรณีทั้งสองฝ่าย หากไม่สามารถตกลงกันได้จะต้องเข้าสู่กระบวนการทางกฎหมาย ยืนยันทางตำรวจให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่ายและดำเนินคดีตามพยานหลักฐาน ขอให้มั่นใจในการทำงานของตำรวจ .-สำนักข่าวไทย