รวบแก๊งถังผ้าป่า ตระเวนเรี่ยไรเงินไม่มีใบอนุญาต

นนทบุรี 2 ส.ค. – ตำรวจนนทบุรีรวบแก๊งตระเวนถือถังผ้าป่าเรี่ยไรเงินชาวบ้านไม่มีใบอนุญาต พบเสพยา-มีหมายจับ

ที่ สภ.บางศรีเมือง จ.นนทบุรี ตำรวจเชิญตัวชาย 3 คน พร้อมของกลางถังผ้าป่าสามัคคีสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถวัดที่ จ.ลพบุรี, ต้นผ้าป่าเงินสดประมาณ 500 บาท จำนวน 2 ถัง, บาตรพระ 1 ใบ และรถกระบะ ติดป้ายผ้าป่าสามัคคีสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถวัดร่องเพกา จ.ลพบุรี มาสอบปากคำ

สืบเนื่องจากตำรวจออกตรวจพื้นที่ตามปกติไปถึงบริเวณชุมชนท่าน้ำบางศรีเมือง หมู่ 3 ต.บางศรีเมือง อ.เมืองนนทบุรี พบกับชายทั้ง 3 คน คือ นายสมชาย อายุ 46 ปี นายสมศักดิ์ อายุ 41 ปี และนายวิโรจ อายุ 54 ปี ขับรถตระเวนถือถังผ้าป่าเรี่ยไรเงินชาวบ้าน จึงลงไปตรวจสอบพบว่าไม่มีใบอนุญาตเรี่ยไรของกรมการปกครองในพื้นที่ จึงถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน ก่อนเชิญตัวมาที่ สภ.บางศรีเมือง พร้อมของกลางทั้งหมด

ที่ห้องสืบสวน นายสมชายซึ่งเป็นคนขับรถ นำเอกสารหนังสือรับรองของวัดร่องเพกา จ.ลพบุรี ที่มีตราประทับว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของวัด ให้กับเจ้าหน้าที่ตรวจสอบ แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ จึงติดต่อไปยังเบอร์โทรศัพท์ที่อ้างว่าเป็นไวยาวัจรกรของวัดให้มาเรี่ยไรเงินผ้าป่านำรายได้เข้าวัด หลังจากโทรไปพบว่าผู้รับสายคือ นายดิน บอกว่าเป็นไวยาวัจกรของวัดจริง นายสมชายเป็นเจ้าหน้าที่วัดจริง และมีใบอนุญาตจากวัด แต่ไม่รู้ว่าต้องไปยื่นที่ปกครองพื้นที่จึงจะสามารถเรี่ยไรเงินได้ ทางตำรวจจึงเรียกนายดินมาสอบปากคำ แต่แจ้งว่าไม่สะดวกเดินทางมา ถ้ามีหมายเรียกถึงจะเข้าไป

ทั้งนี้ นายสมชาย คนขับรถ เปิดเผยว่า รู้จักกับนายดิน ซึ่งเป็นไวยาวัจกรของวัดร่องเพกา มานานแล้ว มาขอให้ช่วยนำถังผ้าป่าสามัคคีสมทบทุนบูรณปฏิสังขรณ์อุโบสถวัดที่ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหลัง ไปกระจายบุญที่ไหนก็ได้ เพื่อนำรายได้ไปบูรณะโบสถ์ ส่วนค่าจ้างให้ตนหักค่าน้ำมันกับค่าข้าวในแต่ละมื้อ ซึ่งมีทีมงาน 3 คน สัปดาห์หนึ่งจะออกมาเรี่ยไรเฉลี่ย 2-3 วัน ช่วงประมาณ 08.00-13.00 น. หากครบ 3,000 บาท จะโอนให้นายดิน ซึ่งจะเป็นคนจัดการโอนเข้าวัดเอง เรื่องนี้เจ้าอาวาสวัดทราบ

หลังจากนั้นตำรวจนำชายทั้ง 3 คน ไปจ่ายค่าปรับในความผิด พ.ร.บ.ควบคุมเรี่ยไรทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยเสียค่าปรับคนละ 200 บาท ขณะเดียวกันได้ตรวจสอบประวัติทั้งหมดพบว่า นายสมศักดิ์ มีหมายจับจาก สภ.เมืองราชบุรี ข้อหาขับรถโดยประมาทหรือน่าหวาดเสียว อาจเกิดอันตรายแก่บุคคลหรือทรัพย์สิน ฯลฯ จึงประสานไป สภ.เมืองราชบุรี ให้นำตัวไปดำเนินคดีตามกฎหมาย และผลตรวจสารเสพติดในร่างกาย นายวิโรจ มีสารเสพติดในร่างกาย จึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติด ก่อนส่งตัวให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.-สำนักข่าวไทย