ลูกบ้านหนุ่มป่วยจิตเวช ราดน้ำมัน-จุดไฟเผา ผญบ.อาการสาหัส

ลพบุรี 30 ก.ค. – ลูกบ้านหนุ่มป่วยจิตเวช ราดน้ำมันเผาผู้ใหญ่บ้าน อาการสาหัส คาดปมบาดหมางเคยถูกแจ้งจับคดียาเสพติด


ภาพขณะตำรวจกว่า 20 นาย เข้าปิดล้อมบ้านหลังหนึ่งใน ต.งิ้วราย อ.เมืองลพบุรี หลังนายสมชาย (นามสมมติ) อายุประมาณ 40 ปี ก่อเหตุใช้น้ำมันราดผู้อื่นจนเกิดไฟลุก มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย ก่อนขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีซ่อนตัวในบ้าน ตำรวจพยายามเกลี้ยกล่อมให้ผู้ต้องหาออกมามอบตัว แต่เป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากพ่อแม่ผู้ก่อเหตุไม่ยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าจับกุม จนเกิดโต้เถียงกันนานหลายชั่วโมง

แม่ผู้ก่อเหตุบอกเพียงว่าลูกชายตนเองป่วยจิตเวช เคยรักษาในสถานพยาบาล มีเอกสารยืนยันจากแพทย์ แต่คาดว่าน่าจะขาดการรักษาต่อเนื่องจนเกิดอาการ ตนจะพาลูกเข้ามอบตัวกับตำรวจเอง เจ้าหน้าที่เจรจาว่ามันเป็นเหตุอุกฉกรรจ์ ข้อหาพยายามฆ่าโดยการวางเพลิง เจตนาทำให้ตาย แต่พ่อแม่ยังยืนยันไม่ให้เข้าจับกุมลูก เจ้าหน้าที่ได้แต่ปิดล้อมบ้านไว้ เพื่อไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนี


การณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 19.30 น. เมื่อคืนที่ผ่านมา (29 ก.ค.) ตำรวจ สภ.บ้านกุ่ม รับแจ้งมีคนถูกราดน้ำมันจุดไฟเผา บริเวณฝั่งตรงข้ามที่ทำการผู้ใหญ่บ้านหมู่ 10 ต.งิ้วราย จึงเข้าตรวจสอบ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เกิดเหตุพบร่างนายณรงค์ศักดิ์ อายุ 42 ปี ผู้ใหญ่บ้าน และนายสาธิต อายุ 60 ปี บาดเจ็บสาหัสจากไฟไหม้ เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำตัวส่งโรงพยาบาล ขณะที่ชาวบ้านช่วยกันดับไฟไม่ให้ลุกลาม

สอบถามนายบุญมี อายุ 60 ปี เจ้าของบ้านที่เกิดเหตุ ซึ่งได้รับบาดเจ็บเป็นแผลพุพองที่ต้นขาซ้าย เล่าว่า ช่วงเกิดเหตุเวลาประมาณ 1 ทุ่มเศษ ขณะที่ตนเองและเพื่อนคือ นายสาธิต นั่งคุยดื่มกินกันอยู่กับผู้ใหญ่บ้านณรงค์ศักดิ์ จู่ๆ นายสมชาย ผู้ก่อเหตุ ขี่รถจักรยานยนต์มาพร้อมด้วยถังเปล่า เดินเข้าไปกดน้ำมันหยอดเหรียญในที่ทำการผู้ใหญ่บ้าน ประมาณ 15 ลิตร ก่อนเดินออกมา ทันใดนั้นนายสมชายสาดน้ำมันเข้ามาในวงสุรา โดนผู้ใหญ่บ้านคนแรก จังหวะนั้นนายสาธิตหยิบไฟแช็กออกมาจุดบุหรี่พอดี ไฟจึงลุกพรึบขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง เผาร่างผู้ใหญ่บ้านณรงค์ศักดิ์ และนายสาธิต ส่วนตนเองกำลังจะเดินเข้าห้องน้ำพอดี เลยโดนน้ำมันไม่มาก ก่อนชาวบ้านจะช่วยกันดับไฟและแจ้งเจ้าหน้าที่ เบื้องต้นได้รับแจ้งจากญาติว่าผู้ใหญ่บ้านณรงค์ศักดิ์ และนายสาธิต อาการสาหัส

นายบุญมี เล่าต่อว่า ผู้ใหญ่บ้านและผู้ก่อเหตุเคยเป็นเพื่อนกัน แต่ระยะหลังผู้ก่อเหตุคิดว่าผู้ใหญ่บ้านแจ้งจับตนในข้อหายาเสพติด จนมีเรื่องบาดหมางกันมาตลอด


ล่าสุดเมื่อเวลา 07.00 น. วันนี้ (30 ก.ค.) หลังผ่านมากว่า 9 ชั่วโมง ผู้ก่อเหตุออกมามอบตัวแล้ว เจ้าหน้าที่จึงควบคุมตัวมาที่ สภ.บ้านกุ่ม ผู้ต้องหายังมีอาการเอะอะโวยวายหาว่าตำรวจกลั่นเกล้ง ก่อนเจ้าหน้าที่จะตรวจปัสาวะพบเป็นสีม่วง เจ้าตัวยังกล่าวหาว่าการตรวจไม่มีมาตรฐานอีก

ขณะที่ ร.ต.อ.ชีวนนท์ รัตนะ ร้อยเวรเจ้าขคดี สอบปากคำนายบุญมี หนึ่งใผู้บาดเจ็บ เพื่อนำไปยื่นขออนุมัติหมายจับของศาลจังหวัดลพบุรี เพื่อจับกุมตัวนายก้องเกียรติ อายุ 40 ปี เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา ส่วนผู้บาดเจ็บคือ ผู้ใหญ่บ้านณรงค์ศักดิ์ และนายสาธิต ถูกไฟไหม้ตามร่างกายถึง 90 เปอร์เซ็นต์ อาการยังสาหัสมาก ยังอยู่ในห้องวิกฤติ โรงพยาบาลพระนารายณ์มหาราช ส่วนนายก้องเกียติ จากประวัติเคยต้องคดีฆ่าคนตาย คดียาเสพติดหลายคดี ขณะนี้รอหมายศาลเพื่อจับกุมและแจ้งข้อหา

แม่ของนายก้องเกียร ด่าทอผู้ที่มาเป็นพยานให้ผู้บาดเจ็บลั่นโรงพัก แม่อ้างว่าลูกป่วยจิตเวชมากว่า 10 ปี ที่ผ่านมาลูกชายก่อเหตุฆ่าคนตายติดคุก 5 ปี ขณะที่ติดคุกถูกทำร้ายร่างกายจนประสาทเสีย หลังกลับอยู่บ้านก็มีอาการมาตลอด ส่วนผู้ใหญ่บ้านณรงค์ศักดิ์ ก็เป็นคนสนิทกัน ไปไหนด้วยกันตามปกติ แต่บาดหมางในเรื่องระแวงว่าเขาจ้องจับผิด แจ้งจับ จนลูกชายก่อเหตุดังกล่าวขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สิ้นพระเอกดัง “ไพโรจน์ สังวริบุตร” จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี

3 มิ.ย.- วงการบันเทิงเศร้า… สิ้นพระเอกดัง “เอ๋” ไพโรจน์ สังวริบุตร นักแสดง-ผู้กำกับในตำนาน จากไปอย่างสงบในวัย 72 ปี แฟนคลับร่วมแสดงความอาลัย ข่าวเศร้าช็อกวงการบันเทิง เอ๋-ไพโรจน์ สังวริบุตร เสียชีวิตอย่างสงบ เมื่อเวลา 03.00 น. (3 มิ.ย.68) ที่จังหวัดนครราชสีมา สิริอายุได้ 72 ปี กำหนดสวดพระอภิธรรม ณ วัดมกุฏกษัตริยารามราชวรวิหาร สำหรับพิธีรดน้ำศพ จะมีขึ้นในวันที่ 4 มิถุนายน 2568 โดยข้อมูลจากเพจดาราภาพยนตร์ เผยการจากไปของพระเอกรุ่นใหญ่ สร้างความโศกเศร้าให้กับวงการบันเทิงไทยอย่างมาก หากเอ่ยถึงชื่อ “ไพโรจน์ สังวริบุตร” คนไทยหลายรุ่นคงต้องนึกถึงชายหนุ่มร่างโปร่ง ใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม และแววตาทะเล้นที่ปรากฏอยู่บนจอเงินในบท “ตั้ม” จากภาพยนตร์ วัยอลวน อันโด่งดังในยุค 2510–2520 เขาคือพระเอกผู้ก้าวข้ามกาลเวลา จากภาพลักษณ์ของวัยรุ่นสุดแนวในวันนั้น สู่ผู้กำกับภาพยนตร์มากฝีมือในวันนี้ และยังคงยืนหยัดเป็นบุคคลสำคัญในประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทย “ไพโรจน์ สังวริบุตร” เกิดเมื่อวันที่ 18 […]

Thai drone illegally enters Cambodian airspace, intercepted by Cambodian troops

กัมพูชาอ้างสกัดโดรนที่ส่งจากฝั่งไทย

พนมเปญ 3 มิ.ย.- สื่อกัมพูชารายงานว่า ทหารกัมพูชาสกัดอากาศยานไร้คนขับหรือโดรนที่อ้างว่าส่งจากฝั่งไทยเข้าไปสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา เว็บไซต์หนังสือพิมพ์แขมร์ไทมส์รายงานวันนี้ว่า กองทัพไทยยังคงละเมิดดินแดนของกัมพูชา โดยล่าสุดได้ส่งโดรนไปบินเหนือพื้นที่แนวหน้าโดยไม่ได้รับอนุญาต เพื่อสอดแนมที่ตั้งทางทหารของกัมพูชา และถูกกำลังพลกัมพูชาสกัดไว้ได้ แขมร์ไทมส์อ้างรายงานจากชายแดนว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มิถุนายน ทหารกัมพูชาที่ประจำการอยู่บริเวณแนวหน้าในจังหวัดพระวิหารสามารถสกัดโดรนลำหนึ่งที่เข้ามาในน่านฟ้ากัมพูชาเพื่อวัตถุประสงค์ในการสอดแนม ผลการประเมินเบื้องต้นชี้ว่า โดรนลำนี้ถูกส่งโดยกองทัพไทย เพื่อเก็บข้อมูลข่าวกรองเรื่องการประจำการและการเคลื่อนย้ายกำลังพลของกองทัพกัมพูชา.-814.-สำนักข่าวไทย

ล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ถอยหนีชนดะ

ขอนแก่น 3 มิ.ย. – ระทึก ผู้ต้องหาถอยรถหนี ชนจยย.สายตำรวจ ขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้ากลางเมืองขอนแก่น ก่อนจนมุมรถไถลข้ามเลนพลิกตะแคง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพรถยนต์สีขาวจอดคุยกับชายคนหนึ่งที่ยืนริมถนนกสิกรทุ่งสร้าง หน้าตลาดจอมพล เขตเทศบาลนครขอนแก่น ทันใดนั้น รถคันดังกล่าวก็ถอยหลังอย่างรวดเร็ว พุ่งชนรถจักรยานยนต์ที่ขี่อยู่ด้านหลังล้ม 2 คัน และพยายามเร่งเครื่องหลบหนีจนไปชนกับรถคันอื่นอย่างแรง แล้วไถลข้ามเลนพลิกตะแคงอยู่ข้างทาง เมื่อเวลา 22.45 น. วานนี้ (2 มิ.ย.) คนขับปีนออกจากหน้าต่าง มีท่าทีขัดขืน แต่สุดท้ายก็ยอมออกมาจากรถ หลังจากนั้นตำรวจพาเดินข้ามถนนไปฝั่งตรงข้าม และมีชายอีกคนออกมาจากหน้าเป็นรายที่สอง ตำรวจจึงควบคุมตัวที่ข้างทาง ต่อมา รถกู้ชีพมาถึงที่เกิดเหตุและทำการปฐมพยาบาลทั้งชายสองคนและสายลับที่ได้รับบาดเจ็บ ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเหตุขณะล่อซื้อบุหรี่ไฟฟ้า ภายในรถมีบุหรี่ไฟฟ้าวางอยู่ ก่อนจะคุมตัวขึ้นรถกระบะไป สภ.เมืองขอนแก่น พ.ต.อ.พรศักดิ์ งานดี ผู้กำกับการตำรวจสืบสวนจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า นายอนุพงษ์ อายุ 35 ปี เป็นคนขายบุหรี่ไฟฟ้า ส่วนนายณัฐพล อายุ 37 ปี เป็นคนขับรถยนต์คันที่เกิดเหตุ มีพฤติกรรมลักลอบขายบุหรี่ไฟฟ้า ผ่านเฟซบุ๊กให้กับลูกค้าทั่วไปที่สั่งซื้อ จึงวางแผนล่อซื้อ […]

ทรงพระเจริญ

ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี ร่วมแปรอักษร แสดงพลังความจงรักภักดี

สงขลา 2 มิ.ย. – จังหวัดสงขลา จัดกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” ประชาชนกว่า 5,000 คน ร่วมแปรอักษร “ทรงพระเจริญ คนสงขลารักพระราชินีฯ” แสดงพลังความจงรักภักดีอย่างยิ่งใหญ่ เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน 2568 วันนี้ 2 มิถุนายน 2568 เวลา 16.30 น. ที่สนามกีฬาติณสูลานนท์ อำเภอเมือง จังหวัดสงขลา นายโชตินรินทร์ เกิดสม ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา พร้อมด้วยนางปวีณ์ริศา เกิดสม ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสงขลา นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ นักเรียน นักศึกษา และประชาชนชาวสงขลากว่า 5,000 คน ร่วมกิจกรรม “ชาวสงขลารวมใจภักดิ์ รักสมเด็จพระราชินี” เพื่อแสดงความจงรักภักดีและเทิดพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินี เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา 3 มิถุนายน […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ย้ำรัฐบาลยึดหลักอธิปไตย-ประโยชน์สูงสุดของประเทศ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – นายกฯ ย้ำรัฐบาลไม่นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ วันนี้ (4 มิ.ย.68) นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์เรื่องสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รัฐบาลยืนยันหลักอธิปไตยและประโยชน์สูงสุดของประเทศ “ดิฉันขอย้ำอีกครั้งว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และได้บูรณาการการทำงานอย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงกลาโหม และหน่วยงานความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์อย่างรอบด้าน” นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า เรารวบรวมข้อมูลจากทั้งเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ ภาพแผนที่จากเทคโนโลยีและการวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์ ตลอดจนพิจารณาอย่างเคร่งครัดภายใต้หลักกฎหมายระหว่างประเทศ โดยมีเป้าหมายคือการปกป้องอธิปไตยของชาติและผลประโยชน์ของประชาชนเป็นสำคัญ หากมีความคืบหน้า รัฐบาลจะมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศ เป็นผู้ชี้แจงรายละเอียดเป็นระยะ เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและรอบด้านต่อไป.-314-สำนักข่าวไทย

ม็อบรถบัส 2 ชั้น ขู่บุกกรุง ค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า

ตรัง 4 มิ.ย. – ม็อบรถบัส 2 ชั้น ชุมนุมคัดค้านคำสั่งห้ามใช้เส้นทางเขาพับผ้า อ้างไม่ชอบ กม.-เส้นทางไม่เข้าหลักเกณฑ์กำหนด ขู่เคลื่อนขบวนพันคันบุกกรุง หากไม่ได้รับแก้ไข บริเวณอันดามันเกตเวย์ บนเส้นทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 4 เขาพับผ้า เครือข่ายผู้ประกอบการรถบัส 2 ชั้น ในนามสมาคมรถโดยสารสองชั้นไทย กว่า 100 คัน พร้อมผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยว ราว 200 คน ชุมนุมคัดค้านคำสั่ง กรมการขนส่งทางบกที่ห้ามรถบัส 2 ชั้นใช้เส้นทาง 7 แห่งทั่วประเทศ การชุมนุมครั้งนี้ เป็นการรวมตัวของผู้ประกอบการจากทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก เพื่อประท้วงคำสั่งที่มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 11 เม.ย.68 สำหรับรถทัวร์ และวันที่ 1 มิ.ย.68 สำหรับรถประจำทาง โดยชูป้ายข้อความต่างๆ รวมถึงการเรียกร้องให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมและอธิบดีกรมการขนส่งทางบกลาออกจากตำแหน่ง นายสุริยะ แกล้วทนงค์ นายกสมาคมผู้ประกอบการรถโดยสารสองชั้นไทย เปิดเผยว่า การสำรวจเส้นทางเขาพับผ้า พบว่าไม่เข้าหลักเกณฑ์ที่ต้องประกาศห้าม เนื่องจากมีความลาดชัน 8% […]

หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้า กลับลำ ยันไม่มีคนในชี้เป้า

กทม. 4 มิ.ย. – คุมตัว “แบงค์” หัวโจกปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางกรมศุลฯ ทำแผน เจ้าตัวกลับลำอ้างลงมือครั้งแรก ไม่มีใครชี้เป้า ปัดเจตนาชน รปภ.ดับ กลางดึกที่ผ่านมาตำรวจ สน.ท่าเรือ พร้อมชุดปฏิบัติการพิเศษ กว่า 20 นาย ควบคุม 5 ผู้ต้องหาแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้า ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ บริเวณ ตู้คอนเทนเนอร์ ในโกดังสเตเตียม ถนนท่าเรือ 1 เขตคลองเตย จากนั้นในช่วงเช้าที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ได้นำตัวผู้ต้องหาทั้ง 5 คนไปฝากขังผัดแรกที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ ส่วนนายแบงค์ หัวโจก พนักงานสอบสวนได้ควบคุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพอย่างเงียบๆ เพราะเกรงว่านายแบงค์จะถูกญาติ รภป. ผู้เสียชีวิต รุมประชาทัณฑ์ ภายหลังจากทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้นแล้ว พนักงานสอบสวนได้คุมตัวนายแบงค์กลับมา คุมขังที่ สน.ท่าเรือ เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ผู้สื่อข่าวได้พยายามซักถามว่านายแบงค์ก่อเหตุมาแล้วกี่ครั้ง นายแบงค์ อ้างว่าก่อเหตุขโมยบุหรี่ไฟฟ้ามาเพียงครั้งเดียว ส่วนนำไปขายใครนั้น นายแบงค์ไม่ตอบ และยืนยันว่าการก่อเหตุนี้ ไม่มีคนในมาชี้เป้า เพราะบริเวณนั้นใครก็รู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บสินค้าที่ต้องการทำลาย พร้อมยกมือไหว้ขอโทษครอบครัว รปภ.ที่เสียชีวิต และยอมรับว่าตนเองไม่ได้ตั้งใจถอยรถชน […]

“ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ชายแดนติดตามสถานการณ์ไทย-กัมพูชา

อุบลราชธานี 4 มิ.ย. – “ภูมิธรรม” ลงพื้นที่ จ.อุบลราชธานี ติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ย้ำกองทัพไม่ขัดแย้งรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ลงพื้นที่ อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี เพื่อติดตามสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังเกิดกรณีการปะทะกันที่ช่องบก โดยระบุว่า การมาครั้งนี้ตั้งใจมาให้กำลังใจกำลังพลที่อยู่แนวหน้า ซึ่งกำลังเตรียมความพร้อมในการดูแลและป้องกันปัญหาที่จะเกิดขึ้น รวมถึงดูพื้นที่จริง ซึ่งเบื้องต้นพบว่า ข่าวทหารกัมพูชาวางกับระเบิดเป็นของเก่า เวลานี้เรากำลังใช้ทางออกที่โลกอยากเห็น และเรายังไม่ได้เสียอธิปไตยตรงไหนไป สิ่งที่เกิดขึ้นในแต่ละจุด เราอยากให้มันค่อยๆ คลายไป เรากำลังใช้มาตรการทางการทูตเชิงรุก เริ่มต้นจากเล็กไปหาใหญ่ และมาตรการต่างๆ ที่จะมีเพิ่มขึ้น เราตกลงกันแล้วว่า จะคุยด้วยกันตลอด ไม่ได้มีปัญหาอะไร มันไม่ได้ถึงขั้นนั้น เพราะยังไม่มีอะไร เราคำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชนตามแนวชายแดน เราจะใช้กระบวนการสันติวิธีให้ถึงที่สุด ถ้ามีอะไรเกินเลย ฝ่ายที่อยู่แนวหน้าจะต้องแจ้งเรา ซึ่งจะดำเนินการโดยทันทีทันใด ยืนยันกองทัพกับฝ่ายการเมืองไม่มีปัญหากัน .-สำนักข่าวไทย