บุรีรัมย์ 22 ก.ค.- ผลชันสูตรซากเสือโคร่ง ที่โผล่หากินใกล้ชุมชนนอนตายกลางป่าบุรีรัมย์ พบติดเชื้อในร่างกายหลายแห่ง และพบกระสุนปริศนา
พบเสือโคร่ง บริเวณฝายปูน ต.ลำนางรอง อ.โนนดินแดง จ.บุรีรัมย์ ติดกับป่าสงวนแห่งชาติป่าดงใหญ่ ชาวบ้านหวาดผวา เกรงว่าจะได้รับอันตราย เพราะเสือโคร่งตัวดังกล่าว ได้เข้าไปกัดวัวของชาวบ้านที่เลี้ยงเอาไว้ จนได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 18 ก.ค. ที่ผ่านมา กระทั่งล่าสุดเมื่อวันที่ 20 ก.ค.ที่ผ่านมา จนท.ที่ออกติดตามเสือตัวดังกล่าวพบเสือโคร่งนอนตายในเขตป่าดงใหญ่ สภาพผอมโซ ไม่พบร่องรอยบาดแผล
นายสมส่วน รักสัตย์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ สรุปรายงานว่าคณะเจ้าหน้าที่ได้ติดตามเสือโคร่ง บริเวณเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่ และป่าสงวนแห่งชาตป่าดงใหญ่ ด้านทิศตะวันออกของหมู่บ้านคลองหิน ตั้งแต่วันที่ 16 กรกฎาคม เสือโคร่งตัวดังกล่าวอาศัยหากินในพื้นที่กลุ่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่ รหัส PDT-116M เพศผู้ ตัวเต็มวัย มีพฤติกรรมเคลื่อนที่ช้า และวนเวียนอยู่ที่เดิม มีความผิดปกติในการดำรงชีวิต จนเมื่อเวลา 08.00 น. ของวันที่ 20 กรกฎาคม 2567 พบเสือโคร่งนอนนิ่งอยู่ ภายในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าดงใหญ่ มีอาการอ่อนแรง หายใจติดขัด และตายลงในเวลา 10.22 น. คณะเจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบซากเสือโคร่ง พบว่านอนตายในท่าตะแคงซ้าย ไม่มีบาดแผลสดใหม่ มีแต่บาดแผลเก่า และมีปรสิตทั่วร่างกาย คณะเจ้าหน้าที่มีความเห็นร่วมกันว่า เสือโคร่งตัวดังกล่าวอาจตายเนื่องจากโรคบางอย่าง หรือความผิดปกติบางอย่าง หากทิ้งซากไว้ในป่าอาจทำให้สัตว์ป่าติดเชื้อได้ เนื่องจากยังไม่สามารถระบุสาเหตุการตายได้ ประกอบกับบริเวณดังกล่าวอยู่ใกล้ชุมชน หากประชาชนเข้าไปเจอซากเสือโคร่งอาจกระทำผิดกฎหมายบางอย่างได้ เนื่องจากเป็นซากสัตว์ป่าที่มีความต้องการของตลาดมืด จึงได้เคลื่อนย้ายซากเสือโคร่งออกมาที่สำนักงานเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่
ผลการชันสูตรโดยสัตวแพทย์
- สภาพซากปกติ มีความสดใหม่ สภาพร่างกายภายนอกพบความผิดปกติ
- มีคะแนนความสมบูรณ์ของร่างกาย เท่ากับ 1/5 (ผอมมาก)
- มีรอยถลอกขนาดเล็กตามร่างกาย
- พบรอยโรคบนผิวหนัง ลักษณะขนร่วงเป็นรูปวงกลม
- ลูกตาซ้ายพบฝ้าขาวบางส่วน พบคราบขี้ตาแห้งสีเขียวอ่อนที่ตาซ้าย
- ปลายของฟันเขี้ยวทั้งสี่ซี่มีลักษณะทู่
- พบเห็บจำนวนมากเกาะตามร่างกาย
- มีคราบอุจจาระเหลวสีน้ำตาลดำไหลออกมาจากทวารหนัก
- พบน้ำลายไหลออกมาจากปาก บริเวณเหงือกพบแผลหลุมขนาดเล็กและการอักเสบของเหงือกบางตำแหน่ง
- อวัยวะภายในพบความผิดปกติ เช่น หัวใจมีสีแดงเข้ม พบเนื้อตายสีขาว บริเวณหัวใจบางส่วน พบเลือดออกในปอด พบตุ่มกลมนูนในปอด พบตัวพยาธิไชในเนื้อปอด ประเมินสภาพเนื้อปอดมีความเสียหายกินพื้นที่ประมาณ 80 เปอร์เซ็นต์ของเนื้อปอดทั้งหมด ไตมีขนาดใหญ่ เนื้อเยื่อหุ้มไตมีลักษณะเหนียวและยึดติดกับไตแน่น พบจุดเลือดออกกระจายทั่วเนื้อไต พบเลือดออกในกระเพาะอาหาร พบพยาธิเกาะอยู่ที่ผนังด้านในลำไส้จำนวนมาก
- ที่สำคัญ พบลูกกระสุนลักษณะทรงกลมขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 9 มิลลิเมตร จำนวน 3 ลูก ฝังอยู่ในชั้นใต้ผิวหนังบริเวณหลังคอ จำนวน 2 ลูก และบริเวณอก จำนวน 1 ลูก บาดแผลบริเวณผิวหนังตำแหน่งที่พบลูกกระสุนหายดีแล้ว
- สรุปสันนิษฐาน สาเหตุการตายว่าเสือโคร่งตัวดังกล่าวตายจากภาวะการติดเชื้อในร่างกายหลายอย่างร่วมกัน ได้แก่ พยาธิในปอด พยาธิภายในทางเดินอาหาร เห็บกินเลือด อีกทั้งฟันเขี้ยวที่ใช้ล่าเหยื่อทู่ทำให้ล่าเหยื่อได้ยากขึ้น ทำให้ร่างกายขาดสารอาหาร ประกอบกับมีอวัยวะภายในที่สำคัญหลายอย่างเสียหายไม่ทราบสาเหตุแน่ชัด จึงทำให้เสือโคร่งมีร่างกายอ่อนแอและตายลง
คณะเจ้าหน้าที่จึงได้ เก็บตัวอย่างทั้งหมด เลือด ส่งตรวจที่สภาบันสุขภาพสัตว์แห่งชาติ และคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อหาสาเหตุของความผิดปกติของร่างกาย และ ส่งตรวจที่ศูนย์นิติวิทยาศาสตร์สัตว์ป่า กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช เพื่อทำข้อมูลรหัสพันธุกรรมเสือโคร่งที่พบในกุล่มป่าดงพญาเย็น-เขาใหญ่
โดยมอบหมายให้ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าดำเนินการส่งตัวอย่างที่เก็บไปยังห้องปฏิบัติการ และมอบหมายให้เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าดงใหญ่รับซากเสือโคร่ง พร้อมลูกกระสุนจำนวน 3 ลูก ไปพิจารณาสืบสวน พร้อมดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป .-สำนักข่าวไทย