จ่อฝากขังหนุ่มฆ่าขโมยรถไปชิงทอง – พ่อแม่หิ้วข้าวเยี่ยม

เชียงใหม่ 10 ก.ค. – ตำรวจเตรียมคุมตัวหนุ่มฆ่าขโมยรถขับไปชิงทอง ไปฝากขัง เจ้าตัวยอมรับ “สำนึกผิด” ในสิ่งที่ทำลงไป ส่วนแม่ยังย้ำคำเดิม กลัวลูกคิดสั้น อยากให้กำลังใจลูก เตรียมตัวไปขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต


นายนิพิฐพนธ์ หรือโอปอล ผู้ต้องหาลวงว่าที่ร้อยโทสุเทพ คนขับแกร็บ ไปฆ่า เพราะตั้งใจขโมยรถยนต์ไปชิงทองกลางห้างดังเมืองเชียงใหม่ ยังคงถูกคุมขังอยู่ที่ สภ.แม่ปิง มีโอกาสได้กินโจ๊กและไข่พะโล้ที่พ่อ แม่ และน้องสาว เอามาเยี่ยม ภายหลังเข้าเยี่ยม แม่ของผู้ต้องหาออกมาเปิดใจกับนักข่าวอีกครั้ง โดยบอกว่า ตอนเข้าเยี่ยมแทบไม่ได้พูดอะไรกับลูกชายมากนัก แต่ได้ลูบหลังให้กำลังใจ รวมถึงบอกให้ลูกพูดเพื่อสู้กับความจริง อดทน และอย่าคิดสั้น ส่วนเรื่องการขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิต แม่ยืนยันว่าได้ติดต่อไปเพื่อแสดงความเสียใจแล้ว และเตรียมไปขอขมาแทนลูกชายด้วย

ช่วงสาย นายนิพิฐพนธ์ ถูกเจ้าหน้าที่คุมตัวออกจากห้องขัง เพื่อพาไปตรวจร่างกายและสภาพจิตใจที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ จังหวะก่อนขึ้นรถ นักข่าวพยายามเข้าไปสอบถามผู้ต้องหาว่า รู้สึกผิดกับสิ่งที่ทำลงไปหรือไม่ อยากขอโทษครอบครัวผู้เสียชีวิตหรือไม่ ตอนนั้นผู้ต้องหาเอาแต่ก้มหน้าไม่ตอบอะไร ขณะที่ในช่วงที่ผู้ต้องหานั่งอยู่ในรถควบคุมแล้ว นักข่าวได้พยายามไปถามคำถามเดิมอีกครั้ง ครั้งนี้นายนิพิฐพนธ์ ผู้ต้องหา แม้ไม่ได้ตอบคำถาม แต่พยักหน้าตอบรับทุกคำถามของสื่อ


มีข้อมูลล่าสุดว่า หลังจากตำรวจคุมตัวผู้ต้องหาไปตรวจร่างกายและสภาพจิตที่โรงพยาบาลแล้ว จะคุมตัวไปสอบปากคำเพิ่มเกี่ยวกับคดีฆ่าชิงรถ และฆ่าคนขับรถที่ สภ.ภูพิงค์ฯ ก่อนนำตัวกลับมาคุมขังต่อที่ สภ.แม่ปิง เพื่อรอพาไปส่งตัวฝากขังในช่วงบ่าย พร้อมย้ำว่า การดำเนินคดี แบ่งเป็น 2 พื้นที่ เพราะผู้ต้องหามีความผิดทั้งชิงรถ ฆ่าผู้อื่น กระทำผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน และชิงทอง ทำให้โดนไปทั้งหมด 9 ข้อหา

ส่วนทองที่ผู้ต้องหาชิงไปทั้งหมด โดยสรุป คือ ได้ทองไป 32 เส้น น้ำหนักรวม 80 บาท มูลค่าราว 3 ล้านบาท ส่วนพฤติกรรมหลังก่อเหตุชิงทอง คือ นำรถที่ก่อเหตุไปจอดไว้เชิงดอยสุเทพ แล้วเดินย้อนกลับมาเอารถของตัวเองที่จอดไว้อีกฝั่งของดอยสุเทพ และขับรถตระเวนนำทองไปขายตามร้านทองในอำเภอดอยสะเก็ด และสันกำแพง รวม 7 เส้น น้ำหนัก 10 บาท ที่เหลือนำไปซ่อนไว้ที่บ้านพัก ในอำเภอดอยสะเก็ด ทั้งฝังไว้รอบบ้าน และซ่อนบนฝ้าเพดาน

ผู้การภาค 5 ระบุว่า เจ้าหน้าที่ยึดทองคืนได้เพียง 25 เส้น น้ำหนัก 70 บาท ตอนนี้อยู่ระหว่างตามรวบรวมทองที่เหลือ ซึ่งข้อมูลที่ได้จากผู้ต้องหา คือ ตอนเอาทองไปขาย ได้เงินมากว่า 3 แสนบาท ได้โอนเงินส่วนหนึ่งเข้าบัญชีของน้องสาว ที่เหลือเก็บไว้เป็นทุนในการหลบหนี โดยนำไปซื้อตั๋วเครื่องบิน ไปสุวรรณภูมิ และต่อเครื่องไปญี่ปุ่น ซึ่งหากไม่ถูกจับกุม ผู้ต้องหาถึงขั้นเขียนแผนหลบหนีและการใช้ชีวิตไว้อย่างละเอียด เช่น คำนวนค่ากินอยู่ในญี่ปุ่น 15 วัน 80,000 บาท รวมถึงวางแผนไปอยู่จอร์เจียอีก 1 ปี ซึ่งเตรียมเงินไว้ใช้จ่ายอีก 720,000 บาทด้วย .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยเหนือ-อีสาน อากาศเย็นในตอนเช้า ภาคใต้ฝนตกหนักบางแห่ง

กรมอุตุฯ เผยภาคเหนือ ภาคอีสาน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาวะอากาศที่เปลี่ยนแปลง ส่วนภาคใต้ มีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก