ตร.คาด 2 สัปดาห์ รู้ผลสอบ นร.ถูกไฟดูดดับคาตู้น้ำดื่ม

ตรัง 24 มิ.ย. – ผู้ว่าฯ ตรัง สั่งทุกโรงเรียนในเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตรัง-กระบี่ หยุดใช้ตู้กดน้ำ หลังไฟดูดนักเรียนชายวัย 14 ปี เสียชีวิต ด้านตำรวจคาดภายใน 2 สัปดาห์ จะทราบผลสอบว่าเป็นเหตุสุดวิสัย หรือกระทำการโดยประมาท


บรรยากาศที่โรงเรียนที่เกิดเหตุใน อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งวันนี้โรงเรียนยังเปิดเรียน และมีนักเรียนกว่า 300 คน เดินทางมาเรียนตามปกติ ขณะที่ครู อาจารย์ ผู้บริหาร และบุคลากรของโรงเรียน ร่วมแต่งกายด้วยเสื้อผ้าสีขาว สีดำ ก่อนที่นักเรียนและครูจะร่วมยืนสงบนิ่งเพื่อไว้อาลัย “น้องวายุ” นักเรียนชาย อายุ 14 ปี ซึ่งทุกคนยังอยู่ในอาการโศกเศร้าเสียใจ และขวัญเสียกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ทั้งนี้ น้องวายุเสียชีวิตจากการถูกไฟดูดที่หน้าตู้น้ำดื่ม เหตุเกิดขึ้นในช่วงจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียน เมื่อช่วงเที่ยงของวันวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา ท่ามกลางสายตาผู้ปกครองที่ไปเชียร์บุตรหลาน เพื่อนนักเรียน ครู ผู้บริหารโรงเรียน เจ้าหน้าที่พยาบาล กู้ภัย พยายามช่วยชีวิต แต่ไม่สามารถช่วยได้ โดยทีมแพทย์ตรวจสอบสภาพศพพบร่องรอยบาดแผลบริเวณหน้าอกและรอยแผลถลอกที่ใบหน้า จึงร่วมกับแพทย์ โรงพยาบาลกันตัง ชันสูตรพลิกศพ เบื้องต้นเชื่อว่าสาเหตุน่าจะเกิดจากไฟฟ้าดูด


เร่งสอบข้อเท็จจริง “น้องวายุ” ถูกไฟดูดหน้าตู้กดน้ำในโรงเรียน
จากการตรวจสอบบริเวณเครื่องกดน้ำจุดเกิดเหตุมีเบรกเกอร์รวมไฟอยู่ เมื่อฝนตกทำให้ไฟลงกราวด์ที่พื้น จึงไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย ต้องรีบสับสวิตช์ไฟก่อนถึงจะนำเด็กนักเรียนออกมาจากจุดที่เกิดเหตุได้ ส่วนประเด็นที่บอกว่ามีคุณครูใช้ให้ไปปิดสวิตช์ และใช้ให้นักเรียนไปกดน้ำจากจุดนั้น ยังไม่ใช่ข้อเท็จจริง เนื่องจาก ผอ.โรงเรียน ยืนยันว่าตู้กดน้ำดังกล่าวไม่ได้มีการใช้งานมาแล้วกว่า 10 ปี ซึ่งอยู่ระหว่างการตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว

ผอ.รร.เสียใจเหตุ นร.ถูกไฟดูดเสียชีวิต-จ่อรื้อตู้น้ำทิ้ง
ด้าน ผอ.โรงเรียน เปิดใจด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือและร่ำไห้ตลอดเวลาว่า ตนเองย้ายมาประจำที่นี่ได้เกือบ 2 ปีแล้ว โดยตู้ทำน้ำดื่มนี้ติดตั้งมานานและไม่ได้ใช้งานมานานแล้ว เดิมมีแนวคิดจะซ่อมแซมให้กลับมาใช้งานได้ เพื่อให้นักเรียนมีน้ำใช้ โดยตั้งงบซ่อมไว้ประมาณ 100,000 บาท แต่มาเกิดเหตุการณ์นี้เสียก่อนก็จะไม่ซ่อมแล้ว จะรื้อทิ้งเลย เพียงแต่ตอนนี้ยังเป็นวัตถุพยานทางคดี ต้องรอให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบตามขั้นตอนของกฎหมายให้เสร็จสิ้นก่อน จากนั้นจะตั้งคณะกรรมการตามระเบียบราชการเพื่อรื้อทิ้งต่อไป ส่วนตัวไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน ครูทุกคนก็ช็อกกันหมดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ส่วนตัวรู้สึกว่าดูแลเด็กไม่ดี โดยได้บอกกับครอบครัวน้องไปว่าตนเองเสียใจ ไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์แล้วก็ต้องเดินหน้ากันต่อ

ผอ.โรงเรียน เล่าว่า ในวันเกิดเหตุมีฝนตกหนักและลมพัดแรง บริเวณพื้นใกล้กับตู้กดน้ำเต็มไปด้วยน้ำฝน จึงเกิดไฟรั่วออกมา ตอนนี้ได้ตัดสายไฟที่เกี่ยวข้องกับตู้นี้ออกทั้งหมดแล้ว ไม่เป็นอันตรายแล้ว ส่วนการเยียวยาครอบครัวผู้เสียชีวิต นอกจากช่วยเหลือเรื่องงานศพแล้ว ทราบว่าน้องผู้เสียชีวิตยังมีพี่ชายอีกหนึ่งคนเรียนอยู่ชั้น ม.4 จึงตั้งใจว่าจะดูแลพี่ชายของน้องจนจบชั้น ม.6 และได้ประสานเพื่อให้เรียนต่อจนถึงระดับปริญญาตรี จะดูแลเยียวยาทุกอย่างเท่าที่จะทำได้ ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน


ผู้ว่าฯ ตรัง สั่งงดใช้ตู้กดน้ำทุกโรงเรียนในพื้นที่
ผู้ว่าราชการจังหวัดตรัง ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา ตรัง-กระบี่ (สพม.13) ต้นสังกัดของโรงเรียนที่เกิดเหตุ ศึกษาธิการจังหวัดตรัง และตำรวจ สภ.กันตัง ผู้แทนอัยการคุ้มครองสิทธิ แถลงกรณีดังกล่าวว่าเป็นเหตุสุดวิสัยที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น หลังเกิดเหตุทุกฝ่ายเร่งเยียวยาเต็มที่ครอบครัวผู้เสียชีวิตอย่างเต็มที่ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาตรัง-กระบี่ ได้ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ฝ่ายตำรวจพิสูจน์หลักฐานเร่งค้นหาสาเหตุ

เบื้องต้นมีคำสั่งห้ามใช้เครื่องทำน้ำเย็นในทุกโรงเรียนในเขตพื้นที่แล้ว ส่วนอนาคตหน่วยงานระดับนโยบายอย่างกระทรวงศึกษาฯ จะต้องวางแผนนโยบายใหม่เกี่ยวกับการใช้งานตู้น้ำดื่ม ตรวจสอบความพร้อมความหลอดไฟเกี่ยวกับไฟฟ้าในโรงเรียน โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญในพื้นที่อย่างวิทยาลัยเทคนิค หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค มาร่วมตรวจสอบความปลอดภัยเป็นวงรอบ พร้อมกำชับทุกอำเภอจะต้องมีการซ้อมแผนเผชิญเหตุการณ์จริงด้วยเสมอๆ ทุกโรงเรียน

สำหรับผลสอบคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริง ผอ.สพม.13 ตรัง-กระบี่ บอกว่า คาดว่าจะรู้ผลเย็นนี้ (24 มิ.ย.) ใน 2 ประเด็นคือ การเยียวยา และสาเหตุของไฟรั่ว แต่ในช่วงเกิดเหตุทุกคนได้เข้าช่วยเหลืออย่างเต็มที่ แต่อาจเพราะฝนตก ทำให้นักเรียนกระจายตัว เมื่อเกิดเหตุขึ้นจึงตกใจ แต่ ผอ.โรงเรียน รีบสั่งให้ตัดไฟแล้วเข้าไปนำตัวเด็กออกมาส่งโรงพยาบาล ใช้เวลา 2.1 นาที ตามที่ปรากฏในคลิป ส่วนการเยียวยา โรงเรียนช่วยเหลือไปแล้ว 120,000 บาท มีประกันกลุ่มกับบริษัทวิริยะประกันภัย อีก 90,000 บาท ผู้ปกครองพอใจและไม่ติดใจ แต่กระทรวงฯ จะศึกษาข้อกฎหมายว่ามีช่องทางใดที่จะเยียวยาเพิ่มได้หรือไม่ แต่จากข่าวทราบว่าครอบครัวต้องการ 500,000 บาท ซึ่งขึ้นกับข้อตกลงในการเจรจาเยียวยา ส่วนคดีอาญาก็ว่าไปตามกระบวนการกฎหมาย

ตร.คาด 2 สัปดาห์ รู้ผลคดีว่าเป็นเหตุสุดวิสัยหรือประมาท
ด้าน ผกก.สภ.กันตัง ตั้งประเด็นการสอบสวนไว้ 3 ประเด็น คือ 1.มีบุคคลอื่นทำให้ตายหรือไม่ ซึ่งจากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็นเหตุการณ์ชัด ระบุเวลาเกิดเหตุ 11.53 น. ขณะเกิดเหตุผู้ตายเดินไปกับเพื่อนรวม 3 คน โดยผู้ตายเดินน้ำหน้า เมื่อไปถึงจุดเกิดเหตุได้เอามือไปแตะลูกกรงตู้น้ำทำให้โดนไฟดูดทันที โดยมีบุคคลใกล้เคียงไม่ได้ผลักหรือกระทำให้เกิดแต่อย่างใด

2.สภาพเครื่องใช้ไฟฟ้าดังกล่าวมีความชำรุดทรุดโทรมหรือไม่ ไม่ได้รับการดูแลรักษาตามระยะเวลาที่กำหนดหรือไม่ ซึ่งอยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน และ 3.เมื่อเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า มีผู้ใดรับผิดชอบควบคุมกำกับดูแลอุปกรณ์ดังกล่าวหรือไม่ วิธีการเดินสายไฟเป็นตามหลักวิชาการหรือไม่ ใครเป็นคนเดิน มีความเชี่ยวชาญเพียงพอหรือไม่ ซึ่งไปตรวจแล้วทั้งเบรกเกอร์ ตู้น้ำ สายไฟต่างๆ ในจุดเกิดเหตุ จากรายงานตรวจสอบที่เกิดเหตุจะระบุสาเหตุการตายได้ว่าเป็นเหตุสุดวิสัย หรือเกิดจากข้อบกพร่อง ปล่อยปละละเลย เข้าข่ายกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตายหรือไม่ คาดว่าราว 2 สัปดาห์ จะรู้ผล.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย

ครม.เคาะเยียวยาผู้เสียชีวิตเหตุชายแดน รายละ 8-10 ล้าน

กรุงเทพฯ 5 ส.ค. – ครม. อนุมัติเงินเยียวยาผู้เสียชีวิตจากสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา รายละ 8-10 ล้านบาท พร้อมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข่าวปลอม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี แถลงภายหลังการกระชุม ครม. วาระสำคัญของรัฐบาล “ก้าวผ่านสองวิกฤติ เดินหน้าไปด้วยกัน” โดยระบุว่า รัฐบาลขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักของครอบครัวทุกๆ ครอบครัว แม้ว่าความสูญเสียที่เกิดขึ้นจะประเมินเป็นมูลค่ามิได้ แต่รัฐบาลจะขอผนึกกำลังจากทุกภาคส่วน เพื่อชดเชยความสูญเสียต่อชีวิต ทรัพย์สิน และรายได้ของพี่น้องประชาชนทุกคนที่ได้รับผลกระทบ โดยคณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเงินเยียวยาให้แก่ครอบครัวทหารที่เสียชีวิต รวมรายละ 10 ล้านบาท และครอบครัวประชาชนที่เสียชีวิต รวมรายละ 8 ล้านบาท พร้อมทั้งแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ เพื่อป้องกันข่าวปลอม ที่มุ่งหมายจะส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและความปลอดภัยของประชาชน รวมถึงสถานการณ์ที่ไทยเราต้องประสบกับมาตรการภาษีการค้าจากสหรัฐอเมริกา ขอยืนยันว่าได้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าวอย่างรอบคอบและต่อเนื่อง โดยยึดหลักผลประโยชน์ของประเทศเป็นสำคัญ ส่วนการที่สหรัฐอเมริกาประกาศอัตราภาษีการค้าของไทยที่ร้อยละ 19 ทำให้ไทยยังคงมีศักยภาพแข่งขันได้ในเวทีโลก และยังคงความได้เปรียบประเทศคู่แข่งขันในภูมิภาค รัฐบาลจึงได้กำหนดมาตรการทางการเงิน ทั้งมาตรการ Soft loan มาตรการพักชำระหนี้ การส่งเสริมให้คนไทยใช้สินค้าที่ผลิตภายในประเทศ และการตั้งงบประมาณเพื่อสนับสนุนและรองรับการปรับตัวของผู้ประกอบการไทย ทั้งรายใหญ่และรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างความเข้มแข็งให้แก่พี่น้องเกษตรกรไทย เพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงนี้ไปด้วยกันได้อย่างมั่นคง […]