ตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงไฟดูด นร.ดับคาตู้กดน้ำดื่ม

ตรัง 23 มิ.ย. – ผอ.เขตพื้นที่การศึกษาฯ เขต 13 ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีเด็กชายวัย 14 ปี ถูกไฟดูดเสียชีวิตคาตู้กดน้ำดื่ม เร่งให้แล้วเสร็จวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.) ด้านโรงเรียนช่วยค่าจัดงานศพ 500,000 บาท


คลิปนาทีช่วยชีวิตนักเรียนชายคนหนึ่งสวมชุดวอร์ม กางเกงดำ เสื้อสีฟ้า ถูกกระแสไฟรั่วดูดนอนเสียชีวิตติดคาตู้ผลิตน้ำดื่ม ในโรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเกิดขึ้นในช่วงจัดกิจกรรมแข่งขันกีฬาสีของโรงเรียน ท่ามกลางสายตาผู้ปกครองที่ไปเชียร์บุตรหลาน เพื่อนนักเรียน ครู ผู้บริหารโรงเรียน เจ้าหน้าที่พยาบาล กู้ภัย แต่ไม่สามารถช่วยชีวิตได้ โดยทีมแพทย์ตรวจสอบสภาพศพมีบาดแผลบริเวณหน้าอก คาดว่าเสียชีวิตจากการถูกไฟฟ้าดูด

ทีมข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าวค่อนข้างเงียบ เนื่องจากเป็นหยุด มีเพียงนักการภารโรง และครูบางคนเดินทางเข้าไปทำงานในวันหยุด แต่ปฏิเสธจะให้สัมภาษณ์ บอกเพียงว่าผู้อำนวยการโรงเรียนจะเป็นผู้ให้ข้อมูลในวันพรุ่งนี้ (24 มิ.ย.)


ด้าน นายชัยณรงค์ ช่างเรือ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจังหวัดตรังและจังหวัดกระบี่ เขต 13 ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับทีมข่าวว่า จากการสอบถามทาง ผอ.โรงเรียน เหตุการณ์เกิดเมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา ประมาณช่วงเที่ยง วันนั้นมีฝนตกหนัก ประกอบกับเด็กนักเรียนตัวเปียกและไม่สวมใส่รองเท้าบริเวณเครื่องกดน้ำ เบรกเกอร์รวมไฟอยู่บริเวณนั้นพอดี ทำให้ไฟฟ้าลงกราวด์ที่พื้น ทำให้ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยต้องรีบสับสวิตช์ไฟก่อนถึงจะนำเด็กนักเรียนออกมาจากจุดที่เกิดเหตุได้

ส่วนประเด็นที่บอกกันว่ามีครูใช้ให้ไปปิดสวิตช์ และใช้ให้นักเรียนไปกดน้ำจากจุดนั้น ส่วนนี้ยังไม่เป็นข้อเท็จจริง เนื่องจาก ผอ.โรงเรียน ยืนยันว่าตู้กดน้ำดังกล่าวไม่ได้มีการใช้งานแล้ว อายุกว่า 10 ปี และเป็นตู้ที่อยู่ก่อนที่ ผอ.โรงเรียนคนปัจจุบันจะเข้ามาอยู่ ซึ่งข้อมูลดังกล่าวยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ ภายหลังจากทราบเรื่องตนได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จในทันที พร้อมทั้งรายงานเรื่องไปยังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) และกระทรวงศึกษาธิการ ให้ทราบเรื่องแล้ว เบื้องต้น ผอ.โรงเรียน ได้เยียวยาครอบครัวของเด็กนักเรียนแล้ว 20,000 บาท และทางสำนักงานเขตการศึกษาช่วยเหลือเงินในเบื้องต้นไปอีก 100,000 บาท

ส่วนที่วัดควนตุ้งกู ต.บางสัก อ.กันตัง จ.ตรัง ซึ่งเป็นสถานที่ประกอบพิธีทางศาสนาศพของเด็กชายวัย 14 ปี บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า มีเพื่อนบ้าน ผู้นำชุมชน เพื่อนนักเรียน และตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ เดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว


นายพรชัย และนางสุภาพร พ่อและแม่ของเด็กชายวัย 14 ปี เล่าว่า ลูกชายที่เสียชีวิตเป็นลูกคนที่ 2 ทราบเรื่องตอนที่ทางโรงเรียนโทรมาแจ้งว่าลูกชายเกิดอุบัติเหตุ ให้รีบไปโรงพยาบาลด่วน พอไปถึงทางโรงเรียนแจ้งว่าน้องถูกไฟดูดเสียชีวิต ตนรู้สึกช็อกและตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างมาก แต่ไม่ได้สอบถามว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร รู้เพียงว่าถูกไฟดูด ทางโรงเรียนช่วยเหลือจัดงานศพ 500,000 บาท และ ผอ.โรงเรียน คณะครู เสนอตัวเป็นเจ้าภาพพิธีสวดอภิธรรมศพ ส่วนศพของลูกชายกำหนดจะมีพิธีฌาปนกิจในวันที่ 27 มิ.ย.นี้ อยากให้โรงเรียนดูแลกวดขันเรื่องความปลอดภัยภายในโรงเรียนให้ดีกว่าเดิม เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์กับนักเรียนคนอื่นๆ .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”