วุ่นอีก! ทนายราดอุจจาระประท้วงใช้เหล็กแหลมแทงแขน

ราชบุรี 18 มิ.ย. – ทนายราดอุจจาระประท้วงโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกโอนเงินจนหมดตัว 1.1 ล้านบาท เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา ล่าสุดวุ่นอีก ใช้เหล็กแหลมแทงแขนตัวเองบาดเจ็บหน้าธนาคาร ร้องหาความรับผิดชอบ


จากกรณีที่ทนายนพ จ.ราชบุรี บุกประท้วงใช้อุจจาระราดตัวเอง ที่หน้าธนาคารแห่งหนึ่ง ในเขตเทศบาลเมืองราชบุรี เมื่อวันที่ 4 มิ.ย.ที่ผ่านมา หลังถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ใช้กลอุบายหลอกโอนเงินออกจากบัญชีจนหมดตัวกว่า 1.1 ล้านบาท โดยครั้งนั้น ทนายนพ ยื่นคำขาดให้เวลา 2 สัปดาห์ หากธนาคารไม่รับผิดชอบจะมาฆ่าตัวตายที่หน้าธนาคาร

ล่าสุดวันนี้ (18 มิ.ย.) ทนายนพ เดินทางด้วยเท้ามาตามสัญญา ที่บริเวณหน้าธนาคาร พบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจสายตรวจ สภ.เมืองราชบุรี และเจ้าหน้าที่ตำรวจนอกเครื่อง รวมเกือบ 10 นาย มาเฝ้าสังเกตการณ์และระงับเหตุ โดยทนายนพ ได้อ่านแถลงการณ์ เล่าเหตุการณ์ที่ถูกหลอกให้โอนเงิน โดยมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นบริษัทขนส่งพัสดุ ติดต่อขอชดใช้ค่าเสียหาย 1,000 บาท หลังทำเอกสารชำรุด และให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน เพื่อจะคืนเงิน แต่หลังจากดาวน์โหลดแอปฯ แล้ว โทรศัพท์ก็มืด ไม่สามารถใช้งานได้ มีเพียงช่องให้สแกนใบหน้าเท่านั้น ก่อนหน้าจอจะดับลงไปราว 10 นาที และพบว่าเงินถูกโอนออกจากบัญชีทั้งหมดกว่า 1.1 ล้านบาท


ทั้งนี้ ที่ผ่านมาได้เข้าไปให้ปากคำกับตำรวจไซเบอร์ อ้างว่าตำรวจไซเบอร์ตรวจสอบแล้ว แจ้งว่าเป็นความผิดของธนาคารที่ไม่ติดตั้งระบบป้องกันการแฮก จึงแนะนำให้ฟ้องแพ่งธนาคาร แต่ไม่ยืนยันว่าจะได้เงินคืนครบ อาจได้เพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น เพราะเงินไหลออกไปต่างประเทศแล้ว จะคาดหวังให้ตำรวจนำเงินทั้งหมดกลับคืนมาคงไม่ได้ พร้อมยึดโทรศัพท์ไว้ เพื่อให้กองพิสูจน์หลักฐานกู้หลักฐานใช้ฟ้องแพ่งกับทางธนาคาร

เบื้องต้น ทนายนพ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่มีเงินจะใช้ฟ้องแพ่ง แค่เงินกินข้าวในแต่ละวันยังไม่มีเลย เพราะเงินที่คนใจบุญเคยบริจาคช่วยเหลือมารวม 8,000 บาท หมดแล้ว ส่วนเงินที่ธนาคารเยียวยามาเบื้องต้น 30,000 บาท มองว่าหากรับไว้คงใช้ดำรงชีพได้เพียงไม่กี่วัน จึงตั้งใจจะโอนคืนให้กับธนาคาร

นอกจากนี้ ทนายนพ ยังเรียกร้องให้ผู้จัดการธนาคารออกมารับหนังสือแถลงการณ์ พร้อมต้องให้คำตอบทันทีว่าจะคืนเงินทั้งหมดให้หรือไม่ หากไม่คืน ยืนยันจะจัดการตัวเองที่หน้าธนาคาร เพื่อให้ธนาคารได้รับผลกระทบ แต่ไม่ขอเปิดเผยรายละเอียด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้ามาเกลี้ยกล่อม ระงับเหตุ และพูดคุยให้ทนายนพใจเย็น แล้วกลับไปรอคำตอบที่บ้าน แต่ทนายนพไม่ยินยอม ตำรวจจึงขอค้นอาวุธ พบเพียงยารักษาโรคเท่านั้น


ทั้งนี้ ทนายนพ ยืนรอและพูดคุยกับตำรวจที่มาช่วยไกล่เกลี่ยเกือบ 1 ชม. แต่ก็ไม่มีเจ้าหน้าที่ธนาคารออกมารับหนังสือหรือพูดคุยเจรจาด้วย ทนายนพจึงทำทียอมกลับบ้าน แต่ไม่ยอมให้ตำรวจตามประกบตัว ก่อนจะใช้จังหวะตำรวจเผลอ หยิบไขควงเย็บกระสอบที่แอบซ่อนไว้ในถุงเท้า แทงเข้าที่แขนของตัวเอง จนได้รับบาดเจ็บ ตำรวจเร่งให้ความช่วยเหลือปฐมพยาบาลในเบื้องต้น ก่อนจะมีเจ้าหน้าที่พยาบาลเข้ามาช่วยทำแผล และนำตัวส่งโรงพยาบาลต่อไป. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา

แจ้งข้อหาเพิ่ม “ทนายตั้ม” คดี 39 ล้านบาท รวม 7 ข้อหา จ่อแจ้งข้อหา “นุ-แซน” เพิ่มเติม และเชื่อว่ามีบุคคลอื่นที่ต้องถูกดำเนินคดีอีก ส่วน “ฟิล์ม รัฐภูมิ” ยังไม่ประสานเข้าพบหลังออกหมายเรียก

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน ยิงสู้ จนท.

วิสามัญมือยิงประธานสภา อบต.โพนจาน จ.นครพนม หลังหนีข้ามมา จ.ขอนแก่น เจ้าหน้าที่ปิดล้อมเกลี้ยกล่อมให้วางอาวุธ แต่ไม่สำเร็จ คนร้ายยิงต่อสู้

ขู่ยื่นเอาผิด รมว.ดีอี ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ปชช.

รัฐสภา 3 ธ.ค. – กมธ.ไอซีที สว. ขู่ ยื่น ม.157 เอาผิด รมว.ดีอี ฉุนเกียร์ว่าง ปล่อยโฆษณาหลอกหลวง ประชาชน – ปล่อย “หมอบุญ” หนีลอยนวล จี้รัฐยกปราบหลอกลวงออนไลน์เป็นวาระแห่งชาติ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. ฐานะรองประธานคณะกรรมาธิการเทคโนโลยีสารสนเทศ การสื่อสาร และการโทรคมนาคม คนที่หก วุฒิสภา แถลงผลการประชุมกมธ. เมื่อวันที่ 2 ธ.ค. ซึ่งตรวจสอบกรณีการโฆษณาผ่านสื่อสังคมออนไลน์ให้ลงทุนในสินทรัพย์ ซึ่งก่อให้เกิดความเสียหายต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าชี้แจงอาทิ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กรณีของนพ.บุญ วนาสิน ผู้ก่อตั้งโรงพยาบาลธนบุรี ที่พบกรณีฉ้อโกงและฟอกเงิน เป็นมูลค่าสูงกว่า 7,500 ล้านบาท อย่างไรก็ดีในคดีดังกล่าวถูกแจ้งความดำเนินคดีที่ สน.ห้วยขวาง แล้วปี 2566 แต่ไม่มีการดำเนินการใดๆ จนกระทั่งนพ.บุญเดินทางออกไปนอกประเทศและไม่มีการอายัดทรัพย์ ทั้งนี้ในการหลอกหลวงผ่านโฆษณาชวนเชื่อนั้น ทำผ่านโบรกเกอร์ที่หลอกลงทุน ทั้งนี้เชื่อว่าจะเป็นนักลงทุนที่เคยลงทุนที่คุ้นเคยกับเครือโรงพยาบาลธนบุรี “จากการชี้แจงกรณี นพ.บุญของหน่วยงานที่ชี้แจง พบเป็นการโยนกลองกันไปมา ไม่มีหน่วยงานใดที่รับผิดชอบจริงจัง […]

ข่าวแนะนำ

ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้

วธ.เผย ยูเนสโก ประกาศรับรอง ‘เคบายา’ มรดกวัฒนธรรมร่วม 5 ประเทศ บรูไน อินโดนีเซีย มาเลเซีย สิงคโปร์ และไทย ขึ้นทะเบียนมรดกวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้ของมนุษยชาติ ประจำปี 2567

รัฐบาลจัดพิธีอัญเชิญพระเขี้ยวแก้ว อย่างยิ่งใหญ่

พระบรมสารีริกธาตุพระเขี้ยวแก้ว จากสาธารณรัฐประชาชนจีน อัญเชิญมาประดิษฐานเป็นการชั่วคราว ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวงแล้ววันนี้ พร้อมริ้วขบวนอัญเชิญอย่างยิ่งใหญ่ ก่อนเปิดให้ประชาชนสักการะ พรุ่งนี้ (5 ธ.ค.) วันแรก

เปิดนาทีระทึก! เรือบรรทุก ชนเรือนำเที่ยวกลางเจ้าพระยา

ระทึก เรือพ่วงบรรทุก เฉี่ยวชนเรือนำเที่ยว จอดเทียบริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยา ใกล้สะพานกรุงเทพฯ ทำให้เรือนำเที่ยวขนาดใหญ่เสียหาย 5 ลำ เรือเล็กจมอีก 1 ลำ