ย้อนไทม์ไลน์ เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ หายกลางทะเล

17 มิ.ย. – ย้อนไทม์ไลน์ เรือน้ำมันเถื่อน 3 ลำ หายไปพร้อมน้ำมันกว่า 3 แสนลิตร จากท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ วันนี้จะเข้าเทียบท่าที่จังหวัดสงขลาพร้อมลูกเรือ รวม 8 คน


บทปฐมฤกษ์ของเรื่องนี้ เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 17 มี.ค.67 เมื่อตำรวจสอบสวนกลาง ร่วมกับกรมศุลกากร จับกุมเรือบรรทุกน้ำมันเถื่อน 5 ลำ ซึ่งลักลอบขนน้ำมันกว่า 3 แสนลิตร บริเวณอ่าวไทย ก่อนประสานตำรวจน้ำ ให้นำเรือของกลางไปจอดควบคุมไว้ที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำสัตหีบ จ.ชลบุรี

กระทั่งวันที่ 9 มิ.ย. ตำรวจน้ำได้นำเรือของกลางทั้ง 5 ลำ ออกไปจอดทอดสมอไว้ห่างจากท่าเทียบเรือ 100 เมตร โดยอ้างว่าเพื่อป้องกันเรือเสียหายจากคลื่นลมแรง ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา ระหว่างวันที่ 5-9 มิ.ย. และกำหนดให้นำเรือกลับเข้าท่าในเช้าวันที่ 10 มิ.ย.


อย่างไรก็ดี พบว่า ในวันที่ 11 มิ.ย. เมื่อเวลาประมาณ 19.00 น. จากกล้องวงจรปิดของตำรวจยังแสดงให้เห็นเรือของกลางจอดลอยลำอยู่ แต่ต่อมาในเวลาประมาณ 20.10 น. พบว่าไฟของเรือ 3 ลำถูกดับลง ก่อนจะเปลี่ยนทิศทางแล่นห่างออกไปและหายลับไป จนกระทั่งเช้าวันที่ 12 มิ.ย. เหลือเรือจอดเพียง 2 ลำ เจ้าหน้าที่จึงตรวจพบความผิดปกติ

เหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้ พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางสั่งย้าย พ.ต.อ.อินทรัตน์ ปัญญา ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการ ตำรวจน้ำ พร้อมตำรวจน้ำอีก 3 นาย มาช่วยราชการที่ศูนย์ปฏิบัติการ กองบัญชาการสอบสวนกลาง เนื่องจากบกพร่องต่อหน้าที่ปล่อยให้เรือของกลางหายไปจากการควบคุม

จากนั้นเจ้าหน้าที่ตำรวจไทยประสานไปยังประเทศเพื่อนบ้านโดยเฉพาะประเทศกัมพูชา เพื่อกดดันเรือทั้ง 3 ลำ ที่คาดว่าจะหลบหนีไปอยู่ที่นั่น จนผู้ต้องหาทนกับความกดดันไม่ไหว ต้องนำเรือทั้ง 3 ลำ ออกจากท่าเรือในประเทศกัมพูชา และยังสืบทราบว่าเรือหนึ่งลำที่ชื่อซีฮอตหรือเรือกำไลเงินได้เปลี่ยนแปลงสีเพื่ออำพราง นอกจากนี้ตำรวจน้ำคาดว่าน้ำมันบางส่วนได้ถูกนำไปขายยังประเทศเพื่อนบ้านอีกด้วย


ล่าสุดวันที่ 16 มิ.ย.67 เวลา 06.00 น. เรือประมงภาคีเครือข่ายได้แจ้งกลับมาว่า พบเรือของกลาง 3 ลำที่หายไป บริเวณพื้นที่ เขตเศรษฐกิจจำเพาะที่ผู้ต้องหาชำนาญในพื้นที่นี้อยู่แล้ว โดยห่างจากฝั่งของจังหวัดสงขลาประมาณ 90 ไมล์ทะเล จึงได้ออกพิสูจน์ทราบและได้พบว่าเป็นเรือของกลางที่หายไปและมีผู้ต้องหาอยู่ในเรือ 8 คน ซึ่งตรงกับรูปพรรณสันฐานของผู้ต้องหาอยู่แล้ว โดยในเรือเจพีพบผู้ต้องหา 4 คน เรือสี่ฮอตพบผู้ต้องหา 3 คน และเรือดาวรุ่งพบผู้ต้องหา 1 คน รวมทั้งหมดมี 8 คน จาก 15 คน และหายไปทั้งหมด 7 คน

ขณะนี้เรือยังอยู่ระหว่างการลากจูงเข้ามาในพื้นที่น่านน้ำไทยแต่เนื่องจากมีเรือ 1 ลำที่เสีย ทำให้การเคลื่อนที่กลับเข้ามายังฝั่งประเทศไทยเป็นไปได้ยาก และช้ากว่ากำหนด ซึ่งตอนนี้คาดว่า เรือวิ่งได้ประมาณ 4 นอต เนื่องจากคลื่นลมทะเลแรง คาดว่าจะต้องใช้เวลาอีกนาน

ในขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง กล่าวว่าแนวทางการสอบสวนพบว่า เสี่ย จ. ที่คาดว่าน่าจะหลบหนีอยู่ที่ประเทศกัมพูชาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังในเรื่องนี้แต่ต้องสืบสวนให้ชัดเจนอีกครั้ง

ด้านพลตำรวจตรีพฤทธิพงศ์ นุชนารถ ผู้บังคับการตำรวจน้ำ ตอบคำถามผู้สื่อข่าวที่ว่าน้ำมันยังอยู่ในเรือหรือไม่ก่อนที่เรือจะหายไป โดยยืนยันว่าน้ำมันอยู่ในเรือ 100% เพราะวันที่ 17 พฤษภาคม เจ้าหน้าที่จากกรมศุลกากรเข้ามาตรวจสอบน้ำมันของกลางเพื่อจะนำน้ำมันไปประมูลขาย

นับตั้งแต่จับกุมเรือได้ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม เป็นต้นมา เรือทั้ง 5 ลำ มีลูกเรือ 15 คน จากการสอบสวนลูกเรือทั้งหมดปฏิเสธการเป็นเจ้าของแต่ไม่ระบุเจ้าของที่แท้จริง

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยังกล่าวอีกว่าหากเรือเดินทางมาถึงถ้าเทียบเรือจังหวัดสงขลา จะนำลูกเรือทั้ง 8 คน เข้าสอบสวนทันทีและจะฝากขังที่ตำรวจภูธรจังหวัดสงขลา ขณะเดียวกันกองพิสูจน์หลักฐานก็จะทำการเข้าพิสูจน์เรือพร้อมทั้ง 3 ลำ และความเสียหายที่เกิดขึ้นรวมทั้งน้ำมันที่สูญหายไปด้วย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก