ศาลไม่ให้ประกัน “แซน” ชี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ-โทษสูง

ปทุมธานี 7 มิ.ย. – ศาลไม่อนุญาตให้ปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาฆ่าตัดมือแฟนสาว วัย 18 ปี ชี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ ถูกคุมตัวเข้าเรือนจำปทุมธานี ด้านผลชันสูตร พบหลอดลมฉีกขาดจากของมีคม


จากกรณีนายธนากรณ์ หรือ “แซน” อายุ 18 ปี ฆ่าทุบหัว ปาดคอตัดมือทั้ง 2 ข้างของ น.ส.วรัญญา นักศึกษาสาว อายุ 18 ปี ซึ่งแฟนสาว ก่อนทิ้งศพเปลือยในกองขยะริมถนน ใต้ทางด่วน ในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี

วันนี้ตำรวจได้คุมตัวผู้ต้องหาไปขออำนาจศาลจังหวัดปทุมธานี ฝากขัง โดยพนักงานสอบสวน ยื่นคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นคดีที่มีอัตราโทษสูง และเป็นคดีอุกฉกรรจ์ เกรงว่าหากผู้ต้องหาได้รับการประกันตัวอาจจะหลบหนี หรือไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรืออาจจะกระทำอัตวินิบาตกรรม ฆ่าตัวตาย ได้ จึงสมควรที่จะได้รับการฝากขังเพื่ออยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่อย่างใกล้ชิด


หลังการนำตัวไปฝากขัง ที่ศาลจังหวัดปทุมธานี เบื้องต้น ญาติผู้ต้องหาได้ยื่นคำร้อง พร้อมหลักทรัพย์ขอปล่อยชั่วคราว โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นว่าเนื่องจากเป็นคดีมีอัตราโทษสูง ลักษณะการก่อเหตุเป็นคดีสะเทือนขวัญ ประกอบกับพนักงานสอบสวนคัดค้านการประกันตัว หากอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนี ในชั้นนี้จึงมีคำสั่งไม่อนุญาตปล่อยชั่วคราว ยกคำร้องและให้ออกหมายขังผู้ต้องหาส่งตัวไปคุมขังที่เรือนจำปทุมธานีต่อไป

ส่วนที่ สภ.ปากคลองรังสิต นายไพศาล เรืองฤทธิ์ ทนายความพร้อม ด้วยแม่และพี่สาวผู้เสียชีวิต เข้าพบพนักงานสอบสวนเจ้าของคดี เพื่อสอบถามเรื่องของคดีที่ ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังกังวลอยู่ ทนายไพศาล กล่าวขอบคุณ ตำรวจที่ช่วยดำเนินคดีอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการค้นหามือทั้งสองข้างของผู้เสียชีวิต แต่ยังมีหลายประเด็นที่ต้องสอบถามจากตำรวจ โดยเฉพาะพยานหลักฐาน ที่อยู่ในโทรศัพท์ว่าตรวจสอบถึงไหนแล้ว ในส่วนผู้ต้องหาเชื่อว่า มุกแกล้งบ้า ไม่สามารถใช้ได้ การป่วยทางจิตดูเหมือนเป็นฉากเป็นตอน ฝากบอกคนไทยเลยว่าถ้าเกิดคนที่อ้างว่าป่วยจิตหรือกินยา ถ้าป่วยจริงต้องกินขี้ได้ คือกฎหมายข้อนี้การกระทำโดยขาดจิตสำนึกผิดชอบชั่วดีจิตจิตฟันเฟืองซึ่งในขณะที่ทำมีจิตอยู่บ้าง ทั้งนี้ หากผลการชันสูตร พบว่ามีการฆ่าโดยทรมานจะมีการแจ้งข้อกล่าวหาเพิ่ม ตามมาตรา 289 (5) และนายธนากรณ์ ยอมเปิดปากสารภาพแล้ว แต่ยังไม่ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ขณะผู้ที่ฉวยผลประโยชน์ในคดีนี้ แอบอ้างเปิดรับบริจาค จะลงบันทึกประจำวัน เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย

จากนั้น ทนายไพศาล เรืองฤทธิ์ พร้อมด้วยแม่ และพี่สาวของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อติดต่อขอรับศพลูกสาว เพื่อนำกลับไปเพื่อประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด จ.อุตรดิตถ์ แต่เบื้องต้นติดปัญหา ที่ชื่อของผู้เสียชีวิต ตอนส่งศพไปชันสูตร เป็นศพไม่มีชื่อเพราะในตัวไม่พบเอกสารใดๆ ทำให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ต้องพามารดาไปที่กระทรวงยุติธรรม เพื่อดำเนินการเรื่องเอกสารเนื่องจากบัตรประชาชนของผู้ตายยังอยู่ภายในบ้านของผู้ก่อเหตุ


ขณะเดียวกัน พ่อของผู้ต้องหาได้เดินทางมาที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อนำทรัพย์สินของผู้เสียชีวิต มามอบคืนให้กับญาติ มีแมว 1 ตัว เสื้อผ้า ของใช้ส่วนตัว และบัตรประชาชนของผู้เสียชีวิต โดยพ่อของแซน ได้ขอคุยกับบุลคลในครอบครัวของผู้ตายเป็นการส่วนตัวในรถยนต์ ใช้เวลาพูดคุยกันประมาณ 10 นาที โดยญาติผู้เสียชีวิต เปิดเผยว่า จากการพูดคุยกับครอบครัวของผู้ก่อเหตุ บอกว่าเขาไม่ได้มีปัญหาอะไรกัน และเสียใจกันเรื่องที่เกิดขึ้น เบื้องต้นยังไม่ได้มีโอกาสสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้น เพราะฝั่งครอบครัวผู้ก่อเหตุ พูดอย่างเดียวซึ่งเขาบอกว่า ไม่คิดว่าจะทะเลาะกันเมื่อวันสองวันยังกินข้าวด้วยกันอยู่เลย ตอนนี้ครอบครัวยังติดใจเรื่องคดีที่ไม่คืบหน้า และอยากได้ความยุติธรรมกับน้องให้ถึงที่สุดเพราะมันโหดร้ายจนเกินไป ไม่ให้อภัย และจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ในส่วนที่ครอบครัวผู้ก่อเหตุขอโทษเรา เรายังไม่รับคำขอโทษ

ล่าสุด เมื่อเวลาประมาณ 16.30 น. หลังจากครอบครัว ไปทำเรื่องเอกสารเรื่องชื่อ เพื่อมาขอรับศพลูกสาว เสร็จสิ้นก็เดินทางกลับมาถึง สถาบันนิติวิทยาศาสตร์กระทรวงยุติธรรมอีกครั้ง เพื่อขอรับศพลูกสาว สำหรับผลชันสูตรศพของผู้เสียชีวิต พบว่า หลอดลมฉีกขาดจากของมีคม เนื่องจากมีบาดแผลฉีดขาดบริเวณลำคอ รวมทั้งมีการสำลักเลือดในปอดด้วย จึงสันนิษฐานว่าก่อนเสียชีวิต โดยทำการทรมาน ซึ่งกรณีที่มีการสำลักเลือดในปอด ตอนนั้นผู้เสียชีวิต อาจยังไม่เสียชีวิต ทำให้สำลักเลือด และเลือดลงไปในปอด

จากนั้น ครอบครัวได้นำร่างผู้เสียชีวิตออกมาขึ้นรถกู้ภัย พร้อมด้วยพระสงฆ์ 1 รูป มุ่งหน้าไปยังจุดเกิดเหตุ เพื่อทำพิธีเชิญดวงวิญญาณ โดยเมื่อมาถึงจุดทิ้งศพ บริเวณใต้ทางด่วน พระสงฆ์ 1 รูปประกอบพิธี แม่นำก๋วยเตี๋ยว น้ำอัดลม น้ำเปล่า มาจุดธูปเรียกลูกกินข้าวก่อนกลับบ้าน จุดธูป ร่ำไห้เรียกชื่อลูกสาว ก่อนจะบอกว่า “แม่มารับแล้วนะลูก น้องหิวไหมลูก มากินข้าวนะ แม่มารับแล้วนะลูก กลับบ้านเรานะลูก เดี๋ยวแม่พาไปวัดบ้านเรา ตามแม่มานะลูก แม่เอาโคบี้ แมวรัก กลับเลี้ยงให้แล้วนะลูก” ก่อนจะกลับไปทำพิธีทางศาสนาที่จังหวัดอุตรดิตถ์.-สำนักข่าวไทย.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย

กทม. 18 ก.ย.-เพลิงไหม้อาคารกองบัญชาการกองทัพไทย คาดไฟฟ้าลัดวงจรและลุกลามไปยังห้องข้างเคียง ไม่พบผู้บาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรง เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 18 ก.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ได้เกิดเหตุห้องอาหาร 50 จากตู้ควบคุมวงจรไฟฟ้ามีเพลิงไหม้ (ไฟฟ้าลัดวงจร) และลุกลามไปยังพื้นที่ข้างเคียงตึกกองบัญชา บกทท. บริเวณชั้น6 ข้างห้อง เสธนาธิการทหาร เจ้าหน้าที่เวรยาม และสารวัตรทหาร ได้ช่วยกันใช้ถังดับเพลิงในการดับเพลิงแต่ไม่สามารถเข้าถึงต้นเพลิงในการระงับดับไฟได้ จึงได้ประสานรถตับเพลิงและขอส่วนสนับสนุนรถดับเพลิง นทพ. มาช่วยในการระดับดับเพลิง โดยมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้เข้าตรวจสอบและดำเนินการระงับเหตุในทันที เบื้องต้นสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ พล.ต.วิทัย ลายถมยา โฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้น คาดว่าเกิดจากไฟฟ้าลัดวงจร ทั้งนี้ ยังไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บหรือความเสียหายร้ายแรงต่อโครงสร้างอาคารแต่อย่างใด กองบัญชาการกองทัพไทย ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างใกล้ชิด และจะรายงานความคืบหน้าให้ประชาชนและสื่อมวลชนรับทราบต่อไป.-313.-สำนักข่าวไทย

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย

“รังสิมันต์” เบรกกัมพูชากลางวง AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนปมเปิดด่าน

มาเลเซีย 17 ก.ย.- “รังสิมันต์” เบรกกัมพูชา กลางวงประชุม AIPA หลังเสนอวาระเร่งด่วนประเด็นขัดแย้งไทย-กัมพูชา หารือปมเปิดด่าน หวั่นเป็นประเด็นการเมือง-ละเอียดอ่อน ชี้ มีกระบวนการ IOT และ GBC อยู่แล้ว นายรังสิมันต์ โรม สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร แบบบัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะผู้แทนรัฐสภาไทยในการประชุมคณะกรรมการบริหาร AIPA กล่าวถึงข้อเสนอของกัมพูชาผ่านเวที AIPA ว่าเป็นการเสนอในระยะเวลากระชั้นชิดเป็นช่วงสุดท้าย ที่เปิดให้ประเทศสมาชิกเสนอวาระเร่งด่วนได้ ดังนั้นทีมไทยแลนด์ที่นำโดยนายฉลาด ขามช่วง เมื่อทราบ ข้อเรียกร้องของกัมพูชาจึงได้เตรียมการในเรื่องนี้ ซึ่งจากเดิมได้เรียกร้อง 2 ข้อ คือ 1. เรื่องเฉลยศึก ที่ทหารกัมพูชาถูกควบคุมตัว ในช่วงเวลาที่มีการปะทะ และ 2. เรื่องการเปิดด่านชายแดน แต่ท้ายที่สุดทางกัมพูชากลับเรียกร้องบนเวที AIPA เพียงเรื่องการเปิดด่านชายแดนเท่านั้น จึงรู้สึกแปลกใจว่าทำไมถึงหยิบยกมาเพียงเรื่องนี้ ในเมื่อกระบวนการของคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว หรือ IOT ผ่านไป และค่อนข้างราบรื่น ดังนั้นการหยิบยกประเด็นดังกล่าวมาพูดคุยอีกครั้ง จากการแก้ปัญหาแบบทวิภาคี ระหว่างไทย และ […]

แม่ใจสลาย รับร่างลูกสาววัย 2 เดือนถูกพิตบูลขย้ำ ส่งชันสูตร

อุทัยธานี 17 ก.ย. – ครอบครัวเศร้า ติดต่อรับร่างลูกสาววัย 2 เดือน ส่งชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต หลังถูกสุนัขพิตบูลลากไปขย้ำหัว ขณะแม่ไปเก็บของเก่าภายในโรงสี เจ้าของคาดเข้าใจผิดคิดว่าเป็นของเล่น นายฉัตรมงคล สุวรรณเศรษฐ์ เจ้าหน้าที่บรรเทาสาธารณภัยจังหวัดอุทัยธานี พร้อมด้วยมารดาของ ด.ญ.กัญญาภัทร อายุเพียง 2 เดือน ผู้เสียชีวิตจากการถูกสุนัขพันธุ์พิตบูลกัด รวมถึงญาติ เดินทางไปรับศพที่โรงพยาบาลหนองฉาง จ.อุทัยธานี ก่อนนำร่างส่งชันสูตร หาสาเหตุอย่างละเอียดอีกครั้งที่โรงพยาบาลสวรรค์ประชารักษ์ จ.นครสวรรค์ ทั้งนี้ เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงเวลา 15.00 น. วานนี้ (16 ก.ย.) ที่โรงรถของบ้านหลังหนึ่ง พื้นที่ หมู่ 15 บ้านโรงสีใหม่ ต.ทุ่งโพ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี โดยเมื่อเจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบพบร่างเด็กน้อย อยู่บริเวณรางระบายน้ำ เจ้าของบ้านนำร่างเด็ก ส่งโรงพยาบาลไปก่อนหน้านี้ แต่เสียชีวิตในเวลาต่อมา โดยที่เกิดเหตุ ยังพบคราบเลือดและร่องรอยลากยาวราว 6 เมตร ไปถึงรางระบายน้ำ นอกจากนี้ ยังพบรถเข็นเด็ก พร้อมของเล่น […]

ข่าวแนะนำ

ตำรวจเสริมกำลังบ้านหนองหญ้าแก้ว

สระแก้ว 18 ก.ย. – ตำรวจเสริมกำลังที่บ้านหนองหญ้าแก้ว หลังวานนี้ชาวกัมพูชาพยายามเข้ามาทำลายทรัพย์สิน รื้อลวดหนามในพื้นที่อธิปไตยไทย จนเจ้าหน้าที่ต้องผลักดันออกไป ที่วัดหนองหญ้าแก้ว ยังเป็นจุดพักของเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อเฝ้าติดตามสถานการณ์ว่าจะเกิดเหตุการณ์ชาวกัมพูชาพยามเข้ามารื้อลวดหนาม ซึ่งถือเป็นทรัพย์สินราชการในพื้นที่บริเวณอธิปไตยของไทยอีกหรือไม่ ซึ่งหากเป็นเช่นนั้นก็ต้องบังคับใช้กฎหมายมีการดำเนินการอย่างที่ปฏิบัติมาเมื่อวานนี้ตามหลักสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อม เพราะจากข้อมูลตามเพจ พบชาวกัมพูชาระดมมวลชนเพิ่ม ดังนั้น วันนี้นอกจากตำรวจในจังหวัดสระแก้วแล้ว ยังมีการเสริมกำลังตำรวจในพื้นที่ใกล้เคียงเข้ามาอีก 2 กองร้อย 340 คน ได้แก่ ตำรวจจากปราจีนบุรีและฉะเชิงเทรา อย่างไรก็ตาม สำหรับเหตุเมื่อวานนี้ ทางกองทัพบกย้ำว่าจุดปะทะพื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตไทย การที่ชาวกัมพูชาบุกรุกเข้ามาทำลายสิ่งของทางราชการ และก่อการจลาจลบนแผ่นดินไทย เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย จึงต้องถูกดำเนินการตามกระบวนการ และยืนยันการดำเนินการของฝ่ายไทยเป็นไปตามขั้นตอนตั้งแต่การเจรจา แจ้งเตือน และควบคุมการจลาจลตามหลักสากล โดยใช้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจร่วมกับฝ่ายปกครอง ที่สำคัญพบว่าทหารของกัมพูชาที่ร่วมในเหตุการณ์กลับไม่ห้ามปราม และมีท่าทีสนับสนุนการจลาจล ทั้งนี้ หลังเกิดเหตุการณ์ฝ่ายกัมพูชายังออกแถลงการณ์บิดเบือนข้อมูลทั้งหมดนี้แสดงถึงเจตนาของฝ่ายกัมพูชาในการใช้ประชาชนออกหน้ารุกล้ำดินแดนไทยและความไม่จริงใจในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ชายแดนตามข้อตกลงหยุดยิงย้อนแย้งกับภาพลักษณ์ที่รัฐบาลกัมพูชาพยายามสร้างต่อสังคมโลกว่าเป็นผู้แสวงหาสันติภาพ. -สำนักข่าวไทย

นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย

สภาหอการค้าไทย 18 ก.ย.-นายกฯ นั่งหัวโต๊ะ ร่วมถกสภาหอการค้าไทย ย้ำนำชื่อ ครม. ทูลเกล้าฯ แล้ว ลั่นลุยงานทันที หลังโปรดเกล้าฯ เผย “เอกนิติ” คัด รมช.คลัง มาเองกับมือ โวเร่งเศรษฐกิจไทยให้กลับมาเข้มแข็ง นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมหารือเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ระหว่างคณะรัฐบาล และคณะกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย โดยนายอนุทินกล่าวว่า มาวันนี้เพื่อพบกับทุกคน และมีว่าที่รัฐมนตรีที่ดูแลด้านเศรษฐกิจ ซึ่งทุกคนในที่นี้ไม่ใช่คนแปลกหน้าสำหรับตน เจอกันมานาน มีความสนิทสนมคุ้นเคย เคารพนับถือกันเป็นอย่างดี นายอนุทิน กล่าวว่า สิ่งที่มาวันนี้ เพื่อมาพบทุกท่านและนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจมาแนะนำให้รู้จัก เชื่อว่าหลายคนก็รู้จักกันดีอยู่แล้ว วันนี้ตั้งใจมารับฟังรายละเอียด และรับฟังข้อเสนอแนะจากสภาหอการค้าไทย รัฐบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นนี้เป็นรัฐบาลที่จะเน้นในการเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศไทย ให้มีความกระชับและเข้มแข็งขึ้นเร็วที่สุด ภายใต้ระยะเวลาที่มีอยู่ นายอนุทินยังแนะนำผู้ที่จะมาดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีของตนซึ่งได้ทูลเกล้าฯ ถวายรายชื่อไปแล้ว เมื่อมีการโปรดเกล้าฯ ก็จะเร่งแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา และสามารถบริหารราชการแผ่นดินได้ จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้แนะนำว่าที่คณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจให้ผู้ร่วมประชุมได้รู้จัก โดยในขณะที่แนะนำว่าที่รัฐมนตรี นายอนุทิน ได้กล่าวถึงนายวรภัค ธันยาวงษ์ ว่าที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ว่า เป็นคนฝีมือดี ซึ่งนายเอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาส […]

พายุในทะเลจีนใต้ ส่อแรงขึ้นเป็นโซนร้อน ทำฝนเพิ่มระยะนี้

กรุงเทพฯ 18 ก.ย.-กรมอุตุฯ เตือนพายุดีเปรสชันบริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีแนวโน้มทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุโซนร้อน แม้จะไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทยโดยตรง แต่ส่งผลให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านตอนกลางประเทศ ทำให้ไทยตอนบนมีฝนเพิ่มขึ้น และบางพื้นที่อาจมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ย้ำจะมีฝนตกต่อเนื่องถึงต้นเดือนตุลาคม นายสมควร ต้นจาน ผู้อำนวยการกองพยากรณ์อากาศเปิดเผยว่า พายุลูกดังกล่าวมีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.0 องศาเหนือ ลองจิจูด 120.0 องศาตะวันออก บริเวณประเทศฟิลิปปินส์ เคลื่อนลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้วในช่วงเช้าวันนี้ (18 ก.ย.) โดยมีความเร็วลมใกล้ศูนย์กลางประมาณ 55 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทิศเหนือค่อนตะวันตกเล็กน้อย ด้วยความเร็ว 15 กิโลเมตรต่อชั่วโมง คาดว่า จะขึ้นฝั่งประเทศจีนตอนใต้ในช่วงวันที่ 19–20 กันยายน 2568 ทั้งนี้แม้พายุไม่ได้เข้าไทยโดยตรง แต่จากอิทธิพลทางอ้อมของพายุ จะดันให้ร่องมรสุมเลื่อนขึ้นพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบมีมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่ของประเทศไทย โดยเฉพาะภาคตะวันออกและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ต้องเฝ้าระวังฝนตกหนักถึงหนักมากในช่วงวันที่ 18–25 กันยายนนี้ พื้นที่ที่มีแนวโน้มฝนตกสะสมในระดับเสี่ยง ได้แก่ จังหวัดอำนาจเจริญ อุบลราชธานี จันทบุรี และตราด ซึ่งอาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลากในพื้นที่ลาดเชิงเขา ใกล้ทางน้ำไหลผ่าน […]

โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ

กทม. 18 ก.ย.-โผ ครม. “อนุทิน” ลงตัว ไม่ถูกตีกลับ ขณะ “นายกฯ หนู” ยังนั่งดินเนอร์อาหารอีสานอย่างสบายใจ ท่ามกลางข่าวลือ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันที่ 17 ก.ย. มีกระแสข่าวลือว่ากระบวนการทูลเกล้าฯ รายชื่อคณะรัฐมนตรี ของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี มีปัญหา ถูกตีกลับ เนื่องจากพบรายชื่อว่าที่รัฐมนตรีบางคน ติดปัญหาคุณสมบัตินั้น ล่าสุด แหล่งข่าว ยืนยันว่า รายชื่อคณะรัฐมนตรี ที่นำทูลเกล้าฯไปนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่ย่างใด ทุกอย่างลงตัวเรียบร้อยตั้งแต่ช่วงเย็นวันที่ 16 ก.ย.ที่ผ่านมาแล้ว โดยเรื่องคุณสมบัติ ได้ผ่านการตรวจสอบจากสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกามาแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า ในช่วง ค่ำวันนี้ (17 ก.ย.) ปรากฏภาพ นายอนุทิน นั่งรับประทานอาหารอีสานอย่างสบายใจ ที่ร้านอาหารแห่งหนึ่งกับคนใกล้ชิด ท่ามกลางข่าวลือที่เกิดขึ้น.-319.-สำนักข่าวไทย