แจ้ง 2 ข้อหา หนุ่มวัย 18 ฆ่าแฟนสาวทิ้งศพอำพรางใต้ทางด่วน

6 มิ.ย. – พบประวัติหนุ่มวัย 18 มือฆ่าปาดคอแฟนสาวทิ้งศพอำพรางใต้ทางด่วนอุดรรัถยา ต้องคดีพรากผู้เยาว์-ป่วยจิตเวช เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังอำพรางศพ ด้านแม่ผู้เสียชีวิตหัวใจสลาย รู้ข่าวลูกสาวถูกฆ่าโหด เผยลูกสาวเป็นเด็กกตัญญู ทำงานส่งตัวเองเรียน


วงจรปิดเผยนาทีนายธนากรณ์ อายุ 18 ปี กำลังขี่รถจักรยานยนต์ขนศพแฟนสาวมาทิ้งอำพรางใต้ทางด่วนอุดรรัถยา ต.บางพูน อ.เมือง จ.ปทุมธานี จากนั้นวงจรปิดอีกมุมจับภาพนายธนากรณ์ขี่รถไปถึงหมู่บ้านหลังหนึ่งใน ซ.พหลโยธิน 54/1 แขวงสายไหม เขตสายไหม ทันทีที่ตำรวจได้รับเบาะแสจึงเดินทางไปที่บ้านของผู้ก่อเหตุ ทราบว่าพักอยู่กับครอบครัว แต่จังหวะตำรวจนำกำลังเข้าไปที่บ้าน ปรากฏว่าผู้ก่อเหตุพยายามกินยาหวังฆ่าตัวตายหนีความผิด แต่ครอบครัวมาพบก่อนจึงรีบให้ตำรวจประสานกู้ชีพช่วยพาตัวนำไปส่งโรงพยาบาล ขณะที่ตำรวจได้อายัดตัวทันที

การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องมาจากมีชาวบ้านไปพบศพนางสาววรัญญา อายุ 18 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 1 สภาพเปลือยห่อด้วยผ้าห่ม มัดด้วยเข็มขัดนักศึกษามหาวิทยาลัย ที่ศพพบบาดแผลถูกปาดด้วยของมีคมที่ลำคอจนหลอดลมขาด ข้อมือทั้งสองข้างถูกตัดขาด แต่ตรวจสอบแล้วไม่พบชิ้นส่วนมือที่ถูกตัดไปในที่เกิดเหตุ นอกจากนี้ที่รักแร้ซ้ายหนีบดัมเบลสีฟ้า น้ำหนัก 3 กิโลกรัม ที่ขามีลูกตุ้มถ่วงน้ำหนักสีเขียว น้ำหนัก 2 กิโลกรัม วางอยู่ เบื้องต้นคาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 6-8 ชั่วโมง เจ้าหน้าที่สันนิษฐานว่าคนร้ายอาจตั้งใจนำศพไปทิ้งน้ำ แต่ระหว่างทางเปลี่ยนใจนำศพมาทิ้งอำพรางใต้ทางด่วน


นายทองแดง เจ้าของอู่ที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุเห็นผู้ก่อเหตุขี่รถจักรยานยนต์มาจอดและกำลังใช้หญ้าปกคลุมอะไรบางอย่าง ก่อนเดินไปหยิบถุงขยะในถังขยะฝั่งตรงข้ามมาเทใส่บนหญ้าที่ปกคลุมไว้ และขี่รถออกไป แต่ไม่นานก็กลับมาอีกครั้ง ตนจึงตะโกนถามไปว่า “เอาอะไรมาทิ้ง มึงมาเก็บไปเลย ไม่งั้นจะแจ้งตำรวจ” ด้านผู้ก่อเหตุตอบว่า “เอาของรักมาทิ้ง” และรีบขี่รถออกไปทันที

“หนุ่ม 18 ฆ่าแฟนสาว” พบประวัติต้องคดี-ป่วยจิตเวช
ต่อมา พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 แถลงหลังการจับกุมนายธนากรณ์ ว่าผู้ต้องหากับแฟนสาวคบหากันมานานกว่า 3 ปี เรียนอยู่ที่เดียวกัน โดยวันเกิดเหตุทั้ง 2 คน อาศัยอยู่ในบ้านร่วมกับพี่ชายและพี่สะใภ้ ต่อมาเวลา 02.00 น. มีการทะเลาะวิวาทกัน หลังจากนั้นก็เงียบไป ซึ่งคนในบ้านไม่ทราบว่ามีการฆาตกรรมและใช้มีดหั่นมือของผู้เสียชีวิตภายในห้องน้ำ ก่อนนำศพไปทิ้งอำพราง ส่วนสาเหตุยังไม่สามารถระบุได้ชัดเจน ต้องสอบปากคำผู้ก่อเหตุอีกครั้ง โดยจากการสอบปากคำพี่ชายของผู้ก่อเหตุ ระบุว่าทั้งคู่ทะเลาะกันบ่อยครั้ง แต่ไม่ถึงขั้นลงมือใช้ความรุนแรง

เบื้องต้นแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา และปิดบังอำพรางศพ นอกจากนี้พบว่าผู้ก่อเหตุมีประวัติคดีพรากผู้เยาว์ ซึ่งเป็น ด.ญ.วัย 13 และเป็นรุ่นน้องของผู้ตาย เมื่อวันที่ 30 ธ.ค. 65 มีการซื้อขายโทรศัพท์กับผู้ตายและผู้ก่อเหตุ แต่เด็กไม่มีเงินจ่าย ผู้ก่อเหตุจึงชกหน้า บีบคอ ทุ่มลงพื้นจนสลลบ หลังจากรู้สึกตัว ผู้ก่อเหตุลากตัวเด็กไปกระทำชำเรา และมีประวัติการรักษาอาการจิตเวชมาราว 1 ปี


ด้านพี่สาวของผู้เสียชีวิต เดินทางมาที่สถานีตำรวจภูธรปากคลองรังสิต ให้ข้อมูลว่า น้องสาวคบหากับผู้ต้องหามาประมาณ 1 ปีเศษ เคยมีปากเสียงเรื่องหึงหวงกัน แต่ไม่ทราบว่ารุนแรงขนาดนี้

แม่หัวใจสลาย รู้ข่าวลูกสาวถูกฆ่าโหด
ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเกิดของผู้เสียชีวิต ที่ จ.อุตรดิตถ์ พบแม่กับยายของผู้เสียชีวิต ร้องไห้แทบขาดใจ พูดทั้งน้ำตาว่าหัวใจแม่แทบสลาย ลูกสาวเป็นเด็กกตัญญู ทำงานส่งตัวเองเรียน และยังเก็บออมส่งเงินมาให้แม่และน้องทุกๆ เดือน จะมากจะน้อยแต่ไม่เคยขาด ลูกสาวเป็นเด็กดีและหน้าตาดี ขยันทำมาหาเก็บตั้งแต่เด็ก เพราะเขารู้ว่าแม่ทำงานหนัก เลี้ยงลูก 3 คน เขาเป็นคนกลาง กำลังจะเดินตามความฝันสอบเข้ามหาวิทยาลัย ส่วนผู้ก่อเหตุเคยมาที่บ้านครั้งหนึ่ง พูดจาดี ไม่มีท่าทีจิตใจโหดเหี้ยม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

Taiwanese actress Barbie Hsu, who died of influenza at 48 sepia

“ซันไช่” นางเอกจาก F4 ซีรีส์ดังไต้หวันเสียชีวิตแล้ว

ไทเป 3 ก.พ.- ต้าเอส หรือที่ผู้ชมรู้จักในบทบาท “ซันไช่” นางเอกจากเรื่องรักใสใส หัวใจสี่ดวง (Meteor Garden) ซีรีส์ดังของไต้หวันในช่วงปี 2544 เสียชีวิตในวัย 48 ปี เพราะอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสหรือบาร์บี สวี มีชื่อจริงว่า สวี ซีหยวน เป็นที่รู้จักไปทั่วเอเชียจากซีรีส์ดังที่คนมักเรียกกันสั้น ๆ เอฟ 4 (F4) มีข่าวลือแพร่สะพัดในโลกออนไลน์เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ว่า เธอเสียชีวิตแล้ว และยิ่งเป็นกระแสหนักขึ้นไปอีกเมื่อนายหวัง เสี่ยวเฟย อดีตสามีที่เป็นนักธุรกิจได้เปลี่ยนรูปโพรไฟล์ในสื่อสังคมออนไลน์เป็นสีดำ และในเช้าวันนี้น้องสาวของเธอ สวี ซีตี้ ที่รู้จักในวงการบันเทิงว่า เสี่ยวเอส ยืนยันด้วยการส่งถ้อยแถลงถึงสถานีโทรทัศน์ทีวีบีเอส นิวส์ (TVBS News) ว่าพี่สาวของเธอถึงแก่กรรมเพราะปอดอักเสบที่เป็นอาการแทรกซ้อนจากไข้หวัดใหญ่ ต้าเอสเกิดเมื่อวันที่ 6 ตุลาคม 2519 เริ่มเข้าวงการในฐานะศิลปินคู่กับเสี่ยวเอสในชื่อวง เอสโอเอส  “S.O.S” เมื่อปี 2537 เธอมีลูก 2 คนกับอดีตสามี […]

“เต้ มงคลกิตติ์” หอบกล้องวงจรปิด 34 จุดคดี “แตงโม” มอบดีเอสไอ

นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ เข้าพบ พ.ต.ต.ณฐพล ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม ในฐานะหัวหน้าคณะพนักงานสืบสวนข้อเท็จจริงคดีการเสียชีวิตของ น.ส.ภัทรธิดา (นิดา) พัชรวีระพงษ์ หรือแตงโม เพื่อมอบหลักฐานและให้ข้อมูลดีเอสไอ หลังรับเป็นเลขสืบสวนที่ 20/2568

“อนุทิน” ยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวค่าสลาก

“อนุทิน” บอกยังไม่รู้ ปม “โจ้มหาเฮง” แจ้งความเอาผิดคุณนายผู้ว่าฯ เบี้ยวเงินค่าสลาก ชี้หากจริง ผู้ว่าฯ เหนื่อยแน่

ข่าวแนะนำ

สมช.เคาะพรุ่งนี้ 9 โมง! ตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุด

สมช.เคาะตัดไฟฟ้า-อินเทอร์เน็ต-น้ำมัน 5 จุดในเมียนมา โยงแก๊งคอลเซ็นเตอร์ พรุ่งนี้ 09.00 น. เชื่อ เข้าใจหลังมีการหารือแจ้งให้เตรียมความพร้อมแล้ว ย้ำ ไม่แทรกแซงเรื่องภายใน

ผบช.ภ.2 สั่งย้าย ผกก.สภ.องครักษ์ เซ่นปม จนท.บุกทลายบ่อน

รมว.มหาดไทย ชื่นชมชุดปฏิบัติการพิเศษกรมการปกครอง บุกทลายบ่อนนครนายก ขณะที่ ผบช.ภ.2 สั่งย้ายผู้กำกับการ สภ.องครักษ์ เซ่นปมบ่อน พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง ใครบกพร่อง-รับผลประโยชน์ ยืนยันเอาผิดไม่มีละเว้น

ตร.เชื่อชิงทอง 113 บาท ก่อเหตุคนเดียว วางแผนมาอย่างดี

เหตุคนร้ายชิงทองในร้านทองกลางห้างดัง ย่านลำลูกกา จ.ปทุมธานี ได้ทองรูปพรรณ 113 บาท มูลค่ากว่า 5 ล้านบาท ตำรวจเชื่อคนร้ายก่อเหตุเพียงคนเดียว และวางแผนมาเป็นอย่างดี