29 พ.ค. – พบเบาะแสผู้ต้องสงสัยฆ่าหนุ่มใหญ่หมกศพในคอนโดฯ ย่านงามวงศ์วาน จ.นนทบุรี สวมเสื้อฮู้ด-แว่นตา เดินอยู่ริมชายหาดพัทยา ตำรวจกระจายกำลังตามล่าแต่ยังไม่พบตัว ขณะที่พี่ชายเชื่อวิญญาณน้องชายจะตามติดคนร้าย และขอให้ดลใจตำรวจตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
ความคืบหน้าคดีพบศพนายไพศาล อายุ 54 ปี พ่อค้าเสื้อผ้ามือสอง ภายในห้องพักคอนโดฯ ชั้น 6 พื้นที่ จ.นนทบุรี สภาพศพสวมเสื้อยืด ใส่กางเกงขาสั้น มีบาดแผลถูกแทงตามร่างกาย โดยคดีนี้พบผู้ต้องสงสัยเป็นหนุ่มสวมฮู้ดดำที่อยู่กับผู้ตายเป็นคนสุดท้าย ซึ่งมีหลักฐานสำคัญเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดจับภาพชายสวมฮู้ดสีดำ ขึ้นลิฟต์ไปพร้อมกับผู้ตาย ก่อนพบเป็นศพเมื่อเวลา 22.00 น. วันที่ 26 พ.ค.ที่ผ่านมา
หลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สอบปากคำพยานผู้เกี่ยวข้อง กระทั่งวานนี้ (28 พ.ค.) พบพยานคนสำคัญ 2 คน เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน โดย พ.ต.อ.จาตุรนต์ อนุรักษ์บัณฑิต ผู้กำกับ สภ.เมืองนนทบุรี ให้ข้อมูลว่าผู้ต้องสงสัยนำโทรศัพท์มือถือของผู้ตายไปสแกน QR Code ซื้อทองคำที่ร้านทองแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าว เมื่อวันที่ 25 พ.ค. เป็นเงินกว่า 800,000 บาท และวานนี้นำโทรศัพท์ของผู้ตาย 2 เครื่อง ไปขายที่ห้างฯ ย่านปทุมวัน โดยคนร้ายได้สวมบัตรประชาชนของผู้ตาย และอ้างกับเจ้าของร้านทั้ง 2 แห่งว่าไปศัลยกรรมมา จึงทำให้หน้าตาตัวจริงไม่เหมือนกับรูปในบัตร
คนขับแท็กซี่รับผู้ต้องสงสัยเข้าให้ปากคำ
ที่ สภ.เมืองนนทบุรี วันนี้ นายประสงค์ อายุ 68 ปี คนขับรถแท็กซี่เขียวเหลือง เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน พร้อมระบุเมื่อวันที่ 20 พ.ค.ที่ผ่านมา เวลาประมาณ 3-4 ทุ่ม ผู้ต้องสงสัยสวมฮู้ดดำได้โบกเรียกรถตนที่หน้าห้างแห่งหนึ่งย่านรัชโยธิน ให้ไปส่งที่หน้าห้างแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน ระหว่างที่นั่งรถโดยสารมาผู้ต้องสงสัยรายนี้ไม่ได้มีท่าทีพิรุธ แต่นั่งสวมฮู้ดคลุมศีรษะไว้ตลอดเวลา แต่ไม่ได้สวมแว่นตา และไม่เห็นว่ามีกระเป๋าสะพายติดตัว นอกจากในมือจะมีโทรศัพท์ 2 เครื่อง และมีเสียงข้อความดังตลอดเวลา แต่ไม่เห็นมีการยกโทรศัพท์ขึ้นมาคุยอะไรกับใคร กระทั่งรถวิ่งมาถึงใต้สะพานลอย ฝั่งตรงข้ามห้างแห่งหนึ่งย่านงามวงศ์วาน มีค่าโดยสาร 90 บาท
ชายคนนี้ยื่นแบงก์ร้อยมาให้ตนก็ทอนเงินกลับไป 10 บาท จากนั้นลงรถและเดินข้ามสะพานลอยไป โดยระหว่างทางไม่ได้มีการสนทนาพูดคุยอะไรกัน ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวได้เปิดภาพผู้ต้องสงสัยจากโทรศัพท์มือถือให้ดู คนขับแท็กซี่ ยืนยันว่าเป็นคนเดียวกันกับที่เรียกรถแท็กซี่ตนจริง
พี่ชายเชื่อวิญญาณน้องชายจะดลใจให้ตำรวจตามจับคนร้ายได้
นายฉัตรชัย อายุ 55 ปี พี่ชายของผู้เสียชีวิต เข้าพบพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนนทบุรี เพื่อให้ปากคำเพิ่มเติม โดยเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวถึงสาเหตุที่ยังไม่ไปรับร่างน้องชายมาทำพิธีทางศาสนา เนื่องจากครอบครัวรอให้ตำรวจจับกุมตัวคนร้ายให้ได้ก่อน ส่วนตัวเชื่อมั่นเจ้าหน้าที่จะตามจับคนร้ายได้อีกไม่กี่วัน และคิดว่าวิญญาณน้องชายจะติดตามคนร้ายไปตลอดเวลา เพราะมีคนเห็นเขาจริงๆ ทางครอบครัวก็เชื่อและทำบุญให้เขาทุกวัน และลึกๆ ในใจยังเชื่อว่าวิญญาณของน้องชายจะช่วยดลใจให้ตำรวจตามจับคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้
พบเบาะแสผู้ต้องสงสัยเดินอยู่ริมชายหาดพัทยา
ล่าสุดชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดนนทบุรี ประสานชุดสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ลงพื้นที่หาแบะแสผู้ต้องสงสัย หลังพบข้อมูลนั่งรถหลบหนีมาที่พัทยา เบื้องต้นมีการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าเมื่อเวลา 21.22 น. วันที่ 27 พ.ค. พบผู้ต้องสงสัยสวมเสื้อคลุมมีฮู้ดสีน้ำตาล สวมแว่นตา เดินอยู่บริเวณชายหาดพัทยาและได้เข้าไปพักที่โรงแรมแห่งหนึ่ง ซอย 11 ถนนเลียบชายหาด ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่ได้ติดตามไปที่โรงแรมดังกล่าวพบว่าเช็กเอาออกไปตอนเที่ยง วันที่ 28 พ.ค.ที่ผ่านมา ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการไล่ตรวจกล้องวงจรปิดหาเบาะแสเพิ่มเติม.-สำนักข่าวไทย