ตร.ทางหลวง ไล่ล่าแก๊งขนแรงงานเมียนมา ซิ่งกระบะ 5 คัน หนีข้ามจังหวัด

23 พ.ค. – ตำรวจทางหลวงไล่ล่าแก๊งขนแรงงานเมียนมา ซิ่งรถกระบะ 5 คัน แหกจุดสกัดหนีข้ามจังหวัด สามารถตามจับได้ 2 คัน ส่วนอีก 3 คัน ขับหลบหนีไปได้ คนขับรถสารภาพได้ค่าจ้างเที่ยวละ 5,000 บาท


ตำรวจทางหลวงนำกำลังตั้งจุดสกัดบริเวณริมถนน 4066 พื้นที่ อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี หลังรับแจ้งว่าจะมีแก๊งลักลอบขนแรงงานผิดกฎหมาย 5 คัน จะขนแรงงานนำไปส่ง อ.ตากใบ จ.นราธิวาส เพื่อลักลอบข้ามแดนเข้าไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย

ขณะตั้งด่านมีรถกระบะต้องสงสัย 5 คัน ขับผ่านมา เจ้าหน้าที่จึงเรียกตรวจค้น ปรากฏว่าทั้ง 5 คัน ฝ่าด่านตรวจเร่งเครื่องยนต์หลบหนี ตำรวจจึงขับรถติดตามไล่ล่าอย่างกระชั้นชิด แต่รถกระบะทั้ง 5 คัน ขับหลบหนีไปคนละทาง มีบางช่วงที่บางคันเลี้ยวเข้าเส้นทางสายสอง และเกือบชนตำรวจทางหลวงที่ลงจากรถถือปืนไปขวางเพื่อให้หยุดรถ แต่ยังไม่ยอมหยุด ยังคงขับหนีสุดชีวิต


หลังจากขับไล่ล่ากันไปเกือบ 30 กิโลเมตร ไปจนถึงพื้นที่ ต.ตะโล๊ะหะลอ อ.รามัน จ.ยะลา ตำรวจทางหลวงสามารถสกัดจับรถกระบะได้ 2 คัน เป็นรถกระบะยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีขาว ทะเบียนสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นรถนำทาง มีนายมูฮัมหมัด อายุ 20 ปี เป็นคนขับ และรถกระบะยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีดำ ทะเบียนสงขลา มีนายอัสฮา อายุ 38 ปี เป็นคนขับ ภายในรถพบแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมานั่งอัดกันมา 11 คน เป็นชาย 9 คน หญิง 2 คน

จากการสอบสวนคนขับรถกระบะทั้ง 2 คันที่ถูกจับกุมได้ บอกว่าไปรับชาวเมียนมาหลบหนีเข้าเมืองมาจากป่าละเมาะใกล้นิคมอุตสาหกรรมฉลุง อ.บางกล่ำ จ.สงขลา เพื่อนำไปส่งที่ อ.ตากใบ จ.นราธิวาส โดยได้ค่าจ้างเที่ยวละ 5,000 บาท

ส่วนชาวเมียนมาที่ถูกจับกุมให้การว่า จ่ายเงินให้นายหน้าชาวเมียนมา 35,000 บาท จากนั้นนายหน้าพาโดยสารรถยนต์สลับกับเดินเท้าเข้ามาทางช่องทางธรรมชาติข้ามมายังประเทศไทย และเดินทางต่อมากับรถยนต์คันละประมาณ 11-12 คน โดยจะแวะพักตามจุดต่างๆ เป็นระยะ เพื่อเช็กเส้นทางว่าพื้นที่ไหนมีการตั้งจุดตรวจบ้าง ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 วัน ก่อนจะมาถูกจับกุม


เบื้องต้นเจ้าหน้าที่คุมตัวทั้งหมดส่งพนักงานสาอบสวน สภ.จะก๊วะ ดำเนินคดี โดยคนไทย 2 คนที่ขับรถถูกแจ้งข้อหาร่วมกับพวกที่หลบหนีให้ที่พักพิง ซ่อนเร้น ให้การช่วยเหลือด้วยประการใดๆ แก่คนต่างด้าวที่เดินทางเข้ามาโดยผิดกฎหมาย เพื่อให้พ้นจากการจับกุมของพนักงานเจ้าหน้าที่

ส่วนแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาทั้ง11 คน ถูกแจ้งข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักร โดยไม่ได้รับอนุญาต

ส่วนรถอีก 3 คัน ที่หลบหนีไป เป็นรถกระบะยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีดำ ทะเบียนปัตตา รถกระบะยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา ทะเบียนปัตตานี และรถกระบะยี่ห้อ ISUZU รุ่น D-MAX สีเทา ทะเบียนกรุงเทพมหานคร เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะตรวจสอบเจ้าของกรรมสิทธิ์หรือผู้ครอบครองและเรียกตัวมาสอบสวนว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการขนแรงงานเถื่อนด้วยหรือไม่.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”