ภูเก็ต 19 พ.ค.-ตำรวจภูธรภาค 8 จับกุมชายปากีสถาน พร้อมภรรยาชาวไทย ลวงชายอินเดียมาฆ่าแล้วทิ้งศพริมถนน พุ่งเป้าปมขัดแย้งธุรกิจ โดยมีหลักฐานสำคัญจากวงจรปิดที่จับภาพเหตุการณ์ ขัดแย้งกับคำให้การของผู้ต้องหา
วงจรปิดจับภาพหญิงสาว ลงจากรถเก๋ง ข้ามถนนไปที่ร้านเสริมสวยฝั่งตรงข้าม บริเวณหาดกะตะ จ.ภูเก็ต เมื่อช่วงเย็นวันที่ 14 พ.ค. ก่อนรถออกไป และกลับมารับหญิงสาวในช่วงค่ำ คราวนี้พบว่าขึ้นรถไปพร้อมกัน 3 คน ชาย 2 หญิง 1 โดยผู้หญิงเป็นคนขับรถ ส่วนชายเสือสีเหลือง คือชายอินเดียที่ถูกฆ่า และใส่เสื้อตัวเดียวกับที่พบเป็นศพถูกยิงด้วยอาวธุปืน บริเวณแก้มซ้าย และศีรษะด้านหลัง ถูกทิ้งไว้ริมถนนสายบ้านในหยง-ท่าอยู่ พื้นที่ ม.3 บ้านนา ต.หล่อยูง อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา เมื่อ 15 พ.ค.ที่ผ่านมา และนี่กลายเป็นหลักฐานสำคัญในการจับกุมผู้ก่อเหตุทั้ง 2 คน
ผู้เสียชีวิตคือ MR.POULOSE VARGHESE สัญชาติอินเดีย เดินทางเข้ามาในประเทศโทย เมื่อวันที่ 19 เม.ย.567 โดยเดินทางเขามาพร้อมกับ MR.YASIR ASHFAQ อายุ 32 ปี สัญชาติปากีสถาน ผู้ต้องหาที่ 1 และผู้เสียชีวิตแจ้งว่าพักในคอนโดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองภูเก็ต ส่วนหญิงสาวคือ นางคาดิจายาซิร์ อัซฟาก อายุ 39 ปี สัญชาติ ไทย ผู้ต้องหาที่ 2 เป็นภรรยา ของผู้ต้องหาที่ 1
จากการสืบสวนทราบว่า ผู้เสียชีวิตและผู้ต้องหาที่ 1 เป็นหุ้นส่วนทำธุรกิจร่วมกันที่ประเทศดูไบ จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 พ.ค.2567 ผู้เสียชีวิต ได้ร่วมทุนถือหุ้น ห้างหุ้นส่วน เทอร์กิด จำกัด ซึ่งเป็นธุรกิจนำเที่ยวของ นางคาดิจายาซิร์ ภรรยาของ ผู้ต้องหาที่ 1 จนกระทั่งก่อนเกิดเหตุเชื่อว่า ผู้ตายกับผู้ต้องหาทั้ง 2 คน มีปัญหาขัดแย้งเกี่ยวกับธุรกิจ ผู้ต้องหาทั้งสองจึงได้วางแผน จัดเตรียมอาวุธปืน และลวงผู้เสียชีวิตพาโดยสารรถยนต์ของผู้ต้องหามายังที่เกิดเหตุ ระหว่างทางผู้ตายซึ่งนั่งข้างคนขับได้มีปากเสียงกับตัวสามี ที่นั่งอยู่เบาะหลัง จึงบอกให้ ภรรยา ขับรถไปจนถึงที่เกิดเหตุ แล้วใช้อาวุธปืนยิงจนเสียชีวิต ก่อนลากศพลงไปทิ้งไว้บริเวณที่เกิดเหตุและหลบหนีไปที่บ้านพักในพื้นที่ ต.โคกกลอย จ.พังงา เพื่อล้างรถทำลายหลักฐาน และนำอาวุธปืนไปซ่อนไว้ที่บ้านหลังนั้น จากนั้นได้นำทรัพย์สินส่วนตัวของผู้ตายไปเก็บไว้ที่คอนโดในพื้นที่อำเภอเมืองภูเก็ต
ตำรวจแกะรออยจากกล้องวงจรปิดพบรถยนต์ที่ผู้ต้องหาใช้ก่อเหตุ จึงขออนุมัติศาลออกหมายค้นบ้านพักของผู้ต้องหาทั้ง 2 ใน ต.โคกกลอย อ.ตะกั่วทุ่ง จ.พังงา พบอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ รองเท้าผู้เสียชีวิต และเสื้อผ้าที่ผู้ต้องหาสวมใส่ขณะเกิดเหตุ ต่อมาได้เข้าตรวจค้นห้องพักที่คอนโดแห่งหนึ่งในอำเภอเมืองภูเก็ต ซึ่งผู้ต้องหาได้เช่าพักอาศัย พบทรัพย์สินของผู้ตายที่ผู้ต้องหาทั้งสองนำไปเก็บไว้ และพบรถยนต์โตโยต้า วีออส สีขาว คันที่ใช้ก่อเหตุ มีร่องรอยกระสุนปืนและคราบเลือดของผู้เสียชีวิต จึงประสานพิสูจน์หลักฐานพังงาและพิสูจน์หลักฐานภูเก็ต เข้าเก็บวัตถุพยาน จนมีพยานหลักฐานเชื่อว่าผู้ต้องหาทั้งสองร่วมกันก่อเหตุ จึงขอศาลจังหวัดพังงาออกหมายจับผู้ต้องหาทั้งสองในความผิดฐาน ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต
เบื้องต้น ผู้ต้องหารับสารภาพและพาเจ้าหน้าที่ไปเก็บทรัพย์สินของผู้ตาย สำหรับจุดที่ทำให้เจ้าหน้าที่เชื่อว่าผู้ต้องหาเป็นคนก่อเหตุ คือพิสูจน์คำให้การที่บอกว่าแยกกับผู้ตายที่หาดกะตะนั้นไม่จริง แต่ทั้งหมดขึ้นรถไปด้วยกัน และผู้ตายก็สวมชุดเดียวกับที่เป็นศพ พร้อมเตรียมสอบเชิงลึกมูลเหตุจูงใจและธุรกิจที่ทำร่วมกัน.-สำนักข่าวไทย