ภูเก็ต 16 พ.ค. – หลังมีข่าวว่ารัฐบาลเตรียมถอดกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด ทำให้มีหลายฝ่ายออกมาแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้ แน่นอนว่ามีทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและเห็นต่าง วันนี้ทีมข่าวสำนักข่าวไทยลงพื้นที่ จ.ภูเก็ต ไปตรวจสอบร้านกัญชา ซึ่งภูเก็ตมีการเปิดขายกันเป็นจำนวนมาก ติดอันดับต้นๆ ของประเทศ
ทันทีที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข ลงวันที่ 11 พฤศจิกายน 65 ถอดกัญชาออกจากการเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่ 5 และให้ผู้ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 46 สามารถทำการศึกษาวิจัย ส่งออกและจำหน่ายกัญชาได้อย่างถูกกฎหมาย นับจากนั้นทั่วเกาะภูเก็ตเริ่มคึกคักไปด้วยร้านกัญชา โดยเฉพาะตามแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง อย่างหาดป่าตอง กะรน กมลา ฉลอง เชิงทะเล รวมถึงย่านเมืองเก่าภูเก็ต บางแห่งร้านเปิดติดๆ กัน บางแห่งห่างกันเพียงยี่สิบสามสิบเมตร เรียกได้ว่าออกร้านนี้ปุ๊บก็เข้าอีกร้านหนึ่งต่อได้ทันที
ปัจจุบันภูเก็ตมีร้านกัญชาได้รับใบอนุญาตเปิดถูกกฎหมายรวม 1,623 ร้าน ในพื้นที่ อ.ถลาง 237 ร้าน กะทู้ 570 ร้าน และเมือง 816 ร้าน โดยแต่ละร้านจะได้รับอนุญาตครั้งละ 3 ปี แลกกับการจ่ายค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเพียง 3,000 บาท สามารถยื่นขอผ่านออนไลน์ได้อย่างง่ายดาย ทำให้ร้านกัญชาในภูเก็ตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว แต่ถึงกระนั้น นายแพทย์ สสจ.ภูเก็ต บอกว่ายังมีร้านกัญชาที่แอบลักลอบเปิดแบบไม่มีอนุญาต
ส่วนร้านที่ได้รับใบอนุญาตมีแนวโน้มกระทำความผิดมากขึ้น โดยเฉพาะการฝ่าฝืนข้อปฏิบัติที่ห้ามไม่ให้มีการสูบในร้าน และโฆษณาเชิญชวน ซึ่ง สสจ.ภูเก็ต ได้เข้าจับกุมร่วมกับตำรวจ พร้อมสั่งพักใบอนุญาตเป็นเวลา 30 วัน ไปแล้ว 26 ร้าน นอกจากนี้ยอมรับว่ายังมีเรื่องร้องเรียนเข้ามาเป็นระยะ ประเด็นชาวต่างชาติที่แอบเปิดธุรกิจร้านกัญชาเอง โดยใช้คนไทยเป็นนอมีนี แต่เมื่อ สสจ. ไปตรวจสอบพบว่าเอกสารที่ยื่นมาถูกต้อง จึงไม่สามารถเอาผิดได้
เจ้าของร้านกัญชารายนี้ เล่าให้ฟังว่า เขาเป็นคนแรกๆ ในภูเก็ตที่ได้รับใบอนุญาตเปิดร้านกัญชาอย่างถูกกฎหมาย โดยทำเป็นธุรกิจครอบครัว เปิดเป็นร้านเล็กๆ อยู่ในตัวเมือง เน้นขายเฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติ ตั้งแต่ปลายปี 65 ถึงปีที่แล้ว ยอดขายดีมาก บางเดือนรายได้เหยียบแสน จึงเริ่มขยับขยายธุรกิจ แต่พอมาถึงปีนี้ยอดขายลบฮวบ อาจเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งจำนวนร้านกัญชาที่มีมากขึ้น และการที่มีต่างชาติ โดยฉพาะชาวรัสเซียบางกลุ่ม หันมาทำธุรกิจนี้ป้อนให้กับเพื่อนร่วมชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวในภูเก็ต ทำให้ร้านกัญชาของคนไทยยิ่งประสบปัญหา
ยิ่งทราบข่าวว่ารัฐบาลมีแนวคิดจะดึงกัญชากลับไปเป็นยาเสพติดให้โทษอีกครั้งยิ่งกังวล เพราะลงทุนไปมาก พร้อมเสนอทางออกว่ารัฐบาลควรเร่งออก พ.ร.บ.ควบคุมกัญชาที่ชัดเจน กำหนดช่วงเวลาเปิดปิดร้านกัญชา เพิ่มความเข้มข้นในการให้ใบอนุญาตประกอบธุรกิจกัญชามากกว่าการที่จะยกเลิกเลยในทันที เพราะจะสร้างความเสียหายมากกว่าเป็นผลดี
ขณะที่ประชาชนในภูเก็ตคนนี้เขาเห็นด้วยที่จะถอดกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด เพราะบอกว่าที่ผ่านมามีผู้ใช้กัญชาซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติสร้างความเดือดร้อนให้กับคนที่ไม่สูบ ทั้งการฝ่าฝืนสูบกัญชาในที่สาธารณะจนส่งกลิ่นรบกวน มิหนำซ้ำบางร้านยังลักลอบขายให้กับเยาวชน ซึ่งตัวเขาเชื่อว่านี่เป็นหนึ่งในต้นต่อที่นำไปสู่ปัญหาสังคมอื่นๆ
ไม่ว่ากัญชาจะถูกนำกลบไปเป็นยาเสพติดหรือหรือไม่ก็ตาม แต่หากมองในแง่ดี กัญชามีคุณค่าทางด้านการแพทย์ และสามารถช่วยชีวิตผู้ป่วยอีกจำนวนมากที่มีความจำเป็นต้องใช้ แต่หากนำไปใช้ผิดวิธีย่อมส่งผลเสียต่อสังคมเป็นวงกว้างเช่นกัน ดังนั้น รัฐบาลจึงตัองกำหนดยุทธศาสตร์เกี่ยวกับเรื่องนนี้ให้ถูกทาง และมีกฎหมายควบคุมที่ชัดเจน.-สำนักข่าวไทย