ฝนตกถนนลื่นกระบะชนรถพยาบาล ตาย 5

เชียงใหม่ 10 พ.ค.- รถพยาบาลนำหญิงท้องแก่ใกล้คลอด เดินทางเข้าตัวเมืองเชียงใหม่ แต่เกิดอุบัติเหตุชนกับกระบะ เสียชีวิต 5 ราย รวมหญิงใกล้คลอดที่เสียชีวิตพร้อมลูกในครรภ์


เจ้าหน้าที่กู้ภัยใช้อุปกรณ์ตัดถ่าง ช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และนำร่างผู้เสียชีวิต จากอุบัติเหตุรถชนกันระหว่างกระบะกับรถกู้ชีพโรงพยาบาลพร้าว บริเวณถนนสายเชียงใหม่ – พร้าว กิโลเมตรที่ 57 พื้นที่ตำบลโหล่งขอด อำเภอพร้าว จังหวัดเชียงใหม่ ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก

เบื้องต้น จากการตรวจสอบ บริเวณสถานที่เกิดเหตุ ทราบว่า รถกู้ชีพของโรงพยาบาลพร้าว นำผู้ป่วยเป็นหญิงใกล้คลอด เดินทางจากพื้นที่อำเภอพร้าว จะเข้ามาในตัวเมืองเชียงใหม่ ประกอบกับช่วงเวลาดังกล่าว มีฝนตกลงมาอย่างหนัก รถกระบะคู่กรณี ที่วิ่งมาจากเชียงใหม่มุ่งหน้าไปทางอำเภอพร้าว ได้พุ่งเข้าชนหน้ารถพยาบาลอย่างจัง


จากการตรวจสอบพบผู้บาดเจ็บทั้งหมด 10 คน เจ้าหน้าที่ ได้ช่วยเหลือนำตัวผู้บาดเจ็บทั้งหมด ไปรักษาโรงพยาบาลสันทราย และโรงพยาบาลใกล้เคียง จากนั้นพบว่า หญิงท้องแก่ใกล้คลอด ได้เสียชีวิตพร้อมกับลูก และคนที่อยู่ในรถยนต์กระบะเสียชีวิตอีก 3 คน รวมทั้งหมด 5 คน ส่วนที่เหลือ อีก 6 คนได้รับบาดเจ็บ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถสรุปสาเหตุที่แท้จริงได้ ในเบื้องต้นคาดว่าฝนตกถนนลื่น โดยต้องรอให้อาการของผู้บาดเจ็บดีขึ้นก่อน ถึงจะทำการสอบสวนหาสาเหตุที่แท้จริง เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป พร้อมฝากเตือนประชาชน ในการใช้รถใช้ถนน เส้นทางนี้ หากมีฝนตก ต้องระมัดระวัง ในการขับขี่

ล่าสุดเจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เดินทางไปตรวจสอบสภาพรถพยาบาลของโรงพยาบาลพร้าว ที่ถูกนำไปเก็บไว้ที่ สภ.โหล่งขอด อ.พร้าว หลังเกิดอุบัติเหตุถูกรถกระบะพุ่งชน บนถนนเชียงใหม่-พร้าว กิโลเมตรที่ 57 หมู่ 6 ต.โหล่งขอด อ.พร้าว จ.เชียงใหม่ เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (9 พ.ค.) ทำให้นางสาวภูษณิศา วัย 26 ปี หญิงท้องแก่ใกล้คลอดที่กำลังส่งต่อไปโรงพยาบาลสันทราย จ.เชียงใหม่ เสียชีวิตพร้อมลูกในท้อง และสามีของหญิงท้องแก่ รวมทั้งคนขับรถพยาบาลและพยาบาล บาดเจ็บรวม 3 คน ส่วนรถกระบะคู่กรณี คนขับพร้อมคนในรถเสียชีวิตรวม 5 คน บาดเจ็บอีก 3 คน

ทั้งนี้ จุดเกิดเหตุบริเวณกิโลเมตรที่ 57 ถนนเชียงใหม่-พร้าว พบว่าเป็นถนน 2 เลน เป็นทางขึ้นเขา-ลงเขา ซึ่งยังมีร่องรอยรถกระบะที่วิ่งจากในตัวเมืองเชียงใหม่ไป อ.พร้าว เป็นร่องรอยฝนตกถนนลื่นไถลข้ามเลน ก่อนพุ่งชนรถพยาบาลที่มุ่งหน้าไปส่งผู้ป่วยในเมืองเชียงใหม่ สิ่งของยังกระจัดจายเต็มร่องข้างถนน โดยถนนเส้นดังกล่าว ปกติต้องใช้ความเร็วสูง เพราะเป็นทางขึ้นเขาจึงต้องเร่งส่งเครื่องยนต์ ทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ นอกจากนี้ยังพบว่าบางคันเมื่อถึงจุดเกิดเหตุมีการขับตัดโค้งข้ามเลนด้วย แม้จะมีป้ายทางหลวงปักแจ้งเตือนให้ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง เพราะจุดดังกล่าวเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง ห่างไป 300 เมตร จากจุดเกิดเหตุ จะมีป้ายเตือนว่าโค้งอันตราย


สำหรับศพผู้เสียชีวิตทั้ง 4 ราย เจ้าหน้าที่ได้นำร่างส่งชันสูตร ที่โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ โดยศพของ น.ส.ภูษณิศา พร้อมลูกชายในท้อง ครอบครัวจะนำไปประกอบพิธีบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.ลำปาง

ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายประวิณอายุ 49 ปี น้องชายของนางแสงทองอายุ 56 ปี หนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บนั่งในแคปรถกระบะ บอกว่าวันนี้มาติดต่อเอกสารเดินเรื่องให้พี่สาว เพราะขณะนี้พี่สาวมีอาการโคม่า รักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู โรงพยาบาลนครพิงค์ แพทย์ห้ามเยี่ยม โดยก่อนเกิดเหตุทราบว่าพี่สาวออกจากหมู่บ้านมาพร้อมกับคนขับรถกระบะ โดยเป็นผู้โดยสารนั่งแคปด้านหลัง เพื่อไปติดต่อเดินเรื่องประกันสังคมในเมืองเชียงใหม่ แต่มาทราบข่าวอีกทีก็มาประสบอุบัติเหตุแล้ว ส่วนศพคนขับรถกระบะพร้อมญาติ ทางญาติจะนำศพมาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดป่าฮิ้น ต.บ้านโป่ง อ.พร้าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โค้งสุดท้ายเลือกตั้ง นายก อบจ.อุบลฯ เดือด ส่งท้ายปี

ใกล้เข้ามาทุกขณะสำหรับการเลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี วันอาทิตย์ที่ 22 ธันวาคมนี้ ซึ่งถือเป็นสนามเลือกตั้งท้องถิ่นขนาดใหญ่ส่งท้ายปีนี้ การแข่งขันดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครต่างเร่งหาเสียงกันอย่างเต็มที่ โดยมีผู้สมัคร 4 คน ลงชิงชัย ไปติดตามบรรยากาศโค้งสุดท้ายว่าใครจะเป็นผู้คว้าชัย

ทอ.ส่ง F-16 ขึ้นบินป้องน่านฟ้า หลังมีอากาศยานไม่ทราบฝ่าย เหนือชายแดนไทย-เมียนมา

กองทัพอากาศส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 ขึ้นบิน เพื่อพิสูจน์ฝ่ายและสกัดกั้นอากาศยานไม่ทราบฝ่าย บริเวณแนวชายแดนไทย-เมียนมา จ.ตาก

อุตุฯ เผยอีสาน-เหนือ อากาศหนาว กทม.อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย

กรมอุตุฯ เผยภาคอีสาน ภาคเหนือ มีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อุณหภูมิลดลงเล็กน้อย ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเย็น

lightened Christmas tree in front of U.S. Capitol

รู้จัก “ชัตดาวน์” ของสหรัฐและผลกระทบ

วอชิงตัน 20 ธ.ค.- หน่วยงานจำนวนมากของรัฐบาลสหรัฐเสี่ยงต้องปิดทำการชั่วคราว หรือที่เรียกว่า กัฟเวิร์นเมนต์ ชัตดาวน์ (government shutdown) หลังผ่านพ้นเที่ยงคืนวันนี้ (20 ธันวาคม) ตามเวลาสหรัฐ หากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ทันเวลา หลังจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณฉบับใหม่เมื่อวานนี้ สาเหตุที่เสี่ยงชัตดาวน์ ปกติแล้วรัฐสภาสหรัฐ ซึ่งประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาจะต้องจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงานรัฐบาลกลางทั้งหมด 438 แห่งก่อนวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แต่ที่ผ่านมาสมาชิกรัฐสภามักทำไม่ได้ตามกำหนดเวลา และมักผ่านร่างงบประมาณชั่วคราวเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลสามารถดำเนินการได้ต่อไปในระหว่างที่สมาชิกรัฐสภาหารือกันเพื่อผ่านร่างงบประมาณจริง ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุเมื่อเข้าสู่เช้าวันเสาร์ตามเวลาสหรัฐ สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันและพรรคเดโมแครตเตรียมร่างกฎหมายที่จะขยายเวลาไปจนถึงวันที่ 14 มีนาคม 2568 แต่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ว่าที่ประธานาธิบดีเรียกร้องให้สมาชิกรัฐสภาพรรครีพับลิกันลงมติไม่เห็นด้วย และเมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐลงมติไม่เห็นชอบร่างงบประมาณที่เสนอใหม่ ดังนั้นหากรัฐสภาไม่สามารถผ่านร่างงบประมาณฉบับใหม่ได้ก่อนที่ร่างงบประมาณชั่วคราวฉบับปัจจุบันจะหมดอายุ ก็จะเกิดการชัตดาวน์ เพดานหนี้ที่ทรัมป์ต้องการให้แก้ นายทรัมป์ยังต้องการให้สมาชิกรัฐสภาแก้ปัญหาเรื่องการกำหนดเพดานหนี้ประเทศให้รัฐบาลสามารถกู้ยืมได้มากขึ้น ก่อนที่เขาจะสาบานตนรับตำแหน่งประธานาธิบดีในวันที่ 20 มกราคม 2568 รัฐสภาสหรัฐเป็นผู้กำหนดเพดานหนี้สาธารณะที่อนุญาตให้รัฐบาลก่อหนี้ แต่เนื่องจากรัฐบาลมักใช้จ่ายมากกว่ารายได้ที่ได้จากการจัดเก็บภาษี สมาชิกรัฐสภาจึงต้องคอยแก้ปัญหานี้เป็นครั้งคราว รัฐสภาสหรัฐกำหนดเพดานหนี้สาธารณะครั้งแรกในปี 2482 โดยกำหนดไว้ที่ 45,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ราว 1.55 ล้านล้านบาทในปัจจุบัน) และนับจากนั้นเป็นต้นมาได้ขยายเพดานหนี้แล้วทั้งหมด 103 […]

ข่าวแนะนำ

ฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ส่งสุขรับปีใหม่

ส่งความสุขรับปีใหม่ กับฟรีคอนเสิร์ต “มหานครคัลเลอร์ฟูลปาร์ตี้ 2025” ศิลปินลูกทุ่งเกือบ 100 ชีวิต ร่วมโชว์จัดเต็ม

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลฯ “กานต์” ส่อเข้าป้าย

เลือกตั้งนายก อบจ.อุบลราชธานี “กานต์” หมายเลข 1 จากเพื่อไทย ส่อเข้าป้าย ด้าน ปชน. แถลงยอมรับยังไม่เป็นที่ไว้วางใจ ส่วนอุตรดิตถ์ “ชัยศิริ” อดีตนายก อบจ. ส่อเข้าวิน

เด้ง ตร.จราจร ปมคลิปรับเงินแลกไม่เขียนใบสั่ง

ผบก.ภ.จว.นนทบุรี สั่งย้าย “รอง สว.จร.สภ.รัตนาธิเบศร์” เซ่นคลิปรับเงินแลกไม่ออกใบสั่ง พร้อมตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริงภายใน 3 วัน ด้านเจ้าตัวอ้างไม่เห็นเงินที่วางบนโต๊ะในตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจร