ระยอง 9 พ.ค. – พบอีก 34 โรงงานกำจัดกากสารเคมี ผู้ว่าฯ ระยอง สั่งเฝ้าระวังเข้ม หวั่นเกิดเหตุไฟไหม้ซ้ำรอย ขณะที่ พฐ. เริ่มเข้าตรวจหาหลักฐานโกดังเก็บกากสารเคมีที่ถูกไฟไหม้แล้ว คาดต้องใช้เวลาหลายวัน ส่วนที่โกดังภาชี ก.อุตสาหกรรม เร่งจัดเก็บน้ำปนเปื้อนกรดออก ล่าสุดสูบออกแล้วกว่า 220 ถัง
จากกรณีเพลิงไหม้โรงงานกำจัดกากขยะสารเคมีอุตสาหกรรมของบริษัท วินโพรเสส จำกัด อ.บ้านค่าย จ.ระยอง เมื่อวันที่ 22 เมษายนที่ผ่านมา จนส่งผลกระทบต่อชุมชนรอบโรงงาน ทั้งปัญหากลิ่นเหม็น แสบตา แสบจมูก และน้ำเสียจากสารเคมี
ล่าสุด นายไตรภพ วงศ์ไตรรัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง สั่งการอุตสาหกรรมจังหวัดระยอง สำรวจตรวจสอบโรงงานอุตสาหกรรมที่รับดำเนินการของเสียอันตราย รวมถึงโรงงานที่มีความเสี่ยงอาจก่อผลกระทบต่อประชาชนและสิ่งแวดล้อม
จากการตรวจสอบพบว่าใน จ.ระยอง มีโรงงานที่ดำเนินกิจการในลักษณะเดียวกันและใกล้เคียงกับบริษัท วินโพรเสส จำนวน 34 โรง อยู่ในเขต อ.เมืองระยอง 10 โรง, อ.บ้านฉาง 2 โรง, อ.บ้านค่าย 4 โรง, อ.นิคมพัฒนา 13 โรง, อ.ปลวกแดง 4 โรง และ อ.วังจันทร์ 1 โรง ซึ่งอุตสาหกรรมจังหวัดจะเข้าตรวจสอบเข้มข้น เพื่อเฝ้าระวังไม่ให้เกิดเหตุซ้ำรอยอีก
เร่งจัดเก็บน้ำปนเปื้อนกรดออกจากโกดังภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา
ส่วนเหตุไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีของกลางที่ อ.ภาชี จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา และพบน้ำปนเปื้อนกรดเสื่อมสภาพไหลผสมกับน้ำดับเพลิง ดร.ณัฐพล รังสิตพล ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า กระทรวงอุตสาหกรรม และเครือข่ายภาคเอกชน ร่วมผนึกกำลังผ่านโครงการ “อุตสาหกรรมรวมใจช่วยพี่น้องชาวไทย” สนับสนุนถัง IBC หรือ Intermediate Bulk Container ขนาด 1,000 ลิตร จำนวน 286 ถัง เพื่อใช้ในการจัดเก็บน้ำที่หลงเหลือจากการฉีดน้ำดับเพลิงที่มีสภาพเป็นกรดออกจากพื้นที่โกดังนำไปบำบัดต่อไป พร้อมส่งรถแท็งก์ที่ใช้ในการขนส่งวัตถุอันตราย มาช่วยสูบน้ำที่ปนเปื้อนกรดออกจากพื้นที่ คาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสัปดาห์นี้ ขณะนี้สามารถสูบน้ำที่ปนเปื้อนกรดได้แล้วกว่า 220 ถัง พร้อมกำชับทุกขั้นตอนการนำสารเคมีและกากอุตสาหกรรมออกจากพื้นที่ รวมถึงการนำไปบำบัดและกำจัดต้องทำอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ.-สำนักข่าวไทย