ประจวบคีรีขันธ์ 9 พ.ค. – ผู้ว่าฯ ประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ติดตามการดับเพลิงบ่อขยะเก่าหัวหินที่ยังคงลุกไหม้ต่อเนื่องตั้งแต่วันที่ 4 พ.ค.ที่ผ่านมา พร้อมสั่งระดมรถช่วยดับเพลิง ล่าสุดชาวบ้าน 3 หมู่บ้านได้รับผลกระทบแล้ว
จากเหตุการณ์เพลิงไหม้บ่อขยะเก่า โซนเอและโซนบี กินพื้นที่เป็นวงกว้างกว่า 27 ไร่ ในพื้นที่ ต.ทับใต้ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเทศบาลเมืองหัวหิน และองค์การบริหารส่วนตำบลทับใต้ ระดมเจ้าหน้าที่เข้าดับเพลิง แต่เนื่องจากมีซากขยะเก่าอายุมากกว่า 10 ปี ทับถมกันสูงกว่า 5 เมตร มีความร้อนสะสมอยู่ด้านในเป็นจำนวนมาก ทำให้การฉีดน้ำดับเพลิงเป็นไปได้ยาก ไฟเกิดการปะทุขึ้นอย่างเนื่องและมีกลุ่มควันจากการเผาไหม้ขยะลอยขึ้นด้านบนกระจายไปตามทิศทางลม สร้างผลกระทบต่อประชาชนรอบบ่อขยะและพื้นที่ใกล้เคียง ประชาชนได้กลิ่นควันทั้งในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ต.ทับใต้ และ ต.หินเหล็กไฟ บางส่วน
ช่วงค่ำวานนี้ (8 พ.ค.) นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่ พบว่ายังมีเปลวไฟปะทุขึ้นมาและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น โดยจะมีการระดมรถบรรทุกน้ำและรถแบ็กโฮเข้ามาช่วยคุ้ยกองขยะและฉีดน้ำเข้าไป พร้อมขอใช้เครื่องพ่นน้ำระยะไกลเข้าไปช่วยอีกแรง
สิ่งที่น่าเป็นห่วงคือการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นนี้เป็นการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ และสารอินทรีย์ระเหยง่ายต่างๆ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ขณะนี้มีประชาชนรอบบ่อขยะ 3 หมู่บ้าน คือหมู่ 1, 10 และ 13 ของ ต.ทับใต้ ได้รับผลกระทบจากควันไฟ ต้องจัดทีมแพทย์เข้าไปดูแล
สำหรับสถานการณ์นี้คาดว่าอาจต้องใช้ระยะเวลาประมาณ 1 สัปดาห์ ส่วนจะมีการประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติหรือไม่นั้น ต้องรอผลการประเมินคุณภาพอากาศในวันนี้ (9 พ.ค.) และสถานการณ์โดยรวมทั้งหมดก่อน.-สำนักข่าวไทย