ยายวัย 75 ถูกทวงหนี้โหดใช้มือถือตบหน้ากระชากล้ม

นนทบุรี 8 พ.ค. – หลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือยายวัย 75 ปี ถูกแก๊งทวงหนี้โหด บุกทวงเงินที่ร้านไข่เจียว ใช้มือถือตบหน้า กระชากขึ้นรถ แต่ยายขัดขืนไม่ไป ล่าสุด ตำรวจรวบตัว 2 ผู้ก่อเหตุได้แล้ว อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล


จากกรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นางสุพัตรา หรือยายสุข อายุ 75 ปี แม่ค้าขายข้าวไข่เจียว เข้าแจ้งความกับ ตร. สภ.บางใหญ่ หลังเมื่อเวลา 13.00 น. ขณะขายข้าวไข่เจียวอยู่ที่ร้าน ถูกชายไม่ทราบชื่อ 2 คน ขับกระบะสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดหน้าร้านก่อนเดินเข้ามาทวงเงิน เมื่อไม่ได้เงิน กลับใช้โทรศัพท์มือถือตบเข้าที่หน้าอย่างแรง 1 ครั้งจนฟกช้ำ กระชากเสื้อจนล้มลง พร้อมท้าให้ไปแจ้งความและพยายามดึงตัวยายสุขขึ้นรถแต่ยายขัดขืนไม่ขึ้นรถไป เพราะกลัวว่าจะถูกพาไปทำร้าย ก่อนชายคนดังกล่าวจะเข้ามาพังข้าวของที่ร้านจนเละเทะ ถ่มน้ำลายใส่ ข่มขู่อีกว่า หากวันไหนเปิดร้านจะเข้ามาพังอีก โดยกรณีดังกล่าว มีภาพวงจรปิดขณะแก๊งเงินกู้ขับมาทวงหนี้ยายที่ร้าน แต่ไม่เห็นตอนทำร้าย หรือทำลายข้าวของในร้าน

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปร้าน ยายสุข ซึ่งยังคงเปิดร้านขายข้าวไข่เจียวตามปกติ ยายสุข บอกทั้งน้ำตาว่าตอนนี้ไม่สามารถปิดร้านได้เพราะต้องหาเงินเลี้ยงลูกชาย วัย 50 ปี ที่พิการนอนติดเตียง และก็ต้องหาเงิน เพื่อส่งดอกเงินกู้ให้เพียงพอ ถ้าหากแก๊งเงินกู้กลับมาทำร้ายอีกยายก็ทำใจ จะเอาชีวิตยายไปยายก็ยอม ยายยอมรับว่าที่ผ่านมากู้เงินนอกระบบ 10 กว่าเจ้า มีหลายเจ้าที่เห็นใจและสงสาร ก็ให้ยายผ่อนและอะลุ่มอล่วยเสมอมา มีเพียงเจ้านี้ซึ่งยายเองก็กู้มาจากคนชื่อก้อง ซึ่งตัวคนให้กู้ก็ไม่มีปัญหาอะไรหายไปนานเลย จนกระทั่งวานนี้ (7 พ.ค.) ลูกน้องของเขา 2 คน บุกมาทวงหนี้ทำร้ายยายถึงที่ร้าน ยายก็รู้สึกกลัวที่มาขายของวันนี้ ตอนนี้ทุนหายกำไรหด ก่อนเคยขายข้าวหลายอย่าง วันนี้ก็มาเหลือเพียงแค่ข้าวไข่เจียวอยากขอให้สงสารและเห็นใจ อย่าทำแบบนี้กับยายเลย


ยายสุข ยังให้ข้อมูลอีกว่าเมื่อช่วงเดือน เม.ย.66 ยายไปกู้เงินนอกระบบ 5,000 บาท กับแก๊งดังกล่าวส่งดอกลอยกับนายก้อง จ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียววันละ 100 บาท ไม่รวมเงินต้น ได้ส่งดอกทุกวันมาตลอด กระทั่งเมื่อเดือน พ.ย.- ธ.ค. ที่ผ่านมาภาครัฐ มีโครงการประนอมหนี้จึงได้นัดเจ้าหนี้ไปที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอยกเลิกดอกเบี้ย ขอจ่ายเงินต้นเพราะที่ผ่านมา จ่ายดอกทุกวันรวมๆ แล้ว เกือบ 20,000 บาท แต่เจ้าหนี้ไม่มาและไม่ได้มาเก็บเงินตั้งแต่นั้นมาจึงไม่ได้ส่งดอก จนมาเกิดเรื่องเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) และเดิมทีแก๊งดังกล่าวตั้งใจจะเข้ามาถามว่าต้องการเงินไหม แต่เขาบอกว่าหน้าคุ้นเลยโทรไปหาทีมงาน จึงรู้ว่ายายเคยกู้เงินจากเขาไปแล้วรอบนึง แล้วเขาก็เดินเข้ามาในร้านค้นกระเป๋า เอามือล้วงเข้าไปในเอี้ยมหาเงิน แล้วก็เอาโทรศัพท์มือถือตบเข้ามาที่หน้ายาย 1 ครั้ง กระชากเสื้อบอกว่าไปเจอกันที่โรงพัก และพยายามจะลากไปขึ้นรถแต่ตนกลัวจึงบอกไปว่าเดี๋ยวไปเอง เพราะไม่รู้ว่าเขาจะพาไปโรงพักจริงหรือไม่ ซ้ำยังเดินไปหน้าร้านทำลายข้าวของและถุยน้ำลายใส่ข้าวที่วางขายอยู่หน้าร้าน ซึ่งตอนนั้นก็มีลูกค้านั่งกินข้าวอยู่ และยังข่มขู่ ว่าถ้าไม่ได้เงินวันไหน ก็จะมาพังร้านอีก

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ที่ สภ.บางใหญ่ พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผู้บังคับการจังหวัดนนทบุรีพร้อมชุดสืบสวน ร่วมประชุม ติดตามตัวแก๊งทวงหนี้โหด เนื่องจากเป็นเหตุอุกอาจทำร้ายได้แม้กระทั่งคนแก่ โดยได้สอบปากคำ ยายสุข และพยานแวดล้อมทำให้ ทราบตัวคนก่อเหตุ ล่าสุด มีรายงานว่า ชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ ได้รวบตัว ชาย 2 คนลูกน้องนายทุน แก๊งทวงหนี้ ทำร้ายยายสุข ได้แล้ว ขณะเดียวกันจะขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้า หากศาลอนุมัติหมายจับ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จะแถลงข่าวอีกครั้ง เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุจะถูกแจ้งดำเนินคดี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และ พ.ร.บ.ปล่อยเงินกู้โดยผิดกฎหมาย

ขณะที่ ปลัดจังหวัดนนทบุรี บอกว่า เรื่องนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญ สั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือยายสุขทุกช่องทาง และนำกรณียายสุข เข้าโครงการช่วยเหลือต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ เช่น ตลาดนัดแก้หนี้ นอกจากนี้จะร่วมกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนกู้ยืมหมู่บ้านหรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันอีกครั้งเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือระยะยาว ซึ่งตอนนี้ พยายามรวบรวมข้อมูลของยายสุขว่าเป็นหนี้ทั้งหมดเท่าไหร่ มีเจ้าหนี้กี่ราย และจะช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าหนี้ ส่วนเจ้าหนี้รายนี้ ทราบข้อมูลว่า มีชาวบ้านหลายคน ถูกทำทำร้ายเช่นเดียวกับยาย ก็ขอให้เข้าแจ้งความ


ล่าสุด (16.30 น.) ที่ สภ.บางใหญ่ น.ส.จันทรา อายุ 53 ปี เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนสนิท พร้อมด้วยเงิน 10,000 บาท มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดต่อขอช่วยเหลือปลดหนี้ให้ กับ “ยายสุข” แม่ค้าขายข้าวไข่เจียว หลังจากทราบข่าว ถูกแก๊งทวงหนี้โหดทำร้ายร่างกาย โดยเจ้าตัวระบุว่า ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับคุณยาย แต่ทราบข่าวแล้วรู้สึกสงสาร จึงพูดคุยกับเพื่อนๆ และโพสต์เฟซบุ๊กนำเงินมาช่วยปลดหนี้ให้ อยากให้รัฐบางมีมาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่สามารถช่วยคนจนได้มากกว่านี้ เพราะจ่ายดอกเยอะมาก และยังถูกทำร้ายร่างกายอีก

ขณะที่ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 กำลังเตรียมแถลงข่าวหลังจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาแก๊งเงินกู้โหด พร้อมนำของกลาง รถกระบะที่ใช้ขับในวันก่อเหตุ และจ่อแจ้ง 3 ข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับในทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต, เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ยกหารือเวที UN พรุ่งนี้

สวีเดน 26 ส.ค.-“มาริษ” เผยสวีเดนกังวลสถานการณ์ไทย-กัมพูชา หลังกัมพูชาใช้โล่มนุษย์ยั่วยุในพื้นที่ต่อเนื่อง เตรียมยกเรื่องนี้หารือเวที UN ที่เจนีวา พรุ่งนี้ ยันยังไม่ส่งทูตกลับ จนกว่าเขมรแสดงให้เห็นว่าจริงใจ นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวภายหลังการหารือทวิภาคีกับนางมารีอา มัลเมอร์ สเตเนอร์การ์ด (Maria Malmer Stenergard) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศสวีเดน ถึงสถานการณ์ในพื้นที่ชายแดนไทย – กัมพูชา บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ที่มีการยั่วยุโดยใช้พลเรือนเป็นเครื่องมืออย่างต่อเนื่อง ว่า เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานในพื้นที่ต้องช่วยกันระมัดระวังไม่ให้เกิดการกระทบกระทั่งกัน เพราะเมื่อมีพลเรือนเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการทำงานของทางทหารก็จะยากลำบาก อาจจะนำไปสู่การสร้างความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น ดังนั้นหน่วยงานที่เป็นพลเรือนในพื้นที่ก็จำเป็นจะต้องเข้ามาดูแลและแก้ไขสถานการณ์ตรงนี้ นายมาริษ กล่าวว่า ในการพบหารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของสวีเดน ตนได้อธิบายให้เข้าใจว่า เรื่องนี้เป็นสิ่งที่กัมพูชาพยายามใช้ ซึ่งขัดต่อความตกลงในกฎบัตรสหประชาชาติเป็นอย่างมาก เหมือนกับใช้ประชาชนและพลเรือนเป็นโล่มนุษย์ เพื่อที่จะทำให้สถานการณ์แย่ลงไปอีก ถือเป็นสิ่งที่ไม่ควรทำอย่างยิ่ง ซึ่งประเทศสวีเดนก็เข้าใจ และพรุ่งนี้ (27 ส.ค.) ตนจะมีโอกาสได้ชี้แจงกับที่ประชุม UN ที่นครเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ ตนจะยกประเด็นนี้ขึ้นแสดงความห่วงกังวลว่า การใช้วิธีเอาพลเรือนมาเป็นตัวกดดัน หรือมาสร้างความตึงเครียด หรือขยายความตึงเครียดบริเวณชายแดนมากยิ่งขึ้น เป็นสิ่งที่ไม่ควรกระทำ […]

พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์ถล่มหลายจังหวัดภาคเหนือ น่านยกระดับรับมือ

26 ส.ค. – พายุคาจิกิเริ่มแผลงฤทธิ์แล้ว หลายจังหวัดทางภาคเหนือมีฝนตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก จนมีน้ำท่วมหลายพื้นที่ และต้องจับตาไปที่จังหวัดน่าน ซึ่งพายุคาจิกิเคลื่อนตัวเข้าสู่พื้นที่และเริ่มส่งผลกระทบตั้งแต่ช่วงค่ำวันนี้ ทำให้จังหวัดน่านยกรระดับมาตรการป้องกันและเตรียมรับมือกับน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่ม.-สำนักข่าวไทย

Gripen ที่จัดซื้อใหม่ประสิทธิภาพดีกว่าลำเดิมที่มีอยู่

สวีเดน 26 ส.ค. – แม้รัฐบาลไทยและสวีเดนได้ลงนามความร่วมมือซื้อเครื่องบินขับไล่โจมตีกริพเพน E และ F ไปแล้ว แต่กว่าจะได้รับเครื่อง จะต้องใช้เวลาอีกอย่างน้อย 4 ปี ระหว่างนี้จะมีการวางกรอบพัฒนาร่วมกัน แน่นอนว่ารุ่นใหม่สเปกใหม่ดีกว่ารุ่นเก่าที่เรามี แตกต่างอย่างไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

คนไทยรวมพลังร้องเพลงชาติกึกก้องบ้านหนองจาน

26 ส.ค. – ชาวไทยกว่า 500 คน รวมตัวร้องเพลงชาติ ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ บริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว แสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย เมื่อเวลา 12.30 น. วันนี้ (26 ส.ค.68) ประชาชนไทยกว่า 500 คน มารวมตัวกันบริเวณชายแดนบ้านหนองจาน อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว ชูธงไตรรงค์เหนือศีรษะ และร่วมกันร้องเพลงชาติไทย จนเสียงดังกึกก้องไปทั่วบริเวณ เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ว่าแผ่นดินนี้คือแผ่นดินไทย และพร้อมยืนหยัดเคียงข้างกองทัพในการปกป้องอธิปไตย ชาวบ้านยังจัดเตรียมอาหาร น้ำดื่ม และสิ่งของจำเป็น ไปมอบให้ทหาร เพื่อเป็นขวัญกำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ ด้านเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคง เข้าควบคุมสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และขอความร่วมมือประชาชนที่มาร่วมชุมนุมให้อยู่ในแนวพื้นที่ที่กำหนดไว้เพื่อป้องกันการเผชิญหน้า “เจ๊เอ๋” ณัฐฐารินทร์ เกษมสารพิพัฒน์ เจ้าหนี้คนดัง บอกว่า วันนี้ประชาชนคนไทยต้องมาเผชิญหน้ากับชาวกัมพูชาด้วยตัวเอง เพราะผู้มีหน้าที่โดยตรงนิ่งเฉย ส่วนที่บริเวณบ้านหนองหญ้าแก้ว พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย และพลโทวันชนะ สวัสดี นำคณะลงพื้นที่ พบมีชาวกัมพูชาสร้างบ้านเรือนรุกล้ำเขตไทย 18 หลัง […]