ยายวัย 75 ถูกทวงหนี้โหดใช้มือถือตบหน้ากระชากล้ม

นนทบุรี 8 พ.ค. – หลายหน่วยงานเข้าช่วยเหลือยายวัย 75 ปี ถูกแก๊งทวงหนี้โหด บุกทวงเงินที่ร้านไข่เจียว ใช้มือถือตบหน้า กระชากขึ้นรถ แต่ยายขัดขืนไม่ไป ล่าสุด ตำรวจรวบตัว 2 ผู้ก่อเหตุได้แล้ว อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผล


จากกรณีเมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ สภ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี นางสุพัตรา หรือยายสุข อายุ 75 ปี แม่ค้าขายข้าวไข่เจียว เข้าแจ้งความกับ ตร. สภ.บางใหญ่ หลังเมื่อเวลา 13.00 น. ขณะขายข้าวไข่เจียวอยู่ที่ร้าน ถูกชายไม่ทราบชื่อ 2 คน ขับกระบะสีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน มาจอดหน้าร้านก่อนเดินเข้ามาทวงเงิน เมื่อไม่ได้เงิน กลับใช้โทรศัพท์มือถือตบเข้าที่หน้าอย่างแรง 1 ครั้งจนฟกช้ำ กระชากเสื้อจนล้มลง พร้อมท้าให้ไปแจ้งความและพยายามดึงตัวยายสุขขึ้นรถแต่ยายขัดขืนไม่ขึ้นรถไป เพราะกลัวว่าจะถูกพาไปทำร้าย ก่อนชายคนดังกล่าวจะเข้ามาพังข้าวของที่ร้านจนเละเทะ ถ่มน้ำลายใส่ ข่มขู่อีกว่า หากวันไหนเปิดร้านจะเข้ามาพังอีก โดยกรณีดังกล่าว มีภาพวงจรปิดขณะแก๊งเงินกู้ขับมาทวงหนี้ยายที่ร้าน แต่ไม่เห็นตอนทำร้าย หรือทำลายข้าวของในร้าน

ล่าสุดวันนี้ผู้สื่อข่าวเดินทางลงพื้นที่ไปร้าน ยายสุข ซึ่งยังคงเปิดร้านขายข้าวไข่เจียวตามปกติ ยายสุข บอกทั้งน้ำตาว่าตอนนี้ไม่สามารถปิดร้านได้เพราะต้องหาเงินเลี้ยงลูกชาย วัย 50 ปี ที่พิการนอนติดเตียง และก็ต้องหาเงิน เพื่อส่งดอกเงินกู้ให้เพียงพอ ถ้าหากแก๊งเงินกู้กลับมาทำร้ายอีกยายก็ทำใจ จะเอาชีวิตยายไปยายก็ยอม ยายยอมรับว่าที่ผ่านมากู้เงินนอกระบบ 10 กว่าเจ้า มีหลายเจ้าที่เห็นใจและสงสาร ก็ให้ยายผ่อนและอะลุ่มอล่วยเสมอมา มีเพียงเจ้านี้ซึ่งยายเองก็กู้มาจากคนชื่อก้อง ซึ่งตัวคนให้กู้ก็ไม่มีปัญหาอะไรหายไปนานเลย จนกระทั่งวานนี้ (7 พ.ค.) ลูกน้องของเขา 2 คน บุกมาทวงหนี้ทำร้ายยายถึงที่ร้าน ยายก็รู้สึกกลัวที่มาขายของวันนี้ ตอนนี้ทุนหายกำไรหด ก่อนเคยขายข้าวหลายอย่าง วันนี้ก็มาเหลือเพียงแค่ข้าวไข่เจียวอยากขอให้สงสารและเห็นใจ อย่าทำแบบนี้กับยายเลย


ยายสุข ยังให้ข้อมูลอีกว่าเมื่อช่วงเดือน เม.ย.66 ยายไปกู้เงินนอกระบบ 5,000 บาท กับแก๊งดังกล่าวส่งดอกลอยกับนายก้อง จ่ายดอกเบี้ยอย่างเดียววันละ 100 บาท ไม่รวมเงินต้น ได้ส่งดอกทุกวันมาตลอด กระทั่งเมื่อเดือน พ.ย.- ธ.ค. ที่ผ่านมาภาครัฐ มีโครงการประนอมหนี้จึงได้นัดเจ้าหนี้ไปที่ศูนย์ดำรงธรรม เพื่อขอยกเลิกดอกเบี้ย ขอจ่ายเงินต้นเพราะที่ผ่านมา จ่ายดอกทุกวันรวมๆ แล้ว เกือบ 20,000 บาท แต่เจ้าหนี้ไม่มาและไม่ได้มาเก็บเงินตั้งแต่นั้นมาจึงไม่ได้ส่งดอก จนมาเกิดเรื่องเมื่อวานนี้ (7 พ.ค.) และเดิมทีแก๊งดังกล่าวตั้งใจจะเข้ามาถามว่าต้องการเงินไหม แต่เขาบอกว่าหน้าคุ้นเลยโทรไปหาทีมงาน จึงรู้ว่ายายเคยกู้เงินจากเขาไปแล้วรอบนึง แล้วเขาก็เดินเข้ามาในร้านค้นกระเป๋า เอามือล้วงเข้าไปในเอี้ยมหาเงิน แล้วก็เอาโทรศัพท์มือถือตบเข้ามาที่หน้ายาย 1 ครั้ง กระชากเสื้อบอกว่าไปเจอกันที่โรงพัก และพยายามจะลากไปขึ้นรถแต่ตนกลัวจึงบอกไปว่าเดี๋ยวไปเอง เพราะไม่รู้ว่าเขาจะพาไปโรงพักจริงหรือไม่ ซ้ำยังเดินไปหน้าร้านทำลายข้าวของและถุยน้ำลายใส่ข้าวที่วางขายอยู่หน้าร้าน ซึ่งตอนนั้นก็มีลูกค้านั่งกินข้าวอยู่ และยังข่มขู่ ว่าถ้าไม่ได้เงินวันไหน ก็จะมาพังร้านอีก

ส่วนความคืบหน้าทางคดี ที่ สภ.บางใหญ่ พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รองผู้บังคับการจังหวัดนนทบุรีพร้อมชุดสืบสวน ร่วมประชุม ติดตามตัวแก๊งทวงหนี้โหด เนื่องจากเป็นเหตุอุกอาจทำร้ายได้แม้กระทั่งคนแก่ โดยได้สอบปากคำ ยายสุข และพยานแวดล้อมทำให้ ทราบตัวคนก่อเหตุ ล่าสุด มีรายงานว่า ชุดสืบสวน สภ.บางใหญ่ ได้รวบตัว ชาย 2 คนลูกน้องนายทุน แก๊งทวงหนี้ ทำร้ายยายสุข ได้แล้ว ขณะเดียวกันจะขออนุมัติหมายจับจากศาลจังหวัดนนทบุรี เนื่องจากเป็นความผิดซึ่งหน้า หากศาลอนุมัติหมายจับ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 จะแถลงข่าวอีกครั้ง เบื้องต้น ผู้ก่อเหตุจะถูกแจ้งดำเนินคดี ในข้อหาทำร้ายร่างกาย และ พ.ร.บ.ปล่อยเงินกู้โดยผิดกฎหมาย

ขณะที่ ปลัดจังหวัดนนทบุรี บอกว่า เรื่องนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดให้ความสำคัญ สั่งการให้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งช่วยเหลือยายสุขทุกช่องทาง และนำกรณียายสุข เข้าโครงการช่วยเหลือต่างๆ ของหน่วยงานภาครัฐ เช่น ตลาดนัดแก้หนี้ นอกจากนี้จะร่วมกับกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กองทุนกู้ยืมหมู่บ้านหรือหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องประชุมร่วมกันอีกครั้งเพื่อหาแนวทางช่วยเหลือระยะยาว ซึ่งตอนนี้ พยายามรวบรวมข้อมูลของยายสุขว่าเป็นหนี้ทั้งหมดเท่าไหร่ มีเจ้าหนี้กี่ราย และจะช่วยเจรจาไกล่เกลี่ยกับทางเจ้าหนี้ ส่วนเจ้าหนี้รายนี้ ทราบข้อมูลว่า มีชาวบ้านหลายคน ถูกทำทำร้ายเช่นเดียวกับยาย ก็ขอให้เข้าแจ้งความ


ล่าสุด (16.30 น.) ที่ สภ.บางใหญ่ น.ส.จันทรา อายุ 53 ปี เดินทางมาพร้อมกับเพื่อนสนิท พร้อมด้วยเงิน 10,000 บาท มาเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อติดต่อขอช่วยเหลือปลดหนี้ให้ กับ “ยายสุข” แม่ค้าขายข้าวไข่เจียว หลังจากทราบข่าว ถูกแก๊งทวงหนี้โหดทำร้ายร่างกาย โดยเจ้าตัวระบุว่า ไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัวกับคุณยาย แต่ทราบข่าวแล้วรู้สึกสงสาร จึงพูดคุยกับเพื่อนๆ และโพสต์เฟซบุ๊กนำเงินมาช่วยปลดหนี้ให้ อยากให้รัฐบางมีมาตรการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ที่สามารถช่วยคนจนได้มากกว่านี้ เพราะจ่ายดอกเยอะมาก และยังถูกทำร้ายร่างกายอีก

ขณะที่ พล.ต.ท.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบช.ภ.1 กำลังเตรียมแถลงข่าวหลังจับกุมตัว 2 ผู้ต้องหาแก๊งเงินกู้โหด พร้อมนำของกลาง รถกระบะที่ใช้ขับในวันก่อเหตุ และจ่อแจ้ง 3 ข้อหา ร่วมกันทำร้ายร่างกาย, ร่วมกันประกอบธุรกิจให้สินเชื่อบุคคลภายใต้กำกับในทางการค้าปกติโดยไม่ได้รับอนุญาต, เรียกดอกเบี้ยเกินอัตรากำหนด.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ยันไม่เคยสั่งกำลังพลไปเก็บศพเขมร อย่าเชื่อข่าวปลอม

5 ส.ค. – แม่ทัพภาคที่ 2 ยืนยันไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชา บริเวณชายแดน ขออย่าหลงเชื่อข่าวปลอม เมื่อวันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า จากกรณีที่สื่อโซเชียลมีเดียได้ลงข้อความอันเป็นเท็จ ที่ทำให้พี่น้องประชาชนเข้าใจผิดว่า แม่ทัพภาคที่ 2 ได้สั่งให้กำลังพลไปเก็บศพชาวกัมพูชาที่อยู่บริเวณชายแดนนั้น ตนยืนยันว่าไม่เป็นความจริง และไม่เคยมีคำสั่งให้กำลังพลไปปฏิบัติอย่างนั้น ผู้เสียชีวิตนั้นเป็นชาวกัมพูชา ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับทางประเทศไทย “ผมไม่เคยมีคำสั่งแบบนี้ และขอยืนยันว่า ข่าวที่ออกมานั้นเป็นข่าวปลอม ขอให้พี่น้องประชาชนอย่าได้หลงเชื่อ“ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว.-313-สำนักข่าวไทย

ทหารไทยยอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง

ศรีสะเกษ 5 ส.ค. – วันนี้ยังมีการเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงเข้ามาในพื้นที่พลเรือนฝั่งไทย ส่วนเมื่อคืนนี้ (4 ส.ค.) เป็นคืนแรกของการประชุม GBC ชุด ชรบ.หมู่บ้านแนวชายแดน อ.กันทรลักษ์ จึงออกตรวจตราเข้มข้น ขณะที่ทหารแนวหน้ายอมรับได้กลิ่นศพทหารกัมพูชาจริง ทีมข่าวมีโอกาสได้พูดคุยกับทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา สอบถามถึงเรื่องที่กำลังเป็นประเด็น คือกลิ่นศพของทหารกัมพูชา ทหารยอมรับว่ามีกลิ่นจริง และมีศพทหารกัมพูชาถูกทิ้งไว้จริง แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เพราะอยู่ในระหว่างการปฏิบัติหน้าที่ หากมีหน้ากากอนามัยเชื่อว่าจะช่วยบรรเทาได้บ้าง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้มีหน้ากาก N95 ส่งถึงพื้นที่บ้างแล้ว พร้อมขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ส่งกำลังใจ ทหารยังพร้อมปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มกำลังความสามารถ วันนี้ทีมข่าวยังเกาะติดภารกิจเก็บกู้ระเบิดที่กัมพูชายิงใส่พื้นที่พลเรือนของไทยใน อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ จุดแรก จรวด BM-21 ถูกกัมพูชายิงตกใส่ลงทุ่งนาของชาวบ้าน พื้นที่ ต.ทุ่งใหญ่ เมื่อวันที่ 24 กรกฎาคม วันเดียวกับที่ยิงใส่ปั๊ม ปตท.บ้านผือ โดยห่างกันราว 1 กิโลเมตร ส่วนอีกจุดเป็นการทำลายลูกจรวด PG-7 ที่ถูกยิงจากเครื่องยิงจรวด RPG ตกลงในสวนยางพาราของชาวบ้าน ต.เสาธงชัย อ.กันทรลักษ์ ที่ถูกพบในสภาพพร้อมทำงาน จุดนี้อยู่ห่างจากชายแดนกัมพูชาเพียง […]

เปิดศักยภาพ Gripen เขี้ยวเล็บใหม่กองทัพอากาศไทย

5 ส.ค. – เปิดคุณสมบัติโดดเด่นของ “กริพเพน” เครื่องบินรบฝูงใหม่ ซึ่งกองทัพอากาศและประเทศไทยกำลังจะทำสัญญาจัดซื้อจากสวีเดน .-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ขึ้นภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท นำร้องเพลงชาติไทย

5 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ตรวจเยี่ยมภูมะเขือ ย้ำกำลังพลไม่ประมาท ปกป้องอธิปไตย พร้อมร่วมร้องเพลงชาติ เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่หน่วยเฉพาะกิจที่ 1 กองกำลังสุรนารี พื้นที่ภูมะเขือ อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยได้ทำการเดินลาดตระเวน ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่วางกำลังฐานปฏิบัติการ ทั้งนี้ มีพระสงฆ์จำนวน 3 รูปจากวัดใกล้เคียง มารอแม่ทัพภาคที่ 2 เพื่อมอบวัตถุมงคลและให้กำลังใจในการปฏิบัติหน้าที่ พร้อมให้พรกำลังพลทุกนาย ให้แคล้วคลาดปลอดภัยจากอันตรายต่างๆ จากนั้นแม่ทัพภาคที่ 2 ได้ฟังบรรยายสรุปสถานการณ์ในพื้นที่ภูมะเขือ โดยเน้นย้ำให้อยู่ในความไม่ประมาท ปฏิบัติหน้าที่รักษาอธิปไตยของชาติ ด้วยความปลอดภัยและให้ดูแลรักษาสุขภาพให้ดี จากนั้น พล.ท.บุญสิน ได้ให้กำลังพลเปลี่ยนธงชาติไทยผืนใหญ่กว่าเดิม นำร้องเพลงชาติบนยอดภูมะเขือร่วมกัน ก่อนเดินทางกลับได้มอบเครื่องอุปโภคบริโภคและถ่ายรูปร่วมกับกำลังพล -สำนักข่าวไทย