สุราษฎร์ธานี 2 พ.ค.- ชาวสวนยางพาราใน จ.สุราษฎร์ธานี เลี้ยงผึ้งโพรงในสวนยาง สร้างรายได้งาม รอบละ 3-4 หมื่นบาท คว้ารางวัลชมเชยการประกวดน้ำผึ้งโพรงคุณภาพดีระดับประเทศเป็นเครื่องการันตี
นายสุรเดช จวนศรี อายุ 40 ปี เจ้าของชาวสวนยางพารา ต.กรูด อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี บอกว่า อยากหาอาชีพเสริมที่ทำควบคู่กับทำสวนยางพารา จึงหันมาเลี้ยงผึ้งโพรง โดยศึกษาเรียนรู้การเลี้ยงจากอำเภอใกล้เคียง เพราะมองว่าการเลี้ยงผึ้งโพรงลงทุนเพียงครั้งเดียวก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ตลอดทั้งปี ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 6 แล้ว สามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวปีละไม่น้อยกว่า 6 หมื่นบาท นอกจากนั้นยังมีการรวมกลุ่มกันมีสมาชิก 14 คน 850 รัง
ส่วนการขาย ส่วนใหญ่จะขายผ่านตลาดออนไลน์ ซึ่งสมาชิกจะมีรายได้เสริมจากการเลี้ยงผึ้งโพรง 3-4 หมื่นบาทต่อคน ถือเป็นรายได้ที่น่าพอใจมาก ส่วนการตลาด เป็นที่ต้องการของลูกค้าสามารถจำหน่ายได้เรื่อย ๆ ราคาก็ไม่ตกต่ำ ขนาดขวด 70 ML ขาย 350 บาท รังผึ้งสดกล่องละ 100 บาท และขณะนี้สินค้าที่ตลาดมีความต้องการมากขึ้น คือ รวงผึ้งสด หรือขี้ผึ้งสด เพื่อใช้ล่อผึ้งโพรงไทยเข้ารัง โดยจำหน่ายให้กับลูกค้าชิ้นละ 20 บาท ขายแพ็คละ 5 ชิ้น หรือ 100 บาท ซึ่งเป็นที่ต้องการของผู้ที่จะเลี้ยงผึ้งรายใหม่นำไปใช้จำนวนมาก แต่ละวันจะมีลูกค้าสั่งจองไม่น้อยกว่า 10-15 แพ็ค ภายใต้ชื่อน้ำผึ้งโพรงไทย บ่าว มลฟาร์ม
นายสุรเดช บอกว่า น้ำผึ้งโพรงของตนจะมีความแตกต่างจากผึ้งโพรงทั่วไป เนื่องจากเมื่อได้น้ำผึ้งโพรงมาแล้วทำการคัดแยกรังผึ้งออกมาแล้วนำไปใส่ถังหรือภาชนะขนาดใหญ่ เพื่อระบายหรือไล่ความชื้นจะทำให้น้ำผึ้งหอมมาก ใช้เวลาไม่น้อยกว่า 7 วันในการเก็บก่อนที่จะนำไปใส่ขวด
ความแตกต่างระหว่างน้ำผึ้งโพรงกับน้ำผึ้งทั่วไป คือ การไล่ความชื้น ทำให้ความหอมของน้ำผึ้งมีมากขึ้น หากได้น้ำผึ้งมาแล้วและนำมาบรรจุขวดทันทีจะทำให้ขวดระเบิด เนื่องจากทั้งน้ำผึ้งและในขวดยังมีความชื้นอยู่มาก
ขณะเดียวกันน้ำผึ้งโพรงไทย บ่าว มลฟาร์ม ยังได้รับรางวัลชมเชยการประกวดน้ำผึ้งโพรงคุณภาพดีระดับประเทศ .-สำนักข่าวไทย