สั่งตั้งกรรมการสอบรอง ผอ.รร.แห่งหนึ่งในขอนแก่น รับสินบน

ขอนแก่น 1 พ.ค. – ผอ.สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาขอนแก่นเขต 1 สั่งโรงเรียนตั้งกรรมการสอบข้อเท็จจริง รอง ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง เรียกรับสินบนเป็นเงินเพื่อรับย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา


สืบเนื่องจากสำนักสืบสวนและกิจการพิเศษ ประสานข้อมูลจากนายธีรัตน์ บางเพ็ชร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดขอนแก่น ว่าได้รับเรื่องร้องเรียนกล่าวหารองผู้อำนวยการโรงเรียนแห่งหนึ่งใน จ.ขอนแก่น มีพฤติการณ์ใช้อำนาจในตำแหน่งหน้าที่เรียกรับสินบนเป็นเงินเพื่อรับย้ายนักเรียนระหว่างปีการศึกษา โดยรองผู้อำนวยการคนดังกล่าวแจ้งกับผู้กล่าวหาซึ่งเป็นผู้ปกครองที่ต้องการย้ายบุตรเข้าไปเรียนในชั้นป. 3 ของโรงเรียนดังกล่าว ว่าต้องบริจาคเงิน 20,000 บาท แต่เนื่องจากบุตรของผู้กล่าวหาผ่านเกณฑ์อ่านออกเขียนได้ จึงลดให้เหลือ 10,000 บาท จ่ายเป็นเงินสดเท่านั้น ไม่ได้จ่ายที่ห้องการเงินเหมือนค่าเทอม พร้อมแจ้งว่าเป็นเงินบริหารที่เป็นอัตราราคาตามที่คณะกรรมการคณะครูของโรงเรียนได้ตกลงกันว่าจะเรียกรับเงินเป็นเงินสดเท่านั้น

รวมถึงมิได้แจ้งว่าเงินจำนวนดังกล่าวเป็นการรับบริจาคให้แก่โรงเรียนตามระเบียบ หรือเป็นเงินที่ขอเก็บไปเพื่อนำไปใช้เป็นค่าใช้จ่ายด้านใดของโรงเรียนหรือนักเรียน ทั้งยังไม่ได้แจ้งว่าจะทำการออกใบเสร็จรับเงินให้ หรือให้นำเงินไปจ่ายกับฝ่ายการเงินของโรงเรียนแต่อย่างใด เพียงแต่แจ้งว่าให้นำเงินจำนวนดังกล่าวมาให้กับทางรองผู้อำนวยการคนดังกล่าวในห้อง ซึ่งเป็นห้องทำงานส่วนตัวโดยตรง และหากจ่ายเงินจำนวนดังกล่าวแล้วจะได้เข้าเรียนที่โรงเรียนดังกล่าว ทั้งที่บุตรของผู้กล่าวหาก็ผ่านการทดสอบ และในใบสมัครเรียนหรือเอกสารอื่นใดของโรงเรียนก็ไม่ได้มีการแจ้งให้ทราบ และเผยแพร่เป็นการทั่วไปถึงการเรียกเก็บเงินดังกล่าว


วันนี้ นายบุญเย็น โหว่สงคราม รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาขอนแก่นเขต 1 หรือ สพป.ขก.เขต 1 เปิดเผยว่า รองผู้อำนวยการคนดังกล่าว ถูกแจ้งข้อหาตามมาตรา 147 และ 157 โดยมีผู้อำนวยการโรงเรียนใช้ตำแหน่งมาประกันตัวรองผู้อำนวยการออกไป

ด้านนายอารยันต์ แสงนิกุล ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาขอนแก่นเขต 1 สั่งการให้โรงเรียนตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้เวลาสรุปเรื่องทั้งหมดวันนี้ (1 พ.ค.) ก่อนจะส่งมาให้ทางสำนักงานรับทราบ ก่อนที่จะตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงขึ้นมาจะให้ทางนิติกรของสำนักเป็นผู้รับผิดชอบ คาดว่าจะใช้เวลาตรวจสอบ 30 วัน พร้อมกับมีคำสั่งให้รองผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวย้ายมาช่วยราชการที่สำนักงานฯ จนกว่าจะมีการสอบสวนเรื่องที่เกิดขึ้นแล้วเสร็จ จากนั้นจะมีการพิจารณาความผิดว่าเข้าข่ายใด ที่ผ่านมาทางสำนักงานเชิญเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. และ สตง. มาอบรมให้ความรู้กับทางผู้บริหารโรงเรียน เพื่อเป็นการป้องกันการทุจริต แต่สุดท้ายก็มาเกิดเรื่องร้องเรียนไปยัง ป.ป.ช. จนถูกเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. วางแผนรับเงินแป๊ะเจี๊ยะ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สามีเข้าเกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาดับ

สลด! สามีขับรถใส่เกียร์ค้างไว้ สตาร์ทรถพุ่งชนภรรยาเสียชีวิตในบ้านพักย่านวิภาวดี ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อคำให้การเบื้องต้น นำตัวสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง

คุมฝากขัง “เอ็ม เอกชาติ” เจ้าตัวปิดปากเงียบ

ตร.ไซเบอร์คุมตัว “เอ็ม เอกชาติ” ฝากขัง เจ้าตัวปิดปากเงียบ ไม่ตอบคำถามสื่อ ด้านตำรวจพบเส้นทางการเงินจากเว็บพนัน กว่า 30 ล้านบาท

ข่าวแนะนำ

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหาย 18 จังหวัด

บกปภ.ช. รายงานสถานการณ์แผ่นดินไหว เสียหายเพิ่มขึ้นเป็น 18 จังหวัด เฉพาะกรุงเทพฯ เสียชีวิต 9 ราย สูญหาย 79 ราย ยังคงเร่งค้นหาผู้รอดชีวิตจากอาคารถล่ม ขณะที่กรมบัญชีกลางขยายวงเงินทดรองราชการเพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน 200 ล้านบาท

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่ม

ยังไม่หมดหวัง กทม. เดินหน้าเต็มที่กู้ชีพตึกถล่มจตุจักร เข้าสู่ 48 ชม. นานาชาติร่วมส่งเครื่องมือช่วยเหลือ พร้อมเร่งจัดการจราจรให้ทันวันพรุ่งนี้

หุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot สแกนตึกถล่มหนุนภารกิจกู้ภัย

มจพ. นำหุ่นยนต์กู้ภัย iRAP Robot เข้าพื้นที่สแกนตรวจสอบโครงสร้างตึกถล่ม ประเมินความปลอดภัย ก่อนให้กู้ภัยเข้าช่วยเหลือผู้รอดชีวิต ด้านครอบครัวยังเฝ้ารออย่างมีความหวัง