ระยอง 28 เม.ย.- เหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงานที่ระยอง ล่าสุดพบบางจุดมีไอระเหยสารเคมี ส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ
เมื่อวานนี้ กรมควบคุมมลพิษร่วมกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม ติดตามผลกระทบจากเหตุเพลิงไหม้โกดังโรงงาน บริษัท วินโพรเสส จำกัด จ.ระยอง พบบริเวณโกดังที่ 3 เป็นจุดไหม้ในชั้นกองกากตะกรันอลูมิเนียม คุณภาพอากาศรอบโรงงานพื้นที่ชุมชน ช่วง 300 เมตร – 7 กิโลเมตร และเพิ่มเติมจุดที่รับร้องเรียนไปถึง 25 กิโลเมตร พบมีไอระเหยสารเคมี 10 ชนิด ใน ต.บางบุตร หมู่ 4 และ 8 ต.หนองบัว หมู่ 2, 3 และ 11 ต.หนองบัว ต.บางบุตร ต.ละหาร และต.ตาสิทธิ์ อยู่ในระดับส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ระคายเคืองตา และผิวหนัง กรมควบคุมมลพิษได้ออกคำแนะนำประชาชนในพื้นที่รับผลกระทบ สังเกตอาการตนเอง หากผิดปกติควรพบแพทย์ ส่วนกลุ่มเปราะบาง อาทิ ผู้สูงอายุ เด็ก และมีปัญหาสุขภาพ ควรพักที่ศูนย์อพยพ เพื่ออยู่ในการดูแลของเจ้าหน้าที่สาธารณสุข จากนี้หน่วยเกี่ยวข้องจะเร่งนำกากเคมีอันตรายไปกำจัดให้ถูกต้อง
ทั้งนี้ บริษัท วิน โพรเสส จำกัด ถูกร้องเรียนเมื่อปี 2556 กระทั่งปี 2564 ได้เข้าสู่กระบวนการของศาลและมีคำพิพากษาให้บริษัทกำจัดกากของเสียและสารเคมีทั้งหมด โดยว่าจ้างบริษัท เอส.เค. อินเตอร์เคมิคอล จำกัด เข้ามารับกำจัดกาก จนเดือนธันวาคม 2566 สัญญาตามคำสั่งศาลสิ้นสุดลง แต่งานยังไม่แล้วเสร็จ ประกอบกับเกิดเหตุเพลิงไหม้ขึ้น กรมโรงงานอุตสาหกรรมจึงเห็นว่า หากไม่รีบดำเนินการจะส่งผลกระทบหลายด้าน จึงขอเข้าพบอัยการจังหวัดระยองหารือแนวทางดำเนินการตามคำสั่งศาล โดยขอให้กรมโรงงานอุตสาหกรรมบริหารจัดการกากของเสียที่เหลือตามกรอบวงเงินที่จำเลยวางไว้ต่อศาลจากการเข้าตรวจสถานการณ์ของนายกรัฐมนตรี เมื่อวานนี้ สั่งการกระทรวงมหาดไทย ควบคุมสถานการณ์ให้เข้าสู่สภาวะปกติ พร้อมจัดทำแผนเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ โดยสามารถลงทะเบียนที่ศูนย์ดำรงธรรม ต.หนองบัว และที่ อบต.บางบุตร
ล่าสุด มีรายงานสามารถควบคุมเพลิง และอุณหภูมิใต้กองซากกากอุตสาหกรรมไม่ให้สูงกว่า 100 องศาฯ ได้แล้ว ขณะที่ศูนย์อพยพทั้ง 2 จุด มีผู้อพยพเหลือ 17 คน ส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุมีโรคประจำตัว ส่วนจุดที่ 2 อบต.บางบุตร เช้าวันนี้ผู้อพยพกลับเข้าบ้านพักแล้ว 1 คน ชาวบ้านหนองพะวา ฝากถึงเจ้าของโรงงาน ควรถามไถ่ชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ ชาวบ้านต้องอพยพ ผ่านมาเป็นสัปดาห์แล้ว ก็อยากให้หันมาเหลียวแลบ้าง และอยากให้รับผิดชอบสังคมในกระบวนการผลิตงาน .-สำนักข่าวไทย